จากกรณีผู้ปกครองของเด็กหญิงรายหนึ่ง อายุ 10 ปี ในพื้นที่ จ.ระนอง ร้องเรียนมายังกัน จอมพลัง ว่าถูกครูพละข่มขืนในห้องน้ำโรงเรียน 14 ครั้งหลังแจ้งความคดีไม่คืบหน้า ตำรวจอ้างรอผลตรวจร่างกาย ซ้ำครูพละยังไปสอนหนังสือตามปกติไม่ถูกดำเนินคดี
น.ส.ดวงเดือน (นามสมมติ) อายุ 28 ปี แม่ผู้เสียหาย บอกกับทีมข่าวว่า ลูกสาวของตนวัย 10 ปี เรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่โรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ จ.ระนอง โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนเพิ่งมาทราบจากปากลูกสาว หลังพบท่าทีของลูกสาวเดินจุกหน้าท้องผิดปกติและสอบถามถึงสาเหตุ ลูกสาวจึงยอมปริปากพูดความจริงว่าถูก นายนพดล (สงวนนามสกุล) ครูพละ ที่โรงเรียนข่มขืน 14 ครั้ง ตั้งแต่ช่วงกลางเดือน มิ.ย. 65 และถูกข่มขืนครั้งสุดท้ายวันที่ 1 พ.ย. 65
โดยพฤติการณ์เกิดหลังเลิกเรียนคาบวิชาสุขศึกษาและพละศึกษา ซึ่งเรียนทุกวันพุธ เรียน 1 ครั้งต่อสัปดาห์ ซึ่งครูพละให้เพื่อนนักเรียนคนอื่น ๆ ขึ้นห้องเรียนไปก่อน จากนั้นพาตัวลูกสาวของตนไปที่ห้องน้ำโรงครัวแล้วกระทำการข่มขืน ซึ่งจะใช้สถานที่เดิมในการลงมือก่อเหตุ
หลังจากทราบเรื่องตนพาลูกสาวไปแจ้งความกับตำรวจ ในวันที่ 1 ก.ย. 65 และไปตรวจร่างกายวันที่ 3 ก.ย. 65 ซึ่งทางโรงเรียนไม่มีการจัดการครูพละเลย ยังเห็นว่าครูพละมาสอนตามปกติ โดยให้ครูประจำชั้นเป็นผู้เข้าร่วมสังเกตการณ์ ในมุมของคนเป็นแม่กับสภาพแวดล้อมที่ยังเจอครูพละอยู่ลูกสาวก็กล้า ๆ กลัว ๆ ไม่กล้าไปโรงเรียน ก็เป็นห่วงสภาพจิตใจของลูกสาวของตน
ตนอยากให้ทางโรงเรียนดำเนินการตามกฎหมาย ไม่ใช่ห่วงชื่อเสียงหรือเข้าข้างคนผิด ทั้ง ๆ ที่เราส่งลูกไปเรียนก็ต้องมั่นใจในเรื่องความปลอดภัย และเรื่องแบบนี้ไม่ควรเกิดขึ้นกับใคร ตนอยากให้ตำรวจเร่งรัดคดีและให้ความเป็นธรรม เพราะเราก็ไม่รู้ว่าเขาไปก่อเหตุกับเด็กคนอื่นอีกหรือไม่ ตอนนี้มาร้องกัน จอมพลัง ก็มีความหวังว่าจะเอาความผิดได้ และมีกำลังจะสู้คดี
ล่าสุดทีมข่าวอมรินทร์ทีวี เดินทางไปยังโรงเรียนดังกล่าว ซึ่งตั้งอยู่ใน อ.เมือง จ.ระนอง ทางโรงเรียนชี้แจงกับทีมข่าวว่า หลังจากแม่ของเด็กมาแจ้งกับโรงเรียน ว่าลูกสาวถูกครูพละข่มขืน โรงเรียนก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้ตั้งคณะกรรมการสอบถามครูพละที่ถูกกล่าวถึงทันที แต่ทางครูคนดังกล่าวปฎิเสธบอกว่าไม่ได้ทำ
