เมื่อวันที่ 18 กันยายน สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า สหประชาชาติ หรือยูเอ็น ได้เรียกร้องให้ทาลิบันกลับมาเปิดโรงเรียนมัธยมศึกษาสำหรับเด็กผู้หญิงในอัฟกานิสถาน อีกทั้งได้ประณามการปิดโรงเรียนมัธยมสำหรับผู้หญิง ซึ่งกำลังจะครบรอบ 1 ปีในเดือนนี้ ว่าเป็นการกระทำที่น่าโศกเศร้า และน่าละอาย
ไม่กี่อาทิตย์หลังการยึดครองอัฟกานิสถานของกลุ่มทาลิบันเมื่อเดือนสิงหาคม 2021 รัฐบาลที่นำโดยกลุ่มทาลิบันได้ตัดสินใจกลับมาเปิดโรงเรียนมัธยมศึกษาสำหรับเด็กผู้ชายในวันที่ 18 กันยายน 2021 อย่างไรก็ดี โรงเรียนมัธยมศึกษาสำหรับเด็กผู้หญิงในอัฟกานิสถานยังถูกสั่งปิดต่อไป
ในเดือนมีนาคม 2022 กระทรวงศึกษาธิการอัฟกานิสถานได้ประกาศให้โรงเรียนมัธยมสำหรับเด็กผู้หญิงสามารถกลับมาเปิดการเรียนอีกครั้ง แต่หลังจากนั้นไม่กี่ชั่วโมงต่อมา รัฐบาลที่นำโดยกลุ่มทาลิบันได้สั่งปิดโรงเรียนมัธยมสำหรับเด็กผู้หญิงอีกครั้ง
ทั้งนี้ เดือนกันยายน 2022 จะครบรอบ 1 ปีที่เด็กผู้หญิงในอัฟกานิสถานไม่ได้เข้าถึงการศึกษา ทำให้นายมาร์คัส พอทเซล รักษาการหัวหน้าสำนักงานเพื่อปฏิบัติภารกิจช่วยเหลืออัฟกานิสถานของสหประชาชาติ (United Nations Assistance Mission in Afghanistan – UNAMA) ได้ออกมากล่าวว่า การกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำที่น่าเศร้า น่าละอาย และเป็นการครบรอบที่ไม่ควรเกิดขึ้นตั้งแต่แรก และการห้ามไม่ให้เด็กผู้หญิงเข้าเรียนเป็นการทำลายชีวิตของเด็กหญิงในอัฟกานิสถานไปหนึ่งรุ่น รวมทั้งเป็นทำลายอนาคตของอัฟกานิสถานอีกด้วย
ด้านนายอันโตนิอู กแตเรซ เลขาธิการสหประชาชาติ ได้ออกมาเรียกร้องให้ทาลิบันยกเลิกการแบนไม่ให้เด็กหญิงอัฟกานิสถานได้เข้าเรียน โดยระบุไว้ในทวิตเตอร์ว่า การแบนดังกล่าวเป็นหนึ่งปีที่สูญเสียการศึกษา และโอกาสที่บรรดาเด็กหญิงเหล่านั้นจะไม่สามารถเอากลับคืนมาได้ พวกเขาสมควรได้เข้าเรียน และทาลิบันควรอนุญาตให้พวกเขากลับเข้าเรียน
บรรดาเจ้าหน้าที่ของทาลิบันได้ออกมาบอกว่า การแบนไม่ให้เด็กผู้หญิงเข้าเรียนนั้นเป็นการแบนเพียงชั่วคราว และได้ให้เหตุผลถึงการแบนหลายเหตุผล ตั้งแต่การขาดงบประมาณ ไปจนถึงต้องการเวลาเพื่อที่จะปรับปรุงหลักสูตรการเรียนการสอนเพื่อให้เข้ากับหลักของอิสลาม
อีกทั้งเมื่อต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา สื่อท้องถิ่นของอัฟกานิสถานรายงานว่า รัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการให้เหตุผลถึงการปิดของโรงเรียนสำหรับผู้หญิงว่าเกิดจากปัญหาทางวัฒนธรรม และอ้างว่าผู้คนในต่างจังหวัดไม่ต้องการนำลูกสาวของพวกเขาเข้าเรียน
แต่อย่างไรก็ตาม โรงเรียนมัธยมสำหรับผู้หญิงบางแห่งก็ได้กลับมาเปิดการเรียนอีกครั้งในจังหวัดที่ห่างไกลจากกรุงคาบูล และเมืองกันดาฮาร์ซึ่งเป็นศูนย์กลางการปกครองของทาลิบัน เนื่องมาจากแรงกดดันจากบรรดาครอบครัวของเด็ก และหัวหน้าชนเผ่าในพื้นที่
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก
Line @Matichon ได้ที่นี่