ตลอดระยะเวลากว่า 2 ทศวรรษ ที่ “ครูนริศ” นริศ ประธรรมสาร เข้าสู่วงการการทำทีมวอลเลย์บอลโรงเรียนระดับมัธยมอย่างเต็มตัว และพาทีมต้นสังกัดประสบความสำเร็จมากมาย ทั้งในระดับภูมิภาค และระดับประเทศ
ชื่อของ โรงเรียนวังลิ้นฟ้าวิทยาคม และโดยเฉพาะอย่างยิ่งชื่อของ โรงเรียนหนองกุงศรีวิทยาคาร จากจังหวัดกาฬสินธุ์ ที่ครูนริศ เป็นคนเริ่มปลุกปั้นให้โด่งดังในด้านวอลเลย์บอล เป็นที่คุ้นหูของแฟนวอลเลย์บอลอย่างแน่นอน
จนวันนี้เจ้าตัว ย้ายต้นสังกัดจาก จังหวัดกาฬสินธุ์ มาสู่ จังหวัดมหาสารคาม และการเริ่มต้นสานต่อตำนานวอลเลย์บอลบทใหม่ที่ โรงเรียนวาปีทุม
ครูนริศ เริ่มต้นทำทีมวอลเลย์บอลโรงเรียนเมื่อปี 2544 ที่โรงเรียนวังลิ้นฟ้าวิทยาคม ก่อนที่จะย้ายโรงเรียนมาที่ หนองกุงศรีวิทยาคาร เมื่อปี 2554 รวมถึงยังสร้างนักกีฬาชื่อดังมากมาย ทั้ง ธนพัฒน์ อยู่เย็น, จักรกริช ปรีสว่าง, จักรวรรดิ์ สออนรัมย์ นักตบเยาวชน ชุดอันดับ 3 ชิงแชมป์เอเชีย ปี 2018 ซึ่งเป็นเหรียญแรกของทีมชาติไทย รวมถึง อนุชิต ภักดีแก้ว บอลเร็วทีมชาติไทยคนปัจจุบัน
และเมื่อปี 2563 โค้ชนริศ ได้ตัดสินใจย้ายกลับมาสอนที่บ้านเกิด และเป็นโรงเรียนวาปีปทุม อดีตสถานศึกษาที่คุ้นเคยของเขา ในการเริ่มต้นทำทีมวอลเลย์บอลอีกครั้ง
“ผมตั้งใจอยากย้ายกลับที่บ้าน จึงขอทำเรื่องย้ายกลับมาเป็นครูที่วาปีทุม” ครูนริศ เริ่มเล่า
“ผมเริ่มต้นเข้ามาสอนที่ วาปีทุม เมื่อปี 2563 ซึ่งที่นี่เขาเป็นโรงเรียนที่มีวิชาการที่เข้มแข็งอยู่แล้ว แต่ยังขาดเรื่องของกีฬา ซึ่งก่อนหน้านี้ทางโรงเรียนยังมีทำทีมวอลเลย์บอลอยู่บ้าง แต่ก็ยังไม่ได้ประสบความสำเร็จ และถือว่าเป็นโอกาสที่ดีอย่างมาก ในการได้กลับมาอยู่บ้านเกิด และได้เริ่มต้นทำทีมวอลเลย์บอลอีกครั้ง”
การเริ่มต้นทำทีมวอลเลย์บอลของ ครูนริศ ที่วาปีทุม นับว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี เนื่องด้วยได้รับการสนับสนุนจากฝ่ายผู้บริหาร ทั้ง ดร.มนูญ เพชรมีแก้ว ผู้อำนวยการ รวมถึงครูในโรงเรียน และครูที่เคยสอนในโรงเรียน ต่างชื่นชม และอยากผลักดันให้มีวอลเลย์บอลของโรงเรียนอย่างจริงจัง เพื่อเพิ่มมิติในด้านกีฬาของโรงเรียนมากขึ้น
“ที่วาปีฯ ผมได้รับการดูแลในการทำทีมที่ดีมาก ที่นี่เป็นโรงเรียนขนาดใหญ่ มีนักเรียนประมาณ 3,000 คน และทุกฝ่ายพร้อมให้สนับสนุน ทั้งบุคลากร งบประมาณ รวมไปถึงสถานที่ ทำให้เราเองก็สบายใจในการเริ่มต้นทำทีมอีกครั้ง”
“การย้ายกลับมาที่วาปีทุม นักกีฬาของผมบางส่วนจาก หนองกุงศรีฯ ก็ย้ายตามมาด้วยประมาณ 10 คน เข้ามาเรียนต่อในชั้น ม.4 ซึ่งเราเริ่มต้นทำทีมในรุ่น 16 ปี และนักกีฬาคนอื่นก็หาเพิ่มเติมจากโรงเรียน”
“ซึ่งมาในช่วงแรก อาจจะมีปัญหาในเรื่องของช่วงโควิด-19 ที่มีประกาศงดใช้สนามกีฬา ทำให้เราต้องฝึกซ้อมออนไลน์ และฝึกทักษะพื้นฐานอยู่บ้าน แต่พอทุกอย่างเริ่มดีขึ้น การกลับมาฝึกซ้อมของนักกีฬา และทีมงานก็กลับมาปกติ”
