08 เม.ย. 2565 | 16:54:51
“ศิธา-สุดารัตน์” ควงผู้สมัคร ส.ก.ไทยสร้างไทย เยือนชุมชนมุสลิมเขตสะพานสูง-มีนบุรี ชี้ศาสนาและการศึกษาต้องไปด้วยกัน ชงจัดงบ กทม. พัฒนาโรงเรียนสอนศาสนาให้มีคุณภาพเท่าเทียมโรงเรียนทั่วไป พร้อมรื้อกฎหมายที่เป็นข้อจำกัดการพัฒนาคุณภาพชีวิตคนกรุง ให้ผู้ว่าฯ ดูแลชาวเมืองได้เต็มที่
น.ต.ศิธา ทิวารี ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. เบอร์ 11 หรือ ‘ผู้พันปุ่น’ พร้อมด้วย นางนาถยา แดงบุหงา อดีต ส.ส. กทม. เขตสะพานสูง-ประเวศ และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. เขตสะพานสูง และนายภูเบศ โพธิ์โซ๊ะ หรือ ‘ฮากีม’ ผู้สมัคร ส.ก.เขตสะพานสูง เบอร์ 5 และคณะทำงานฯ พรรคไทยสร้างไทย พบปะพี่น้องมุสลิม ที่ร่วมประกอบศาสนกิจ ละหมาดวันศุกร์ ที่มัสยิดอัลยุซรอ เขตสะพานสูง กทม.
น.ต.ศิธา กล่าวว่าพรรคไทยสร้างไทยทำงานกับชุมชนมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งชุมชนเขตสะพานสูงโดยรอบมัสยิด ทั้งชุมชนหลอแหลและใกล้เคียง มีปัญหาที่ใกล้เคียงกับทุกชุมชนใน กทม. ที่ตนสัมผัสมาตลอด 20 กว่าปีบนเส้นทางการเมือง แต่ในชุมชนบางส่วนอยู่ในที่ดินเอกชน แม้มีทะเบียนราษฎร์เป็นชาว กทม. ขณะที่มีข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เป็นข้อจำกัดให้ กทม.หรือผู้ว่าฯ กทม.ไม่สามารถเข้าไปสามารถดูแลชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนได้เต็มที่
ดังนั้น การจะทำให้คนกรุงเทพทุกคนได้รับการดูแลอย่างเท่าเทียมกันต้องเข้าไปดูข้อกฎหมาย ว่า กทม.จะพัฒนาอย่างไร ซึ่งส่งผลต่อภาพรวมของประเทศทั้งเรื่องขยะถนน และสาธารณูปโภค โดยเฉพาะชีวิตความเป็นอยู่ ซึ่งเป็นสวัสดิการประชาชน เป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน หากกฎหมายเป็นอุปสรรคก็ต้องปรับปรุงแก้ไขให้ได้วัตถุประสงค์จริงของ กทม. คือทำให้ทุกคนเทียมกันและมีความเจริญทุกพื้นที่
น.ต.ศิธา กล่าวถึงหลักการบริหาร กทม. เป็นโมเดลของประเทศไทยด้วยว่า พรรคไทยสร้างไทย มีความชัดเจนว่าจะคืนอำนาจให้ประชาชน ส่งมอบประเทศที่ดีที่สุดให้ลูกหลาน จะทำทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อให้คนรุ่นใหม่ทำงานร่วมกับคนรุ่นผู้ใหญ่ปัจจุบันได้ ในอดีตมีความแตกแยกทางการเมืองเป็นซ้ายกับขวา ปัจจุบันมีเรื่องช่องว่างระหว่างวัยเกิดขึ้นอีก จึงมองว่า ต้องเข้าไปช่วยเหลือดูแลส่วนนี้ ให้ทุกภาคส่วนของคนไทยเข้าร่วมมือกันในการพัฒนา พรรคไทยสร้างไทยจึงให้ความสำคัญกับเมืองหลวง ส่งผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. และ ส.ก. ครบทุกเขต และในอนาคตจะส่ง ส.ส.ให้ครบทุกเขตด้วย โดยพรรคไทยสร้างไทย จะทำอย่างเปิดเผยตรงไปตรงมา แสดงความจริงใจและมุ่งมั่นที่จะทำประโยชน์ให้กับประเทศชาติ
“เราทำงานทุกวันอยู่แล้ว ก่อนหน้านี้อาจจะเป็นการเก็บข้อมูล แม้เปิดตัวช้า แต่ข้อมูลที่รับฟังจากประชาชนในพื้นที่มาและไม่ใช่แค่เก็บข้อมูล แต่ร่วมคิดร่วมทำกับชาวบ้าน รู้ตั้งแต่ปัญหาเกิดขึ้น รู้กระบวนการแก้ไขและร่วมแก้ไขให้สำเร็จและดำเนินการมาแล้ว”
น.ต.ศิธา เชื่อว่าทุกศาสนาสอนให้คนเป็นคนดี ทางพรรคไทยสร้างไทยยืนยันว่าในเรื่องของศาสนาและการเรียนการสอนจะต้องสอดคล้อง และสามารถเดินหน้าไปด้วยกันได้ และทาง กทม. ก็จะต้องดูว่าจะสามารถดำเนินการอย่างไรได้
สำหรับนโยบายในส่วนที่เกี่ยวข้องกับชุมชนมุสลิม โดยเฉพาะด้านการศึกษา มีแนวคิดจะรวมโรงเรียนสอนศาสนาทุกศาสนา เข้ามาอยู่ในสังกัด กทม. เพื่อการส่งเสริมงบประมาณและโภชนาการของเด็กให้เท่าเทียมกับโรงเรียนอื่นๆ ตามนโยบายพัฒนาการศึกษาของพรรคไทยสร้างไทย และสภาชุมชนที่เปิดตัวไปเมื่อวานนี้ (7 เม.ย.65) ซึ่งจะมีองค์ประกอบของคณะกรรมการสภาชุมชน โดยการเลือกตัวแทนในชุมชนที่นับถือศาสนาอิสลาม จะต้องผ่านความเห็นชอบของคณะกรรมการมัสยิดด้วย
จากนั้นช่วงบ่าย น.ต.ศิธา พร้อมด้วยกัณวีร์ สืบแสง ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. เขตสวนหลวง-ประเวศ ไปลงพื้นที่เขตประเวศ เพื่อช่วยนายเอกรินทร์ อยู่บำรุง ผู้สมัคร ส.ก. เขตสวนหลวง เบอร์ 8 หาเสียงและพูดคุยกับชาวมุสลิมในตลาดที่กำลังจับจ่ายซื้ออาหารแก้บวช
ในขณะที่คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย พร้อมด้วยนายจอนนี่ แอนโฟเน่ และผู้สมัคร ส.ก. เขตมีนบุรี “สมพร ดำพริก”เบอร์ 2 ได้จัดคาราวานสร้างไทย และเดินเท้าเข้าชุมชนบ้านบ้านเกาะไผ่เหลือง และชุมชนแสงวิมาน เขตมีนบุรี เพื่อปะพี่น้องประชาชนชาวมุสลิมในช่วงถือศีลอด รอมาฎอน ที่มัสยิดเราะห์มาตุ้ลอิสลาม และมัสยิดมาลุ้ลเอื๊ยห์ซาน
Share this: