กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม (สส.) เผยผลสำเร็จโครงการ “กลุ่มเยาวชนรักษ์น้ำ คืนความใสให้ลำคลอง” ปี 64 ที่รวมพลัง 8 โรงเรียนร่วมฟื้นชีวิตให้คลองแสนแสบ ตามนโยบาย “พลเอกประวิตร” ชู เยาวชนคืออนาคตที่จะช่วยรักษาดูแลสิ่งแวดล้อม
วันนี้ (17 ก.ย. 64) นายสุรชัย อจลบุญ อธิบดีกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม (สส.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานพร้อมมอบโอวาทให้กับนักเรียนที่เข้าร่วมกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้เครือข่ายเยาวชนโครงการ “กลุ่มเยาวชนรักษ์น้ำ คืนความใสให้ลำคลอง” และเชิดชูการดำเนินงานแก่ครูและเยาวชน ในรูปแบบออนไลน์จากห้องประชุม กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม
ทั้งนี้ นายสุรชัย อจลบุญ อธิบดีกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า จากที่พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และประธานคณะอนุกรรมการบริหาร พัฒนา อนุรักษ์และฟื้นฟูคลองแสนแสบ ได้ให้ความสำคัญ และเล็งเห็นถึงประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นกับทั้งตัวเยาวชน สภาพแวดล้อม และ คุณภาพน้ำในคลองแสนแสบ กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม ในฐานะคณะอนุกรรมการบริหารพัฒนา อนุรักษ์และฟื้นฟูคลองแสนแสบ จึงร่วมกับสมาคมสร้างสรรค์ไทย หรือตาวิเศษ จัดกิจกรรม“กลุ่มเยาวชนรักษ์น้ำ คืนความใสให้ลำคลอง” ขึ้น ซึ่งเป็นการดำเนินงานตามแผนการประชาสัมพันธ์เสริมสร้างความรู้ความเข้าใจให้กับประชาชน ในระยะเร่งด่วน ปี 2564 ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2563 ในการเร่งรัดการดำเนินงานปรับปรุงแนวทาง เพื่อเสริมสร้างความปลอดภัยในการสัญจรทางน้ำของประชาชน รวมทั้งปรับปรุงสภาพภูมิทัศน์ การแก้ไขปัญหามลภาวะและคุณภาพน้ำในคลองแสนแสบให้กับประชาชนในพื้นที่ได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
“ สำหรับผลการดำเนินโครงการฯ ในปีงบประมาณ 2564 ที่ดำเนินการมารวม 4 เดือน ในระหว่างเดือนมิถุนายน – กันยายน 2564 ในรูปแบบออนไลน์ เพื่อให้เหมาะสมกับ สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 และความปลอดภัยของสุขภาวะเป็นสําคัญ ได้มีโรงเรียนที่ตั้งอยู่บริเวณต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำของคลองแสนแสบ ที่สมัครใจและสนใจเข้าร่วม ทั้งสิ้น 8 โรงเรียน ได้แก่ โรงเรียนวัดบรมนิวาส เขตปทุมวัน,โรงเรียนสุเหร่าบ้านดอน เขตวัฒนา,โรงเรียนสุเหร่าดอนสะแก เขตวังทองหลาง , โรงเรียนสามแยกคลองหลอแหล เขตสะพานสูง , โรงเรียนวัดบําเพ็ญเหนือ เขตมีนบุรี น , โรงเรียนวัดแสนสุข เขตมีนบุรี , โรงเรียนวัดใหม่ลํานกแขวก เขตมีนบุรี และโรงเรียนวัดปลูกศรัทธา เขตลาดกระบัง
อธิบดีกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม กล่าวต่อไปว่า จากที่ผู้บริหารโรงเรียนทั้ง 8 โรงเรียน ได้ร่วมเป็นคณะทํางาน พร้อมทั้งส่งเสริมและสนับสนุนการอบรมครู และเยาวชนตลอดระยะเวลาการดําเนินโครงการ สามารถสร้างผลสัมฤทธิ์ให้เกิดขึ้นแก่เยาวชนตามวัตถุประสงค์โครงการฯในทุกด้าน คือ หนึ่ง รู้จักและเข้าใจคลองแสนแสบมากขึ้น สอง ได้ตระหนักถึงความสําคัญของน้ำและผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อแหล่งน้ําที่มาจากการกระทำของมนุษย์มากขึ้น โดยเฉพาะผลกระทบจากการจัดการขยะที่ไม่ถูกต้อง การใช้และการทิ้งอย่างไม่ระวัง และการปล่อยน้ำทิ้งและน้ำเสียลงแหล่งน้ำ ทั้งที่มาจากบ้านเรือนของตนเอง และจากร้านค้า โรงงานอุตสาหกรรม สาม เยาวชนสามารถสํารวจคุณภาพน้ำด้วยวิธีการสํารวจอย่างง่ายทางกายภาพและจากสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ ที่อยู่ในน้ำ และบริเวณแหล่งน้ำได้ สี่ เยาวชนตระหนักถึงความสําคัญของการดําเนินชีวิตของตนเองที่มีผลกระทบต่อคุณภาพน้ำในลําคลอง โดยสรุปสิ่งที่เยาวชนจะทําเพื่อช่วยดูแลคลอง แหล่งน้ำ และสิ่งแวดล้อม เช่น การเก็บขยะ และชวนคนในบ้านเก็บขยะ และไม่ทิ้งขยะลงคลองและทิ้งขยะเรี่ยราด อีกทั้งยังมีการคัดแยกขยะ แยกทิ้งเศษอาหารที่เหลือก่อนล้างจาน แล้วนําไปทําปุ๋ย หลีกเลี่ยงการใช้โฟมใส่อาหาร ไม่ใช้ถุงพลาสติก และ ทิ้งขยะให้ถูกที่ ไม่ทิ้งขยะลงคลอง พร้อมทั้งร่วมกันทําความสะอาดลําคลอง ช่วยกันคีบขยะออกจากคลอง และเก็บขยะที่พบตามพื้นไปทิ้งถังขยะ และการจัดทำป้ายรณรงค์ประหยัดน้ำ เขียนป้ายไม่ให้คนทิ้งขยะลงคลอง ติดตามบริเวณที่มีคนทิ้งขยะ เป็นต้น
“จากความร่วมมือของสมาคมสร้างสรรค์ไทย และโรงเรียนทั้ง 8 แห่ง อย่างเต็มที่และทุ่มเท จึงส่งให้กิจกรรม“กลุ่มเยาวชนรักษ์น้ำ คืนความใสให้ลำคลอง” ประสบผลสำเร็จ เกิดการนำกระบวนการสิ่งแวดล้อมศึกษา มาใช้ในการดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ อันนำไปสู่การปลูกฝังจิตสํานึกรับผิดชอบต่อตนเอง สังคม และสิ่งแวดล้อม ให้เกิดขึ้นกับนักเรียน ที่จะจะเติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ที่มีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมต่อไป” นายสุรชัย กล่าว
ด้าน คุณหญิงชดช้อย โสภณพนิช นายกสมาคมสร้างสรรค์ไทย หรือตาวิเศษ กล่าวเพิ่มเติมว่า สมาคมสร้างสรรค์ไทย รู้สึกเป็นเกียรติ และยินดีอย่างมากที่ได้มีร่วมกับกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อมดำเนินโครงการ “กลุ่มเยาวชนรักษ์น้ำ คืนความใสให้ลำคลอง” ด้วยเป็นโครงการที่ก่อให้เกิดประโยชน์ในการกระตุ้นเตือนให้นักเรียนที่เป็นผู้นำเกิดความตระหนักและเห็นความสำคัญในการดำเนินชีวิตขอบตนเองที่มีต่อสิ่งแวดล้อม และลำคลอง ซึ่งจะเป็นการจุดประกายให้เกิดการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง และเป็นผู้นำให้แก่เยาวชนอื่น ๆ เพื่อนำไปสู่การสร้างเครือข่ายเยาวชนที่ร่วมกันทำกิจกรรมต่างๆ เพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม และรักษาลำคลองให้กลับมาใสดั่งเดิมต่อไป