“ปีแรกที่ทำ เรามีเพียงแค่นักกีฬาที่อยู่ชั้น ม.4 และส่งแข่งขันส่วนใหญ่ในรุ่น 16 ปี ซึ่งแน่นอนว่าปีต่อ ๆ ไป นักกีฬาก็จะขยับขึ้นมาเป็นรุ่น 17-18 ปี และผมเองก็หวังจะต่อยอดเพิ่มเติมในการหานักกีฬาในรุ่น 14 ปี ด้วยเช่นกัน”
นอกจากนี้ นับว่าเป็นข่าวดี และช่วงเวลาที่เหมาะสมของครูนริศ ในการกลับมาทำทีมที่บ้าน ซึ่งทางโรงเรียนได้จัดซื้อพื้นยางเข้ามาเป็นสนามฝึกซ้อม และสนามแข่งขัน เพื่อให้การฝึกซ้อมของนักกีฬามีมาตรฐานมากขึ้น อีกทั้ง นายอัมพร พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ซึ่งเป็นศิษย์เก่าของโรงเรียนวาปีปทุม มาเป็นประธานในการเปิดสนามพื้นยางอีกด้วย
รวมไปถึงการกลับมาเข้ามาทำทีมลูกยางในรุ่น 16 ปี ครั้งแรกเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งอาจจะยังไม่ได้มีโปรแกรมแข่งขันมากนัก แต่ครูนริศ ยังพาทีมเริ่มต้นคว้าแชมป์วอลเลย์บอลรายการพิเศษ ที่ จ.ศรีสะเกษ ที่แข่งขันในช่วงเดือนพฤศจิกายน
อีกทั้งการแข่งขันทั้งของ สมาคมกีฬาวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทย อย่าง วอลเลย์บอลยุวชน “เอสโคล่า” ปี 2564 ที่ วาปีปทุม เป็นเจ้าภาพในรอบคัดเลือกภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พวกเขายังสามารถคว้าอันดับ 3 ของภาคไปครอง รวมถึงเป็นตัวแทนเข้าไปแข่งขันในรอบประเทศ ที่ จ.สุพรรณบุรี
นอกจากนี้ ผลงานของ หนุ่มลูกยางวาปีปทุม ยังคว้ารองแชมป์ ในรุ่นอายุ 18 ปี วอลเลย์บอลกรมพลศึกษา อีกด้วย
“การได้กลับมาทำทีมที่บ้าน ทำให้เรามีความสบายใจ และมีความสุขเหมือนเดิมอีกครั้ง เป้าหมายของผมก็ยังเหมือนเดิม คืออยากเปิดโอกาสให้เด็ก ๆ ได้เล่นกีฬา และผลักดันตัวเขาให้เป็นนักกีฬาอาชีพที่ดี หรือสร้างโอกาสเพื่อมุ่งสู่อาชีพที่ดี ๆ ในอนาคต”
“รวมถึงในปีนี้ (2565 / 2022) นักกีฬาของทีมวาปีปทุม ยังได้เข้าคัดตัวเป็นนักตบทีมชาติไทย ในรุ่นอายุต่ำกว่า 18 ปี (U18) เพื่อไปแข่งขันชิงแชมป์เอเชีย ที่ประเทศอิหร่าน และมีชื่อร่วมฝึกซ้อมกับทีมคือ ระพีพัฒน์ มาลา และ ชัยนรินทร์ พลมีศักดิ์ ซึ่งผมภูมิใจอย่างมากกับเด็ก ๆ ของเราที่ได้โอกาสในครั้งนี้”
ขณะเดียวกัน ปี 2565 โรงเรียนวาปีปทุม ยังได้รับหน้าที่ในการเป็นเจ้าภาพจัดแข่งขัน วอลเลย์บอลเยาวชน PEA ชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย รอบคัดเลือกภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตอนบน ระหว่างวันที่ 26 กันยายน – 3 ตุลาคม 2565 ซึ่งเป็นอีกหนึ่งโอกาสที่ดีของทีม ในการลุ้นเข้าไปแข่งขันในรอบประเทศ
“อีกหนึ่งความสุขของการเป็นครู และการได้ทำทีมวอลเลย์บอล คือเราได้เห็นนักกีฬาของเรา ประสบความสำเร็จ ทั้งการเล่นวอลเลย์บอล และหน้าที่การงาน รวมถึงศิษย์เก่าหลายคนที่เคยเรียน และเคยเล่นวอลเลย์บอลด้วยกัน ยังคอยแวะมาเยี่ยมเยียน ถามไถ่ รวมถึงเป็นกำลังใจให้กับนักกีฬารุ่นน้องในโรงเรียน แม้ว่าผมจะย้ายโรงเรียนมาแล้ว แต่ทุกคนก็ยังคิดถึงกัน เป็นอีกหนึ่งความสุขที่อุ่นใจเสมอครับ” ครูนริศ กล่าวทิ้งท้าย