เชื่อเด็กอยากเรียนในภูมิิลำเนา แต่เตรียมวิเคราะห์หากยอดสมัครลดลง พร้อมยืนยันเปิด-ปิดเทอมตามอาเซียน
เมื่อวันที่ 7 มี.ค.60 นางสมบัติ คชสิทธิ์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏ(มรภ.)วไลยอลงกรณ์ ประธานที่ประชุมอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏ(ทปอ.มรภ.) เปิดเผยว่า กลุ่ม มรภ.ได้เริ่มรับสมัครนักศึกษาเข้าศึกษาต่อ ประจำปีการศึกษา 2560 ในระบบรับตรงและโควตาพิเศษแล้ว ซึ่งเบื้องต้นตัวเลขการรับนักศึกษาของกลุ่ม มรภ.ยังไม่ลดลง เพราะ มรภ.ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ต่างจังหวัด นักศึกษายังมีความต้องการเข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยที่ใกล้กับภูมิลำเนา
และการที่มหาวิทยาลัยรัฐ หรือมหาวิทยาลัยในกลุ่มที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) เปิดสาขาและรับนักศึกษาเข้าเรียนเพิ่มมากขึ้น จะส่งผลกระทบต่อ มรภ.หรือไม่นั้น ส่วนตัวคงตอบไม่ได้ แต่คิดว่าหลังการรับนักศึกษาปีนี้เสร็จสิ้น จะนำตัวเลขการรับนักศึกษาของกลุ่ม มรภ.ทุกแห่ง มาวิเคราะห์และหารือ ซึ่งหากพบว่าตัวเลขการรับนักศึกษาลดลงอย่างเห็นได้ชัด ก็จะต้องมีการปรับปรุงการจัดการศึกษาให้มีคุณภาพ ทั้งนี้การรับนักศึกษาเข้าเรียนระบบใหม่ร่วมกับ ทปอ.นั้นจะเริ่มในปีการศึกษา 2561 ซึ่งในส่วนของ มรภ.ชัดเจนแล้วว่าจะเข้าร่วมเฉพาะระบบโควตาและรับตรง โดยจะมีการหารือกันเพื่อเตรียมความพร้อมอีกครั้ง
นางสมบัติ กล่าวต่อไปว่า ส่วนความคืบหน้าการปรับปรุงหลักสูตร ครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์ นั้น ต้องรอความชัดเจนด้านนโยบายจาก นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการ ก่อน ซึ่งเท่าที่ดูจะเน้นที่ผลผลิต และคุณภาพบัณฑิตเป็นหลัก โดยต่อไปหากมีการสอบเพื่อให้ได้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู ก็จะเป็นหนึ่งในตัวชี้วัด การจัดการศึกษาของแต่ละมหาวิทยาลัยได้ อย่างไรก็ตาม โดยส่วนตัวแล้วเห็นว่าการผลิตครูควรจะมีทั้งระบบปิดและระบบเปิด เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้มีสิทธิเลือก เพราะทุกวันนี้ผู้ที่เรียนจบจากคณะครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์ สามารถไปทำอาชีพอื่นได้เช่นกัน
ส่วนการเปิด-ปิดภาคเรียนนั้น ทาง ทปอ.มรภ. ยืนยันยังคงเปิด-ปิดภาคเรียนตามอาเซียนเดิม เพราะหากปรับไปเปิดในเดือน มิ.ย.ก็จะชนกับการรับนักศึกษาเข้าเรียนในสถาบันอุดมศึกษา
** อ่านต้นฉบับเต็มได้ที่ หนังสือพิมพ์สยามรัฐ