กรมควบคุมโรค แนะ “ผู้ป่วยเบาหวาน” คุมน้ำตาลให้ดี รับประทานยาให้ครบ และรีบฉีดวัคซีนป้องกันโควิด 19
กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ห่วงผู้ป่วยเบาหวาน คุมน้ำตาลให้ดี อย่าขาดยาอย่างเด็ดขาด และรีบเข้ารับบริการฉีดวัคซีนโควิด 19 ที่สถานบริการสาธารณสุขใกล้บ้านให้ครบ 2 เข็ม วัคซีนจะลดความรุนแรง และในกลุ่มผู้ป่วยเบาหวานที่คุมน้ำตาลในเลือดไม่ดี หากติดเชื้อโควิดจะมีผลทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น ทำให้เชื้อไวรัสแพร่จำนวนได้มากขึ้น อาการจะรุนแรงกว่าคนทั่วไปถึง 2 เท่าตัว
วันนี้ (25 สิงหาคม 2564) นายแพทย์ปรีชา เปรมปรี รองอธิบดีกรมควบคุมโรค ให้สัมภาษณ์ว่า ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด 19 ซึ่งขณะนี้ส่วนใหญ่เป็นเชื้อสายพันธุ์เดลตา (Delta) ประชาชนทุกคนจึงต้องเพิ่มความระมัดระวังและป้องกันอย่างเข้มงวด เนื่องจากเชื้อชนิดนี้ติดต่อกันง่าย และมีความรุนแรงกว่าชนิดอื่น ที่น่าห่วงคือกลุ่มของผู้ป่วยเบาหวาน ซึ่งขณะนี้ทั่วประเทศมีจำนวนกว่า 3 ล้านคน นับเป็นกลุ่มเสี่ยงสำคัญหากติดเชื้อโควิด 19 จะเกิดอาการป่วยรุนแรงหรือเสียชีวิตได้ เนื่องจากมีภูมิคุ้มกันต่ำกว่าคนทั่วไป และโดนเฉพาะอย่างยิ่งผู้ป่วยโรคเบาหวานที่คุมระดับน้ำตาลไม่ได้ ซึ่งมีประมาณ 2.1 ล้านคน หรือ ร้อยละ 70 ของผู้ป่วยเบาหวานทั้งหมด จะมีโอกาสติดเชื้อง่ายขึ้นไปอีก
“มีผลการศึกษาพบว่า ระดับน้ำตาลที่สูงจะทำให้ภูมิคุ้มกันในร่างกายต่ำลง และเชื้อไวรัสโควิดจะเจริญเติบโตได้ดี และเพิ่มจำนวนมากขึ้น จึงขอให้ผู้ป่วยโรคเบาหวานทุกคน เคร่งครัดปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของแพทย์ รับประทานยาให้ครบอย่างสม่ำเสมอ อย่าขาดยาอย่างเด็ดขาด ดูแลสุขภาพแข็งแรง ไม่เครียด และให้รีบเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด 19 ฟรี ที่สถานบริการสาธารณสุขใกล้บ้านโดยเร็ว และไปรับการฉีดให้ครบ 2 เข็มตามนัดของเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ซึ่งวัคซีนจะลดความรุนแรงและลดอัตราการเสียชีวิตได้” นายแพทย์ปรีชากล่าว
ทางด้านนายแพทย์กฤษฎา หาญบรรเจิด ผู้อำนวยการกองโรคไม่ติดต่อ กล่าวเพิ่มเติมว่า จากการวิเคราะห์ในกลุ่มที่เสียชีวิตจากโรคโควิด 19 ตั้งแต่ปี 2563 จนถึงวันที่ 13 สิงหาคม 2564 ซึ่งมีจำนวนสะสม 7,126 ราย พบว่าโรคเบาหวาน เป็นสาเหตุแทรกซ้อนอยูในอันดับต้นๆ จากข้อมูลการศึกษาวิจัยในผู้ป่วยเบาหวานที่ติดเชื้อโควิด 19 พบว่าฤทธิ์ของไวรัส จะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดผันผวนและควบคุมได้ยาก และเกิดภาวะแทรกซ้อนสูงกว่าคนที่ไม่ได้เป็นโรคเบาหวานถึง 2 เท่าตัว และยังมีอัตราการเสียชีวิตสูงกว่า 3 เท่าตัว เมื่อผู้ป่วยเบาหวานได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว หลังฉีดอาจทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นชั่วคราวได้ ไม่ต้องตกใจ หรือเป็นกังวล เนื่องจากเป็นกลไกการทำงานของภูมิต้านทานโรคโดยทั่วไป
ประการสำคัญ การปฏิบัติตนตามมาตรการป้องกันการติดเชื้อโรคโควิด 19 สำหรับผู้ป่วยเบาหวานนับว่ามีความสำคัญและมีความจำเป็นในการใช้ชีวิตอยู่กับสถานการณ์ที่มีการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ได้อย่างปลอดภัย จึงขอให้ผู้ที่เป็นโรคเบาหวานทุกคน ดูแลป้องกันตนเอง ดังนี้ 1.สวมหน้ากากอนามัย 100% ล้างมือด้วยสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์บ่อยๆ 2. หลีกเลี่ยงการออกนอกบ้านหรือเว้นระยะห่างระหว่างบุคคล 3.รับประทานยารักษาเบาหวานภายใต้การดูแลของแพทย์ 4.หากมีอาการไข้สูง ไอ จาม หรือหายใจลำบาก ควรรีบพบแพทย์ และ 5.หมั่นดูแลสุขภาพให้แข็งแรง รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ลดอาหารหวาน มัน เค็ม และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ สอบถามเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร 1422
*********************************
ข้อมูลจาก : กองโรคไม่ติดต่อ/สำนักสื่อสารความเสี่ยงฯ กรมควบคุมโรค
วันที่ 25 สิงหาคม 2564