ปธ.บริหารสาธิต มธ.พร้อมให้ตรวจสอบ ยันเปล่าบิดเบือนเนื้อหาประวัติศาสตร์ ใช้ตำรา สพฐ.แต่เชิญนักวิชาการ-ปราชญ์ชาวบ้าน แลกเปลี่ยนวิธีคิด แจงเชิญ ‘ธงชัย วินิจจะกูล’ แนะวิธีเรียนประวัติศาสตร์ ไม่ใช่ล้างสมองเด็ก
เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ นายดวงฤทธิ์ เบ็ญจาธิกุล ชัยรุ่งเรือง เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ในฐานะโฆษก อว. เปิดเผยว่า กรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม (กห.) ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปดูข้อห่วงใยหลักสูตรของโรงเรียนสาธิต มธ. ว่าอาจมีการบิดเบือนประวัติศาสตร์และสถาบันนั้น นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการ อว. รับทราบเรื่องดังกล่าวแล้วและสั่งการให้ นพ.สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ปลัด อว. เร่งไปตรวจสอบว่ามีการบิดเบือนเนื้อหาจริงหรือไม่ คาดว่าจะได้ข้อสรุปเร็วๆ นี้
(อ่านข่าว ‘บิ๊กตู่’ สั่งจับตา ร.ร.สาธิต ม.ธรรมศาสตร์ อ้างห่วงมีการบิดประวัติศาสตร์-สถาบัน)
(อ่านข่าว ‘ปริญญา’ ถาม ‘บิ๊กตู่’ ไปฟังใครมา? ก่อนกล่าวหาสาธิต มธ. ชี้เป็นนายกฯต้องตรวจสอบข้อมูลก่อนพูด)
ด้าน รศ.ดร.อนุชาติ พวงสำลี ประธานบริหารโรงเรียนสาธิต มธ. กล่าวว่า ได้ยินข่าวแล้วรู้สึกตกใจและเสียใจเล็กน้อย ทั้งนี้ ยืนยันว่าโรงเรียนไม่ได้บิดเบือนประวัติศาสตร์ใดๆ ในการเรียน โรงเรียนใช้ตำราของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) แต่โรงเรียนเน้นการเรียนการสอนที่มากไปกว่านั้น คือการเรียนการสอนของโรงเรียนจะให้นักเรียนอ่านหนังสือจำนวนมาก นักเรียนสามารถเลือกอ่านตำรา และเอกสารอื่นๆ ได้ โรงเรียนไม่ยึดติดการเรียนการสอนเฉพาะสำนักคิดใดสำนักคิดหนึ่ง เด็กต้องเรียนทุกสำนักคิดที่หลากหลาย สิ่งนี้เป็นหลักการจัดการเรียนการสอนที่สำคัญเพื่อจะสร้างเด็กให้มีวุฒิภาวะ
“ที่ผ่านมาโรงเรียนได้เชิญผู้ทรงคุณวุฒิ อาจารย์พิเศษจากภายนอก ปราชญ์ชาวบ้าน มาร่วมแลกเปลี่ยนวิธีคิดและการจัดการเรียนการสอน อย่างสัปดาห์ที่ผ่านมาโรงเรียนเชิญ คุณแม่ศรีนวล ขำอาจ ศิลปินแห่งชาติสาขาศิลปะการแสดงลำตัด มาร่วมแลกเปลี่ยนความคิด ให้ความรู้เรื่องเพลงลำตัดและศิลปวัฒนธรรมไทย ซึ่งสิ่งเหล่านี้ทางโรงเรียนทำเป็นปกติอยู่แล้ว และด้วยความที่เป็นโรงเรียนสาธิตจะต้องพัฒนาวิชาการ และการพัฒนานวัตกรรมจัดการเรียนการสอนอยู่ตลอดเวลา ที่ผ่านมาโรงเรียนได้ทำวิจัย จัดอบรมสัมมนาให้กับบุคลากรมาเป็นระยะๆ ไม่ว่าจะเป็นการวิจัยในห้องเรียน วิจัยในประเด็น และหัวข้อต่างๆ ซึ่งจะเชิญนักวิชาการมาให้ความรู้เป็นช่วงๆ” รศ.ดร.อนุชาติกล่าว
