อัสสัมชัญสมุทรปราการอัดฉีดครึ่งล้านเชิดชู “บิว-เอแคร์”

โรงเรียนอัสสัมชัญสมุทรปราการ จัดงานใหญ่ เชิดชู 2 ฮีโร่ ศิษย์ปัจจุบัน “บิว” ภูริพล บุญสอน ที่เหมา 3 ทองกรีฑาซีเกมส์ ครั้งที่ 31 และ “เอแคร์” ชญานุศภัฒค์ ชินนะเกิดโชค นักกีฬาฟันดาบ ที่คว้า 2 ทองแดง พร้อมมอบอัดฉีดร่วมครึ่งล้าน โดย “บิว” ได้รับเงินรางวัลสนับสนุน 2 แสนบาท ส่วน “เอแคร์” ได้รับเงินรางวัลอัดฉีด 1.1 แสนบาท หลังมุมานะอดทนอย่างหนัก ก่อนสร้างชื่อเสียงให้ประเทศไทยในศึก “ฮานอยเกมส์”

     โรงเรียนอัสสัมชัญสมุทรปราการ จัดงานแสดงความยินดีพร้อมมอบรางวัลให้กับ 2 ฮีโร่ดาวรุ่งของวงการกีฬาไทย ซึ่งเป็นศิษย์ปัจจุบันของโรงเรียน ทั้ง “บิว” ภูริพล บุญสอน ลมกรดเจ้าของ 3 เหรียญทอง และ “เอแคร์” ชญานุศภัฒค์ ชินนะเกิดโชค นักกีฬาฟันดาบ ที่คว้า 2 ทองแดง จากกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 31 ที่หอประชุมรัชตสมโภช โรงเรียนอัสสัมชัญสมุทรปราการ เมื่อ 25 พ.ค.65 

    ในงานเลี้ยงแสดงความยินดีครั้งนี้ ได้รับเกียรติจาก ภราดา ดร.มณฑล ประทุมราช ผู้อำนวยการโรงเรียนอัสสัมชัญสมุทรปราการ เป็นประธานในงาน ร่วมด้วย  ภราดา ดร.พิสูตร วาปีโส ผู้อำนวยการโรงเรียนอัสสัมชัญศรีราชา  รวมทั้ง นันทิดา แก้วบัวสาย นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการ ร่วมด้วยคณะกรรมการบริหารโรงเรียน ศิษย์เก่าและปัจจุบันของโรงเรียนอัสสัมชัญศรีราชา ร่วมแสดงความยินดีกับ 2 นักกีฬาทีมชาติ ที่สร้างชื่อให้กับประเทศไทยอย่างคับคั่ง 

    ทั้งนี้โรงเรียนอัสสัมชัญสมุทรปราการ ได้มอบเงินรางวัลตอบแทนความมุมมานะให้กับ “บิว” ภูริพล บุญสอน เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 200,000 บาท แบ่งเป็นเหรียญทอง 3 เหรียญ เหรียญละ 50,000 บาท รวม 150,000 บาท บวกกับเงินสนับสนุนการฝึกซ้อม 50,000 บาท ส่วน “เอแคร์” ได้รับรางวัลตอบแทนความสำเร็จทั้งสิ้น 110,000 บาท แบ่งเป็น เหรียญทองแดง 2 เหรียญ เหรียญ ละ 30,000 บาท เป็นเงิน 60,000 บาท บวกกับเงินสนับสนุนการฝึกซ้อม 50,000 บาท  นอกจากนี้โรงเรียนอัสสัมชัญสมุทรปราการ ยังได้มอบเงินสนับสนุนให้สมาคมกีฬากรีฑาแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ และสมาคมกีฬาฟันดาบแห่งประเทศไทย อีกสมาคมละ 100,000 บาท ด้วย รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 510,000 บาท 

    “บิว” ภูริพล บุญสอน เจ้าของ 3 เหรียญทองซีเกมส์ ในระยะ 100, 200 และ 4×100 ม.กีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 31 เผยว่า อยากขอบคุณโรงเรียนอัสสัมชัญสมุทรปราการ โดยเฉพาะท่านผู้อำนวยการโรงเรียน ที่คอยสนับสนุนทุกอย่างในการไปแข่งขัน รวมถึงเรื่องการเรียน อยากขอบคุณ “นายกตู่” นันทิดา ที่คอยเชียร์และส่งกำลังใจให้ตนตอนแข่งขัน รวมถึงเพื่อนๆพี่ๆน้องที่โรงเรียน ในทีมชาติ และแฟนๆกีฬาชาวไทยที่คอยส่งกำลังใจให้กับตนเป็นอย่างดี 

