กูรูด้านอาหารชื่อดังระดับต้น ๆ ของเมืองไทย “อ.ยิ่งศักดิ์”
เปิดใจสาเหตุโรงเรียนสอนทำอาหารไม่มีคนมาเรียน?
ถึงโรงเรียนสอนทำอาหารจะเจอพิษของโควิด – 19 เข้าไปเต็ม ๆ แต่ อาจารย์ยิ่งศักด์ ก็ไม่ท้อไม่หวั่นเดินหน้าสู้แบบสุดใจ เมื่อมาเยือนรายการ ต้มยำอมรินทร์ ผลิตโดย CHANGE2561 นอกจากเปิดใจถึงเรื่องราวที่ต้องเผชิญมรสุมช่วงโควิดที่ผ่านมาแล้ว อาจารย์ยิ่งศักดิ์ ยังได้เล่าย้อนอดีตที่กว่าจะมาถึงจุดประสบความสำเร็จนี้ได้การเริ่มต้นจากการเป็นลูกแม่ค้าขายข้าวแกงที่ อาจารย์ยิ่งศักดิ์ ภูมิใจ เพราะนำมาซึ่งอาชีพที่เลี้ยงชีพได้อย่างดีในตอนนี้ นอกจากนั้นงานนี้พิธีกรของเรา บุ๋ม ปนันดา ยังได้มาเปิดเผยความลับดี ๆ ที่ อาจารย์ยิ่งศักดิ์ ช่วยเหลือสังคมแบบไม่ออกหน้ามาให้ได้มีรอยยิ้มกันอีกด้วย
ถาม วลีเด็ดที่ใคร ๆ ก็ต้องเลียนแบบคำพูดของอาจารย์ คือ กินได้ก็กิน กินไม่ได้ก็ทิ้งไป ถือว่าเป็นวลีประจำตัวเลยไหม
อ.ยิ่งศักดิ์ : ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าตัวเองพูดคำนั้นได้ยังไง คือ ตอนที่เราไปออกรายการทีวี อาจารย์ก็หยิบโน้นนี่ใส่แล้วพิธีกรก็ถามว่ากินได้หรือเปล่า อาจารย์ก็เลยบอกเขาว่า กินไม่ได้ก็เททิ้งไปสิ !! ก็เลยเป็นกลายเป็นคำนี้ขึ้นมา คือ อาจารย์คิดว่าทำกับข้าวทำไมต้องเครียด ซึ่งคำนี้คือ จะพูดปกติธรรมดาก็ไม่ได้ด้วยนะเพราะว่าจะต้องใส่แอคติ้งลงไปด้วย
ถาม คือ ก่อนที่จะมาเป็น อาจารย์ยิ่งศักดิ์ ที่เป็นกูรูอาหารที่เป็นอันดับหนึ่ง ณ ตอนนี้ก็ไม่มีใครเถียง แต่ถ้าย้อนกลับไปเริ่มต้นย้อนกลับไป คือ เป็นลูกแม่ค้าขายข้าวแกง
อ.ยิ่งศักดิ์ : คือ คุณแม่อาจารย์ยิ่งศักดิ์ เป็น แม่ค้าขายข้าวแกง จริงๆเราโตมาจากร้านค้าขายข้างแกงข้างถนนที่เป็นตึกแถวอันนี้ลำบากยอมรับ จริงๆอาจารย์ยิ่งศักดิ์เป็นคนที่ไม่ค่อยชอบเรื่องชีวิตของตัวเองแล้วให้ทุกคนมารันทด แต่อยากจะให้ทุกคนรับรู้ว่าชีวิตเราได้ดีได้ ตอนนั้นไข่ต้มหนึ่งฟองยังต้องแบ่งครึ่งกินกับน้องสาวในวันเก่าๆแต่ไม่ได้หมายความว่าเราเกิดจากที่เราลำบากแล้ววันนี้เราจะรวย ที่เราได้ดิบได้ดีไม่ได้ไม่จริงนะคะ ชีวิตมีการเปลี่ยนแปลงได้ถ้าเราขยัน อดทน เราจะอยู่ได้ ซึ่งอาจารย์พูดได้อย่างภูมิใจเลยนะวันนี้ ว่าแม่ของเราลำบากมา แต่ในวันนี้เราทำให้ท่านไม่รู้จักคำว่าลำบากอีกเพราะว่าเรากลัวลำบาก
ถาม แต่นั่นก็ทำให้เราได้วิชาการทำอาหารมาจากคุณแม่หรือเปล่า
อ.ยิ่งศักดิ์ : อันนี้จริงยอมรับ คุณแม่ มีลูกสองคน ท่านจะตื่นขึ้นมาตี 4 ตี 3 คุณแม่ต้องมานั่งทำแกงแล้วเอาใส่ถาดไปขายตอนนั้นจากหนึ่งก็ประมาณ 3-5 บาทเอง ตอนนั้นก็ต้องบอกเลยว่าลำบากมากแล้วพอช่วยแม่เสร็จตอนนั้นเราก็ต้องไปเรียนหนังสือต่อ พอกลับมาจากโรงเรียนเราก็ต้องเอาตะกร้าใบใหญ่ขึ้นรถเมล์ไปตลาดเพื่อไปซื้อของมาให้แม่ไว้ทำกับข้าง ถ้าพูดถึงตอนนั้นก็ลำบากจริงๆนะ
ถาม ตอนนั้น อาจารย์ รู้ตัวเลยไหมว่าเราอยากทำอาหาร