รศ.ดร.อนุชาติกล่าวต่อว่า สาเหตุที่เป็นประเด็นขึ้นมาคาดว่ามาจากโรงเรียนเชิญนายธงชัย วินิจจะกูล นักประวัติศาสตร์ มาเสนอกรอบเนื้อหา และแนวทางการจัดการเรียนการสอนวิชาประวัติศาสตร์ เพราะโรงเรียนเห็นว่านายธงชัยเป็นนักวิชาการด้านประวัติศาสตร์ที่มีชื่อเสียง เขียนตำราออกมามากมาย และโรงเรียนเห็นว่าการเรียนประวัติศาสตร์ในปัจจุบันเด็กอาจจะรู้สึกเบื่อ ต้องท่องจำ เพราะมีเนื้อหาจำนวนมาก แล้วจะทำอย่างไรที่จะให้เด็กเรียนประวัติศาสตร์แล้วสนุก และเรียนประวัติศาสตร์แล้วรักที่จะเรียน เรียนแล้วได้ความคิดที่ดี คิดวิเคราะห์ได้ รักที่จะไปอ่านหนังสือ และไปค้นคว้าต่อ จึงเป็นโจทย์ที่ให้นายธงชัยเข้ามาช่วยคิด เพราะโรงเรียนไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญ และอยากจะได้มุมมองวิธีคิดใหม่ๆ จากนายธงชัย
“สิ่งที่อาจารย์ธงชัยแนะนำมีคุณค่าหลายเรื่อง เราค้นพบว่าเด็กทั่วโลกที่เรียนวิชาประวัติศาสตร์ในโรงเรียนต่างๆ มีอาการไม่ต่างจากเด็กบ้านเรา ทุกคนเบื่อ เพราะเนื้อหาสาระมีจำนวนมาก ท่องเนื้อหาไม่ไหว ทั้งนี้ ยังค้นพบว่าการเรียนประวัติศาสตร์ต้องมีรากฐานการเรียนภาษา ต้องเรียนวรรณกรรม ต้องมีภาษาศิลป์ที่แข็งแรง การเรียนเรื่องเหล่านี้จะทำให้เมื่อเด็กไปศึกษาวิชาที่มีเนื้อหาจำนวนมากอย่างวิชาประวัติศาสตร์ จะทำให้ไปไกลและจับประเด็นได้ ซึ่งอาจารย์ธงชัยเน้นย้ำอย่างมากว่าโรงเรียนไม่ควรทิ้งเนื้อหาประวัติศาสตร์สำนักใดสำนักหนึ่ง ตำราของ สพฐ.มีประโยชน์ มีคุณค่า ดังนั้น อย่าทิ้ง ต้องให้เด็กเรียนทุกสำนัก โดยมีจุดมุ่งหมายในการสอน คือทำอย่างไรให้เด็กเกิดความใคร่รู้ แต่เมื่อมีภาพข่าวเผยแพร่ไปกลายเป็นว่าโรงเรียนนำอาจารย์ธงชัยมาล้างสมองเด็ก ซึ่งเราอดเสียใจไม่ได้ เพราะสิ่งที่ทำ กับสิ่งที่ข่าวออกไป เป็นคนละเรื่อง” รศ.ดร.อนุชาติกล่าว
รศ.ดร.อนุชาติกล่าวต่อว่า นักวิชาการและปราชญ์ชาวบ้านที่โรงเรียนเชิญมาให้ความรู้แลกเปลี่ยนความคิดในการจัดการเรียนการสอนเท่านั้น ไม่เกี่ยวกับวิธีคิดทางการเมืองของตัวบุคคล เพราะโดยปรัชญาของโรงเรียนสาธิต มธ.คือร่วมสร้างสังคมแห่งการเคารพและเรียนรู้ร่วมกัน ซึ่งการพูดคุยกับนักเรียนพบว่านักเรียนเคารพความแตกต่างหลากหลาย ไม่ตัดสินคนด้วยวิธีคิดทางการเมือง และไม่ตัดสินคนจากความเชื่อ ซึ่งเป็นหน้าที่สำคัญของสถาบันการศึกษา ที่จะแยกสถาบันการศึกษาและการเมืองให้ออกจากกัน สอนให้เด็กเคารพความแตกต่างระหว่างกัน
“หลังจากเกิดเรื่อง นักเรียนก็เครียด ผู้ปกครองส่วนหนึ่งก็เครียด แต่ในภาพรวมทุกคนให้กำลังใจโรงเรียน และทุกคนเตือนสติกันว่าอย่าไปตอบโต้ด้วยอารมณ์ หากมีอะไรที่ชี้แจงอธิบายได้ ก็ทำ ทั้งนี้ พร้อมที่จะให้นายกฯ รัฐมนตรีว่าการ อว.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เข้ามาตรวจสอบ เพราะโรงเรียนไม่มีอะไรที่เป็นความลับ ยินดีชี้แจงทุกเรื่อง” รศ.ดร.อนุชาติกล่าว
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก
Line @Matichon ได้ที่นี่