ทั้งนี้เพื่อความเป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่าย โรงเรียนจึงไปรับแม่และเด็กจากบ้านแล้วพาไปแจ้งความที่โรงพัก พร้อมกับให้ครูพละรายนี้พักการสอนชั่วคราวตั้งแต่ตอนนั้นจนกว่าคดีจะถึงที่สิ้นสุด ซึ่งหลังจากแจ้งความทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งจาก สภ.เมือง และผู้บังคับบัญชาการภาค 8 “พล.ต.ท.สุรพงษ์ ถนอมจิตร” ก็เดินทางมาตรวจสอบแล้ว
ส่วนห้องน้ำที่แม่เด็กอ้างว่าเป็นที่เกิดเหตุนั้น วันนี้ทีมข่าวลองเข้าไปสำรวจพบว่าเป็นห้องน้ำหญิงที่อยู่ด้านหลังโรงครัวและมีประตูเปิดอยู่ซึ่งห้องน้ำมี 2 ห้องติดกัน ห้องที่เกิดเหตุจะเป็นห้องริมนอก แต่เนื่องจากคดียังไม่ถึงที่สิ้นสุด ทางโรงเรียนจึงปิดใช้งานห้องน้ำทั้ง 2 ห้องนี้ไว้ โดยเขียนป้ายแปะหน้าห้องว่า “ชำรุด”
ขณะที่ทีมข่าวเดินทางไปพูดคุยกับ “นายวันชัย” (สงวนนามสกุล) อายุ 56 ปี พ่อของครูพละที่ถูกกล่าวอ้าง เจ้าตัวบอกว่าจริง ๆ แล้ววันนี้เมื่อตอนกลางวัน เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำหมายค้นมาตรวจค้นหาหลักฐานภายในบ้านแล้ว ซึ่งก็ไม่พบอะไรผิดกฎหมาย ไม่พบหลักฐานใด ๆ ที่เชื่อมโยงว่าลูกชายจะมีพฤติกรรมสามารถล่วงละเมิดหรือข่มขืนเด็กนักเรียนได้
พร้อมกันนี้ก็พาทีมข่าวไปดูจุดที่ลูกชายใช้นอนประจำเวลากลับมาบ้าน เป็นฟูกที่นอนที่วางอยู่กลางบ้าน กับเสื่อหมอนและผ้าห่ม ซึ่งปกติหากลูกชายกลับมา ก็จะกลับมาพร้อมภรรยาที่แต่งงานกันมาประมาณ 4 ปี และนอนตรงนี้กับพ่อแม่ตลอด ไม่เคยเข้าไปนอนในห้องนานแล้ว
“นายวันชัย” ยืนยันกับอมรินทร์ทีวีเลยว่าเรื่องที่เป็นข่าวออกไปนั้น เป็นไปไม่ได้แน่นอน เพราะลูกชายก็ออกมาบอกกับตนตั้งแต่ครั้งแรกที่ตกเป็นผู้กระทำว่า ไม่ได้มีการข่มขืนแต่อย่างใด และลูกชายไม่เครียดด้วย เพราะบริสุทธิ์ใจอยู่แล้ว
และจริง ๆ แล้ววันที่ตำรวจเชิญลูกชายไปที่เกิดเหตุ ประมาณเดือนก.ย. 65 ด้านของผู้เสียหายได้บอกกับตำรวจว่า ลูกชายตนทำการถีบประตูเข้าไปในห้องน้ำเพื่อข่มขืนเขาในตอนพักกลางวัน ซึ่งตนมองว่ายิ่งเป็นไปไม่ได้เข้าไปใหญ่ เพราะตรงนั้นเป็นครัว ช่วงพักกลางวันก็ต้องมีคนอยู่เยอะ ถ้าเกิดเหตุจริงต้องมีคนเห็นหรือได้ยิน แต่นี่เท่าที่ตนทราบ ไม่มีใครเห็นหรือได้ยินเลยสักคน ตำรวจก็ไม่พบร่องรอยของการถีบประตูด้วย
