ประเด็นเด็ด 7 สี – เด็กหญิง 10 ขวบ นักเรียนชั้น ป.3 ที่ถูกพลุตะไลงานศพตกใส่ศีรษะ ขณะเดินออกจากโรงเรียนเพื่อกลับบ้าน เสียชีวิตแล้ว หลังเข้ารับการรักษาตัวนาน 16 วัน โดยตำรวจเตรียมเรียกคนจุดพลุตะไลมาแจ้งข้อหาเพิ่ม เหตุการณ์นี้ถือเป็นบทเรียนราคาแพง ที่ไม่ต่างอะไรกับการยิงปืนขึ้นฟ้า
แม่น้องมินท์ กอดตุ๊กตาหมีสีน้ำตาลไว้แนบอก ไม่ยอมห่าง เป็นการระลึกถึงลูกสาวตัวน้อยอายุ 10 ขวบ ที่จากไปก่อนเวลาอันควร ขณะเดินทางมารับศพของลูกสาวไปบำเพ็ญกุศล
วันที่ 29 มีนาคมที่ผ่านมา เด็กหญิงอายุ 10 ขวบ นักเรียนชั้น ป.3 โรงเรียนแห่งหนึ่งในอำเภอปักธงชัย จังหวัดนครราชสีมา เดินออกจากโรงเรียนเพื่อกลับบ้านกับเพื่อน ๆ
เหลือเพียงไม่กี่ก้าวก็จะถึงประตู จู่ ๆ ก็มีวัตถุบางอย่างหล่นลงมาจากท้องฟ้า ตกใส่กลางศีรษะของเด็กหญิงจนควันฟุ้งกระจาย ร่างเด็กหญิงร่วงลงกับพื้นแน่นิ่งไป เธอถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลในสภาพโคม่า และไม่รับรู้อะไรอีกเลยนับตั้งแต่นั้นมา
ตำรวจ สภ.ปักธงชัย เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ ก่อนจะพบบความจริงอันน่าสะเทือนใจ วัตถุที่ตกใส่เด็กหญิงเป็นเศษพลุตะไลงานศพ จากวัดที่อยู่ไม่ไกลจากโรงเรียนมากนัก ตำรวจเรียกคนจุดพลุมาสอบสวน ก่อนจะพบว่าเจ้าภาพงานศพไม่ได้ขออนุญาตจุดพลุกับทางอำเภอปักธงชัย หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
ตำรวจแจ้งข้อหาคนจุดพลุทั้ง 2 คน ในข้อหากระทำการโดยประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส และความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน
นับจากวันนั้นจนถึงวันนี้ 16 วันที่เด็กหญิงไม่รู้สึกตัว อาการทรุดลงเรื่อย ๆ และวันนี้ (14 เม.ย.) เด็กหญิงก็เสียชีวิต พ่อแม่และญาติ ๆ นำร่างกลับไปตั้งบำเพ็ญกุศลทางศาสนา แม้จะรับรู้มาก่อนล่วงหน้าและทำใจได้บ้างแล้ว แต่ทุกคนก็โศกเศร้า
แม่ของเด็กหญิงบอกว่า ก่อนลูกจะสิ้นใจ 1 วัน เธอฝันเห็นลูกสาวเข้ามากอด จึงถามไปว่าจะไม่อยู่กับแม่แล้วหรือ สิ่งที่ได้กลับมาคือเสียงร้องไห้ และการส่ายหัวเพียงเท่านั้น
หลังเกิดเหตุผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กำชับให้ทุกอำเภอคุมเข้ม ห้ามจุดพลุทุกชนิด หรือถ้ามีความจำเป็นจะต้องจุด ต้องขออนุญาตล่วงหน้า 10 วัน และต้องแจ้งสถานที่ ขนาด รวมถึงจำนวนของพลุอย่างชัดเจน
ความสูญเสียครั้งนี้เป็นบทเรียนราคาแพง ให้สังคมและภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ตระหนักถึงความรุนแรง และอันตรายที่เกิดจากการจุดพลุตะไล ซึ่งไม่ต่างอะไรกับการยิงปืนขึ้นฟ้า