ประสานศธจ.จัดหลักสูตรนำร่องพื้นที่3จังหวัดใต้4อำเภอสงขลา
นายกฤตชัย อรุณรัตน์ เลขาธิการสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย(กศน.) กล่าวถึงสภาวการณ์เด็กตกหล่นในระบบการศึกษา ที่ไม่ได้รับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ว่า สำนักงาน กศน.ได้รับการประสานจากสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.)ให้ดูเรื่องเด็กตกหล่นจากระบบการศึกษาด้วย และตอนนี้ก็ได้ประสานไปยังสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.)ที่มีระบบข้อมูลของนักเรียนที่มีรายชื่อที่ชัดเจน โดยมอบหมายให้ครูกศน.ในพื้นที่เป็นตัวหลักมาดูอีกครั้ง และเมื่อได้ข้อมูลเป็นปัจจุบันแล้ว ก็จะมอบหมายให้สถานศึกษาของ กศน.แต่ละอำเภอ ดำเนินการจัดการเรียนการสอน โดยใช้หลักสูตรของ กศน.
ซึ่งขณะนี้เราได้นำร่องใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ คือ จังหวัดนราธิวาส ปัตตานี ยะลา และ 4 อำเภอในจังหวัดสงขลา คือ อำเภอ จะนะ เทพา นาทวี สะบ้าย้อย แล้ว โดยประสานความร่วมมือกับศึกษาธิการจังหวัด (ศธจ.)ให้เป็นผู้รับผิดชอบในเรื่องของระบบข้อมูลให้เชื่อมโยงกับ กศน. ซึ่งทั้ง 2 หน่วยงานจะแบ่งหน้าที่กันว่าหน่วยงานไหนจะรับผิดชอบอะไร ในการที่จะสำรวจรายชื่อหากลุ่มเป้าหมายที่เป็นปัจจุบันที่ชัดเจน ส่วนพื้นที่อื่นก็ใช้หลักการเดียวกัน และตอนนี้ก็เริ่มนำเด็กมาจัดการเรียนการสอนแล้ว
เลขาธิการ กศน. กล่าวต่อไปว่า ส่วนในพื้นที่ปกติ ก็ให้เริ่มดำเนินการประสานเรื่องของข้อมูลนักศึกษาที่เป็นรายชื่อ ตัวบุคคล ที่ตกหล่น ทั้งของกศน.และที่หลุดออกจากระบบของสพฐ. โดยข้อมูลหลักจะเป็นข้อมูลที่มาจาก สพฐ.และเมื่อ กศน.ได้ข้อมูลจาก สพฐ.ก็จะให้ครู กศน.ลงพื้นที่ไปทบทวนรายชื่อให้เป็นปัจจุบันอีกครั้ง และมอบให้สถานศึกษาจัดการเรียนการสอน โดยใช้แนวทางของสตูลโมเดลมาจัดการเรียนการสอน และให้มีการพัฒนาหลักสูตรขึ้นมา เนื่องจากหลักสูตรของ กศน. ยังไม่สมบูรณ์สำหรับเด็กกลุ่มนี้
“สำหรับเงินอุดหนุนรายหัวตามตัวเด็ก ที่ต้นสังกัดยังไม่คัดรายชื่อเด็กออกกลางคัน ออกจากระบบบัญชีโรงเรียนนั้น เรื่องนี้จะต้องประส่านสถานศึกษาต้นสังกัดให้ชัดเจนเพื่อไม่ให้มีการเบิกจ่ายซ้ำซ้อน ซึ่ง นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการ ก็ได้พูดถึงเรื่องเด็กตกหล่น และให้ กศน.ประสานกับต้นสังกัดที่เด็กเรียนว่ามาจากไหน และเมื่อเด็กมาเรียนกับ กศน.แล้วก็ให้ส่งหลักฐานไปที่ต้นสังกัดเดิม เพื่อจะได้เบิกจ่ายเงินให้ถูกต้อง เพราะในอดีตมีประเด็นการเบิกเงินซ้ำซ้อนมาแล้ว ทำให้สถานศึกษาต้องหาเงินคืนให้กับรัฐ ซึ่งเรื่องนี้ ผอ.กศน.ทั่วประเทศ ต้องรับทราบด้วย” เลขาธิการ กศน.กล่าว
** อ่านต้นฉบับเต็มได้ที่ หนังสือพิมพ์สยามรัฐ