เผยผลตรวจอาหาร ภาชนะ น้ำ ตัวอย่างจากมือผู้ประกอบอาหาร จากโรงเรียนดังย่านฝั่งธนฯ หลังเด็กท้องเสียกว่า 60 คน ไม่พบสิ่งอันตรายที่ส่งผลให้นักเรียนท้องเสีย
วันนี้ (9 พ.ย.2565) กรณีนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ของโรงเรียนดังฝั่งธนบุรี มีอาการท้องเสียพร้อมกันมากกว่า 60 คน เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา และบางคนยังรักษาตัวอยู่โรงพยาบาล ทำให้ผู้ปกครองเรียกร้อง ให้โรงเรียนออกมาชี้แจงและแสดงความรับผิดชอบ
ล่าสุด ผู้อำนวยการเขตบางแค ชี้แจงผลตรวจอาหาร หลังลงพื้นที่เก็บตัวอย่างกว่า 60 ตัวอย่าง โดยประเด็นสำคัญที่ได้รับการยืนยัน จากผู้อำนวยการเขตบางแค หัวหน้าฝ่ายสิ่งแวดล้อมและสุขาภิบาล และนักวิชาการสุขาภิบาลชำนาญการ ฝ่ายสิ่งแวดล้อมและสุขาภิบาล คือ ผลตรวจจากการเก็บตัวอย่างในโรงเรียนเมื่อวานนี้ เช่น ตัวอย่างอาหาร 45 ตัวอย่าง ตัวอย่างจากมือผู้ประกอบอาหาร 11 คน ตัวอย่างจากภาชนะ 3 ตัวอย่าง และตัวอย่างน้ำ 1 ตัวอย่าง ผลตรวจทั้งหมดเป็นปกติ คือ ไม่พบสิ่งอันตรายที่ส่งผลให้นักเรียนท้องเสียได้
ทั้งนี้ ตั้งข้อสังเกตว่า อาจมีการปนเปื้อนเชื้อโรคระหว่างการส่งต่ออาหารไปให้นักเรียน ป.1 หรือ ภาชนะใส่อาหารเฉพาะของนักเรียน ป.1 มีการปนเปื้อน เพราะหากอาหารคือต้นเหตุ ต้องมีนักเรียนที่มีอาการมากกว่านี้ เพราะการปรุงอาหารเป็นล็อตเดียวกันทั้งหมด และแจกให้นักเรียน ป.1 – ป.3 มากกว่า 1,000 คน
น.ส.วีร์สุดา เผ่าภูธร นักวิชาการสุขาภิบาลชำนาญการ ฝ่ายสิ่งแวดล้อมและสุขาภิบาล ระบุว่า สาเหตุที่ไม่พบเชื้อเพราะการเข้าไปเก็บตัวอย่างผ่านมาหลายวันหลังเกิดเหตุ โดยเข้าไปเก็บตัวอย่างเมื่อวานนี้ (8 พ.ย.) แต่นักเรียนเริ่มท้องเสียตั้งแต่วันที่ 2 พ.ย.ที่ผ่านมา ระยะเวลา 6 วัน ทำให้สิ่งปนเปื้อนอาจจะถูกชะล้างไปแล้ว
ขณะที่การเข้าไปเก็บตัวอย่างของเจ้าหน้าที่ สำนักงานเขตบางแค มาจากผู้ปกครองร้องเรียนไม่ใช่การได้รับแจ้งจากโรงเรียน ผู้ปกครองส่วนหนึ่งตั้งคำถามว่า เหตุใดโรงเรียนจึงไม่แจ้งสำนักงานเขตทันทีที่เกิดเรื่องแต่ปล่อยให้เวลาผ่านไปหลายวัน
ด้าน ผู้อำนวยการเขตบางแค ยืนยันว่า ได้ประสานกับโรงเรียนให้ตั้งคณะทำงาน เพื่อหารือแนวทางการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบทุกคน แต่จากการสอบถามผู้ปกครอง ระบุว่า ยังไม่มีตัวแทนโรงเรียนประสานงานมา
ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่โรงเรียนเพื่อสอบถามเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ไม่ได้รับคำชี้แจงมีพนักงานของโรงเรียน แจ้งว่า ไม่มีผู้บริหารอยู่ที่โรงเรียน
ขณะที่ผู้ปกครองส่วนหนึ่งให้ข้อมูลว่า นับตั้งแต่วันเกิดเหตุจนถึงขณะนี้โรงเรียนสงวนท่าทีมาโดยตลอด ไม่ชี้แจงประเด็นที่ผู้ปกครองสงสัย และยืนยันว่า หากโรงเรียนยังนิ่งเฉยผู้ปกครองส่วนหนึ่งจะรวมตัวไปที่โรงเรียน เพื่อให้แสดงความผิดชอบ เพราะบางคนลูกยังต้องรักษาตัวที่โรงพยาบาล และต้องออกค่ารักษาเองทั้งหมด