ยอมรับว่าหลังเป็นคดี ส่วนตัวแล้วแอบเครียดอยู่เหมือนกัน เพราะที่ผ่านมาลูกชายเป็นคนดี ไม่เคยทำให้พ่อแม่เสียใจ ลูกชายเป็นคนรักเด็กมาก แต่รักในแบบครูกับลูกศิษย์ และที่สำคัญลูกชายมีภรรยาอยู่แล้ว แต่งงานกันมา 4 ปี ไม่มีลูก เพราะภรรยาไม่สามารถมีได้ แต่ลูกชายก็ไม่เคยบ่นว่าอยากมีลูก คือรับได้กับการอยู่แบบนี้
แต่ถ้าถามว่าในอดีต ลูกชายเคยมีประวัติเกี่ยวกับผู้หญิงไหม พ่อยอมรับว่าพอมีบ้าง ในช่วงอายุ 15-16 ปี ที่ไปจีบผู้หหญิงแล้วพามาบ้าน และเปลี่ยนแฟนบ่อย ซึ่งตนมองว่าเป็นเรื่องปกติของวัยรุ่น เพราะไม่เคยมีเรื่องราวที่ลูกชายไปทำผู้หญิงท้องหรือไปข่มขืนผู้หญิงมาก่อน ส่วนการใช้ความรุนแรงนั้น ตนยืนยันว่าลูกชายไม่เคยมีเรื่องราวชกต่อยกับใคร แต่ลูกชายเคยเรียนมวยมาก่อน ซึ่งก็ไม่เคยใช้วิชานี้ไปสร้างความเดือดร้อนให้ใคร
ตนในฐานะผู้เป็นพ่อ ยอมรับว่าตกใจมาก คิดไม่ออกว่ามันเป็นไปได้ยังไง เพราะตั้งแต่เด็กตนก็พยายามสอนให้ลูกรู้จักผิดชอบชั่วดีมาเสมอ จึงเชื่อว่าเหตุการณ์ครั้งนี้ลูกชายไม่ได้ทำแน่นอน แต่ถ้าสุดท้ายแล้ว พยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ออกมาและมัดตัวว่าลูกชายเป็นผู้กระทำจริง ตนก็ยินดีที่จะให้ลูกชายรับโทษตามกฏหมาย ตนเองก็ไม่สามารถช่วยอะไรได้เพราะครอบครัวไม่ได้มีอิทธิพลหรือรู้จักกับผู้มีอิทธิพลใด ๆ เป็นแค่ชาวสวนธรรมดา ๆ คนนึง และขณะเดียวกันหากผลตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์ออกมาว่าลูกไม่ได้เป็นผู้กระทำ ลูกชายได้ปรึกษากับตนแล้วว่าจะมีการฟ้องกลับแน่นอน เนื่องจากตอนนี้ลูกชายได้รับผลกระทบมาก ทั้งเรื่องของงานและสภาพจิตใจ
ด้าน “นางจรรยา” (สงวนนามสกุล) อายุ 55 ปี แม่ของครูพละ วันนี้ก็ยอมรับว่าพูดไม่ออก บอกไม่ถูกกับเรื่องที่เกิดขึ้นเหมือนกัน เพราะไม่คิดว่าวันนึงครอบครัวจะต้องมาเจอกับอะไรแบบนี้ ซึ่งตอนนี้ทั้งแม่และพ่อก็เครียดมาก สงสารลูกชาย ใช้ชีวิตอยู่ด้วยความไม่สบายใจ
แต่เท่าที่ตนคุยกับลูกตลอด ครั้งล่าสุดเมื่อ 2 วันก่อน ลูกชายก็ยืนยันว่าไม่ได้ทำแน่นอน พร้อมกับบอกให้ตนสบายใจได้ ซึ่งตนก็เชื่อ 100 เปอร์เซ็นต์ว่าลูกชายไม่ได้ทำ เพราะตนเลี้ยงลูกมาเองกับมือ ที่ผ่านมาลูกไม่เคยมีพฤติกรรมตามที่ถูกกล่าวอ้างมาก่อน
ส่วนปัจจุบันลูกชายพักอยู่กับภรรยาซึ่งเป็นครูเหมือนกันที่บ้านพักครูของโรงเรียนใน ต.บางนอน อ.เมือง จ.ระนอง โดยภรรยาก็รับรู้เรื่องราวทั้งหมด และมั่นใจว่าลูกชายตนไม่ได้ทำเหมือนกัน ตอนนี้ทั้งคู่จึงพยายามให้กำลังใจกันตลอด เพราะลูกชายไม่ได้ไปทำงานที่โรงเรียนตั้งแต่เกิดเรื่อง