อ.ยิ่งศักดิ์ : ไม่รู้ตัว แล้วก็ไม่ชอบการทำอาหารเพราะว่าเราต้องมานั่งทำกับข้าว มานั่งหันผัก หันพริก ขูดมะพร้าวเพื่อนฝูงก็นั่งว่าเราว่า มานั่งหันแต่ผัดโตขึ้นต้องเป็นตุ๊ด ตอนนั้นเรารู้สึกว่าทำไมเราถึงไม่มีชีวิตอย่างคนอื่น ตอนนั้นเราคิดมากๆนะ แล้วก็มีความรู้สึกว่าไม่ค่อยแฮปปี้กับสิ่งที่ตัวเองต้องช่วยแม่ แต่เราก็ไม่เคยรู้เลยว่าพอวันหนึ่งที่เราเติบโตขึ้นมาอาชีพอะไรต่อมิอะไรมันก็ลำบากไปหมด เราก็ต้องเพียรพยายามจนกว่าเราจะเก่งใช่ไหม แต่สิ่งหนึ่งที่เราไม่ต้องเพียรพยายามเลย แต่มันคล่องไปหมดเลยก็คือการทำอาหารจากที่เราต้องถูกแม่บังคับ พอเราได้มาเป็นอาจารย์ในวันนี้เราบอกเลยว่า ทฤษฎีในการเรียนรู้ที่ชัดเจนที่สุดคือ อยากให้ลูกเป็นยังไงต้องให้ลูกมีประสบการณ์แบบนั้นเสมอ เราไม่ชอบทำไปเรื่อยๆจากความชำนาญเราทำแล้วสำเร็จแล้วกลายเป็นชอบ อันนี้คือสิ่งที่ถูกต้องค่ะ อยากให้ลูกประสบความสำเร็จในอาชีพอะไรก็ตามเอาอาชีพนั้นมาใส่ให้มันเป็นสิ่งแวดล้อม
ถาม ตอนนี้ อาจารย์ ก็ดูแลแม่อย่างใกล้ชิดด้วย
อ.ยิ่งศักดิ์ : ตอนนี้เราก็เหลือพระในบ้านแค่คนเดียว ก็คือ คุณแม่ ที่ตอนนี้อายุ 90 แล้วไม่สบายใจตรงที่คุณแม่มีโรคเบาหวานมาตั้งแต่อายุ 30-40 กินยามาตลอดจนกระทั่งไตวายไปเลย ต้องฟอกไตวันเว้นวันแล้วในชีวิตของคุณแม่ทำงานหนักมาก ลำบากมากมาตลอดใช้ร่างกายมากผ่าตัดมดลูก ผ่าตัดมะเร็งเต้านมแม่ผ่าตัดมา 7 ครั้งในชีวิต แล้วตอนนี้น้ำหนักเหลือสามสิบกิโล เรียกว่าตอนนี้ต้องทานยาแทนข้าวเลย
ถาม ซึ่งนอกจากอาจารย์ยิ่งศักดิ์ จะทำอาหารแล้วยังเปิดโรงเรียนสอนในเรื่องของการทำอาหารด้วย
อ.ยิ่งศักดิ์ : ตอนนี้คนก็ไม่ค่อยเรียนกันแล้ว เพราะว่าเขาไปเรียนที่อาจารย์ google กันหมด ซึ่งการเรียนรู้สามารถเรียนได้หมดทุกที่เราห้ามดูถูกสถาบัน แต่ถ้าอยากเสียเวลาก็ต้องเรียนแบบลองผิดลองถูก แต่ถ้าอยากเรียนจากผู้ที่มีประสบการณ์รู้ได้เร็วผลสำเร็จจริงการมาเรียนกับ น้องยิ่ง
ถาม แล้วที่สำคัญอันนี้ไม่มีข่าวหรือไม่เคยบอกใครหลายครั้งที่น้องๆที่เป็นเด็กกำพร้าแล้วมีความฝันไปเรียนที่ต่างประเทศ หรือ อยากไปทำงานที่ต่างประเทศเพื่อหาเลี้ยงครอบครัว อาจารย์ยิ่งศักดิ์ เคยให้ทุนการศึกษาเด็กที่ บุ๋ม ช่วยเหลือฟรี อันนี้ไม่เคยบอกสื่อเลยเพราะอาจารย์ไม่เคยให้เป็นข่าวเลย
อ.ยิ่งศักดิ์ : อย่าเลย คือ ถ้าอยากทำอะไรดี ๆ ก็ทำได้ ใครเดือดร้อน ใครอะไรมาก็ต้องไปมูลนิธิของ คุณบุ๋ม
บุ๋ม ปนัดดา : บุ๋ม เองต้องขอบคุณอาจารย์ด้วยนะคะ เรื่องนี้ไม่เคยบอกที่ไหนมาก่อนเลยที่เข้ามาช่วยเหลือแล้วเปลี่ยนผู้หญิงคนหนึ่งที่หาทางออกไม่เจอ โดนทำร้ายมามากมาย แต่เขาก็ยังพอมีไฟที่จะสู้อยู่ในใจ แล้วอาจารย์คือคนที่นำทางให้เขา ต้องขอบคุณอาจารย์มาก ๆ นะคะ
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘จ๊ะ นงผณี’ เล่าปมฝังใจทั้งน้ำตา ถูกผู้ใหญ่ในวงการด่า ‘อีลูกทุ่ง…สะเหล่อ’
- ‘แอนนี่ บรู๊ค’ ภูมิใจสุด ๆ ‘น้องฑีฆายุ’ สอบได้คะแนนเต็ม 100 ด้านภาษา
- ‘โอ๊ต ปราโมทย์’ ประกาศกักตัวแบบคนโสด 14 วัน หลังผู้ติดเชื้อร่วมคอนเสิร์ต