พายุฤดูร้อนพัดถล่มจังหวัด “ศรีสะเกษ” หลังคาอาคารเรียนถูกพายุพัดสังกะสีปลิวหายไปทั้งหลัง บ้านเรือนราษฎรใน 9 อำเภอ เสียหายหนัก
พายุฤดูร้อนพัดถล่มจังหวัดศรีสะเกษ โรงเรียนบ้านหนองม่วงหนองแวง ตำบลทุ่ม อำเภอเมืองศรีสะเกษ โดนหนัก หลังคาอาคารเรียนถูกพายุพัดสังกะสีปลิวหายไปทั้งหลัง คอมพิวเตอร์เปียกน้ำฝนทั้งหมด 30 เครื่อง ขณะที่บ้านเรือนราษฎรใน 9 อำเภอ 11 ตำบล 29 หมู่บ้าน ถูกพายุพัดเสียหายเช่นกัน
วันที่ 22 มีนาคม 2564 เจ้าหน้าที่องค์การบริหารส่วนตำบลทุ่ม อำเภอเมืองศรีสะเกษ พร้อมด้วยกำนันตำบลทุ่ม ผู้ใหญ่บ้านหนองม่วง บ้านหนองแวง บ้านหนองจิก ได้เข้าพื้นที่ตั้งแต่เช้าเพื่อทำการสำรวจความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการที่เมื่อค่ำวานนี้ ( 21 มี.ค.2564) ได้เกิดพายุฤดูร้อนพัดมาสร้างความเสียหายแก่บ้านเรือนราษฎร ยุ้งข้าว โรงเรียนบ้านหนองม่วงหนองแวง หลังคาถูกพายุพัดสังกะสีปลิวลอยไปตกเกลื่อนตามทุ่งนา ต้นไม้หักโค่นเป็นทางแนวยาวตามเส้นทางของพายุ
คลิปข่าว
ครูนักเรียนเดินทางมาโรงเรียนตั้งแต่เช้า พบสังกะสีอาคารเรียน ที่มีอยู่หลังเดียวเป็นโรงเรียนประถม จำนวน 6 ห้องเรียน 2 ชั้น ที่สร้างตั้งแต่ปี พ.ศ.2548 ถูกพายุพัดหลังคาปลิวหายออกไป เครื่องเขียนแบบเรียนถูกน้ำฝนเปียกปอนเสียหาย โดยเฉพาะห้องคอมพิวเตอร์ที่มีเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้ในการเรียนการสอน จำนวน 30 เครื่อง ถูกน้ำฝนเปียกเสียหายทั้งหมด เด็กนักเรียนที่มาโรงเรียนตั้งแต่เช้าได้ช่วยคุณครูในการเก็บกวาดโรงเรียน ผอ.ได้รายงานให้การประถมศึกษาแต่รับทราบความเสียหายเบื้องต้นแล้ว
เช่นเดียวกับองค์การบริหารส่วนตำบลทุ่ม ปลัด นายจารุพัฒน์ สมพร รักษาการนายก อบต.ทุ่ม ร่วมกับกำนันผู้ใหญ่บ้านสำรวจความเสียหายพบความเสียหายทั้งสามหมู่บ้าน 48 หลังคาเรือน ซึ่งจะได้เร่งจัดงบประมาณในการช่วยเหลือเบื้องต้นต่อไป
ขณะเดียวกัน นายบุญประสงค์ นวลสายย์ ป้องกันบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดศรีสะเกษ ได้รายงานข้อมูลความเสียหายของพายุฤดูร้อนในรอบนี้ ได้สร้างความเสียหายทั้งหมด 9 อำเภอ 11 ตำบล 29 หมู่บ้าน มีบ้านเรือนเสียหายทั้งหมด 178 หลังคาเรือน คอกปศุสัตว์ 12 หลัง โรงเรียน 1 แห่ง
โดยอำเภอที่ถูกพายุพัดบ้านเรือนราษฎรได้แก่ อำเภอศรีรัตนะ ในเขตตำบลสระเยาว์, อำเภอเมืองศรีสะเกษ, อำเภอเบญจลักษณ์, อำเภอขุขันธ์, อำเภอวังหิน, อำเภอขุนหาญ, อำเภอกันทรลักษณ์, อำเภอโนนคูณ และอำเภอไพรบึง ซึ่งได้รายงานให้ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษได้รับทราบความเสียหายเบื้องต้นแล้วเพื่อรายงานขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานต้นสังกัดต่อไป