    ลมกรดวัย 16 ยังเผยถึงผลงานของตัวเองในกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 31 ด้วยว่า แม้จะได้ 3 เหรียญทอง แต่ยังมีจุดบกพร่องที่ต้องแก้ไขอยู่ อย่างเรื่องการออกบล็อคสตาร์ทในการวิ่ง 100 ม.ชาย ซึ่งตนก็รู้ตัวว่าทำได้ไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่ ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะไม่ชิน กับบล็อคสตาร์ทที่เวียดนามได้ใช้ ซึ่งไม่ค่อยแน่นเท่าไหร่ ทำให้กว่าจะตั้งลำได้ก็ผ่าน 50 ม.ไปแล้ว แตกต่างกับตอนแข่งขันกีฬาแห่งชาติ ที่ศรีสะเกษ เมื่อเดือนมี.ค.65 รู้สึกว่าบล็อคสตาร์ตแน่นกว่า เลยทำให้ออกสตาร์ตได้ดีกว่า และตั้งลำได้ตั้งแต่ 30 ม.แรก 

    ด้าน “เอแคร์”  ชญานุศภัฒค์ ดาวรุ่ง ดีกรีมือ 1 ประเทศไทย ในประเภทดาบฟอยล์  เผยว่า ในซีเกมส์ ครั้งที่ 31 ตนเองได้ 2 เหรียญทองแดง จากประเภทบุคคลและทีมมา อยากขอบคุณโรงเรียนอัสสัมชัญสมุทรปราการ ผู้บริการ และอาจารย์ทุกท่านที่ช่วยสนับสนุนตนเป็นอย่างดี ซึ่งก็ทำให้ตนไม่ต้องคอยมากังวลเรื่องการเรียน ทำให้สามารถโฟกัสกับการฝึกซ้อมได้อย่างเต็มที่ และขอบคุณแฟนกีฬาคนไทยทุกคนที่คอนเชียร์และให้กำลังใจตนเสมอมา 

    ส่วน นันทิดา แก้วบัวสาย เผยว่า น้องๆทั้งสองคน ทั้ง “บิว” และ “เอแคร์” ถือเป็นความภาคภูมิใจของคนไทย ของโรงเรียนอัสสัมชัญสมุทรปราการ และคนจังหวัดสมุทรปราการ รวมถึงน้องๆนักกีฬาสมุทรปราการอีก 26 คน ที่ติดทีมชาติ เป็นตัวแทนประเทศไทยไปแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 31 ที่ประเทศเวียดนาม ส่วนตัวขอชื่นชมน้องๆทุกคนที่ทุ่มเทและฝึกฝนอย่างหนัก ในการเป็นตัวแทนเดินทางไปทำหน้าที่เพื่อชาติ สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทย

 

    “เราในฐานะที่เป็นคนเชียร์คนชม อยากจะชื่นชมทั้ง น้องบิว และ น้องเอแคร์ ที่มุ่งมั่ง ฝึกฝนตัวเองซ้ำๆอย่างหนัก ชนิดที่ต้องละทิ้งเวลาส่วนตัว และเวลาเล่นกับเพื่อนฝูง เพื่อสานฝันและสร้างชื่อให้กับประเทศ ซึ่งทั้งคู่ถือเป็นแบบอย่างที่ดีในหลายๆด้านให้กับเพื่อนในวัยเดียวกัน และน้องๆเยาวชนอีกหลายคน อยากขอบคุณทั้งบิวและเอแคร์ รวมถึงนักกีฬาจังหวัดสมุทรปราการ และนักกีฬาไทยทุกๆคนที่สร้างความสุขให้กับแฟนๆชาวไทยในการแข่งขันซีเกมส์ครั้งที่ 31 ด้วย” 

    นันทิดา แก้วบัวสาย เผยอีกว่า จังหวัดสมุทรปราการ มีแผนและนโยบายในการส่งเสริมและปลูกฝังให้เยาวชน ประชาชนในจังหวัดได้เล่นกีฬา ทั้งเพื่อสุขภาพและความเป็นเลิศ ซึ่้งจังหวัดสมุทรปราการมีโครงการที่จะส่งเสริมให้มีสนามกีฬา หรือลานกีฬาในหลากหลายชนิดเกิดขึ้นในพื้นที่ภายในเร็วๆนี้ ขณะเดียวกัน จังหวัดได้ร่วมกันกับโรงเรียนเทศบาล ๑ (เยี่ยมเกษสุวรรณ) ปรับปรุงสนามกรีฑา ลู่วิ่งมาตรฐานให้กับบิว และนักกรีฑาของจังหวัดอีกหลายๆคน ได้มีพื้นที่สำหรับทำการฝึกฝนพัฒนาตัวเอง