จากกรณีจังหวัดมหาสารคาม พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เป็นกลุ่มเด็กนักเรียนอายุระหว่าง 6 – 10 ปี ที่ไม่แสดงอาการจำนวนถึง 9 ราย ติดเชื้อจาก 1 ในเพื่อนนักเรียนที่มีความเชื่อมโยงกับคลัสเตอร์งานบวช ในพื้นที่ ต.บัวค้อ อ.เมือง จ.มหาสารคาม ซึ่งเป็นคลัสเตอร์ใหม่ของจังหวัด โดยเจ้าหน้าที่สาธารณสุขรับมาทำการตรวจและรักษาตัว ณ หอผู้ป่วยเฉพาะโรค โรงพยาบาลมหาสารคาม จำนวนถึง 8 ราย ส่วนอีก 1 รายได้ถูกส่งต่อไปยังโรงพยาบาลสนามอำเภอกุดรัง เพื่อทำการรักษาพร้อมกับญาติที่ติดเชื้อโควิด-19 เช่นกัน
ทั้งนี้หลังจาก แพทย์หญิงจิราพร พิลัยกุล หัวหน้ากลุ่มงานอายุรกรรม โรงพยาบาลมหาสารคาม และ หัวหน้าทีม รักษาผู้ป่วย covid-19 ของโรงพยาบาลมหาสารคามได้แชร์ภาพ ทีมแพทย์-พยาบาล กำลังทำกิจกรรมการดูแลผู้ป่วยเด็กติดเชื้อโควิด-19 พร้อมทั้งได้เสริมหน้าที่พิเศษ ดูแลเหนือไปอีกขั้นด้วยการสอนหนังสือเด็กๆ ภายในห้องความดันลบ ซึ่งคาดว่าคงไม่เคยมีเหตุการณ์ลักษณะนี้มาก่อนในประเทศไทย และเป็นภาพที่ประทับใจต่อผู้พบเห็นมาก
- หมอ-พยาบาล รับบทคุณครูจำเป็น สอนหนังสือเด็กติดโควิด 8 คนในห้องความดันลบ
ผู้สื่อข่าวมีโอกาสพูดคุยกับ นางสาวขนิษฐา ศรีธรรมา พยาบาลวิชาชีพ ประจำหอผู้ป่วยเฉพาะโรค โรงพยาบาลมหาสารคาม หนึ่งในคุณครูจำเป็นของโรงเรียนโควิดวิทยา โดยเธอเล่าว่า ผู้ป่วยเด็กทั้งหมดเป็นผู้ป่วยที่ไม่แสดงอาการ ร่างกายโดยรวมยังแข็งแรงดี และคาดว่าเบื้องต้นต้องใช้เวลาสังเกตอาการและรักษาตัว อย่างน้อย 14 วัน ในระหว่างนี้โรงพยาบาล จึงได้ประสานกับผู้ปกครองและคุณครู จัดกิจกรรมการเรียนการสอนรูปแบบพิเศษ เพื่อให้เด็กๆ ได้ใช้เวลาระหว่างพักรักษาตัวให้เป็นประโยชน์ นอกเหนือจากการนอน การออกกำลังกาย การช่วยกันวัดอุณหภูมิร่างกาย เพื่อส่งให้พยาบาลได้จดบันทึกข้อมูลสุขภาพในแต่ละวัน ตลอดจนการปฏิบัติตัวตามที่แพทย์ได้วางรูปแบบไว้ ซึ่งทางโรงเรียนของเด็กๆ ก็ได้ส่งการบ้านมายังเจ้าหน้าที่พยาบาล เพื่อส่งให้น้องๆ ได้ทำ หากเด็กๆ ทำแบบฝึกหัดเสร็จก็ส่งให้พี่พยาบาลตรวจความเรียบร้อย แล้วส่งให้คุณครูโรงเรียนต่อไป
นางสาวขนิษฐา ศรีธรรมา เล่าเพิ่มเติมว่า การสื่อสารระหว่างเด็กๆ จะใช้วิธีการโทรศัพท์หรือวีดีโอคอล แจกการบ้านและตรวจทานร่วมกัน แต่บางครั้งที่น้องๆ ไม่เข้าใจแบบฝึกหัด ตนและพี่พยาบาลท่านอื่นๆ ก็จะช่วยดูและสอนการบ้านที่ไม่เข้าใจ ภายในห้องความดันลบอีกด้วย โดยจะใช้เวลาช่วงที่เข้าไปดูแลตรวจวัดสุขภาพประจำวันเสร็จ เรียกเด็กๆ มาพูดคุยและเปิดโอกาสในซักถามโจทย์การบ้านอย่างเต็มที่ ซึ่งที่ผ่านมาตนก็รู้สึกสนุกที่ได้ทำหน้าที่เป็นคุณครูจำเป็น เพราะถือเป็นการได้ทบทวนความรู้ในระดับชั้นประถมอีกครั้ง
ท้ายนี้ ขอขอบคุณทุกกำลังใจที่มอบให้ผู้ป่วยเด็กที่ติดเชื้อโควิด-19 รวมถึงกำลังใจที่ส่งมาให้บุคลากรทางการแพทย์ ซึ่งถือเป็นพลังสำคัญที่ทำให้เจ้าหน้าที่ในทีมรู้สึกหัวใจฟู มีพลังที่จะปฏิบัติหน้าที่อย่างถึงที่สุด
