การศึกษาฮ่องกงยืนยัน “แอนติบอดีโควิด-19” ถ่ายทอดจากแม่สู่ทารก
การศึกษาโดยมหาวิทยาลัยจีนแห่งฮ่องกง (CUHK) เปิดเผยว่า ทารกที่เกิดจากแม่ที่ฟื้นตัวจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) มีแอนติบอดีต่อเชื้อไวรัสฯ
ภาควิชาสูติศาสตร์และนรีเวชวิทยา สังกัดคณะแพทยศาสตร์ของมหาวิทยาลัยฯ ทำการคัดเลือกหญิงตั้งครรภ์จากโรงพยาบาลของรัฐที่ติดเชื้อไวรัสฯ ก่อโรคโควิด-19 ระหว่างเดือนมีนาคม 2563 จนถึงเดือนมกราคม 2564 และวิเคราะห์ข้อมูลจากหญิง 20 คน ที่คลอดลูกภายในวันที่ 31 มกราคม 2564
ผลการศึกษาพบว่า ทารกแรกเกิด 12 ใน 13 คน ซึ่งเกิดจากแม่ที่ฟื้นตัวจากโรคโควิด-19 มีผลทดสอบแอนติบอดีอิมมูโนโกลบูลินจี (IgG) ของเชื้อไวรัสฯ เป็นบวก ซึ่งยืนยันว่ามีการถ่ายโอนแอนติบอดีเชื้อไวรัสฯ จากแม่สู่ลูก
การศึกษายังพบความสัมพันธ์แบบตรงข้ามระหว่างความเข้มข้นของแอนติบอดีอิมมูโนโกลบูลินจีในสายสะดือและของเหลวสกัดจากเลือดที่จับตัวเป็นลิ่มของแม่ กับระยะเวลาการติดเชื้อกระทั่งคลอด ซึ่งหมายความว่ายิ่งระยะการติดเชื้อกระทั่งคลอดกินเวลานาน ความเข้มข้นของแอนติบอดีอิมมูโนโกลบูลินจีจะยิ่งลดลง และมีความสัมพันธ์แบบตรงข้ามอย่างมีนัยสำคัญระหว่างอัตราส่วนการถ่ายโอนแอนติบอดีอิมมูโนโกลบูลินจีที่ได้รับกับปริมาณเชื้อไวรัสฯ ด้วย
ลีโอนา พาน นักวิจัยของการศึกษาและศาสตราจารย์ภาควิชาสูติศาสตร์และนรีเวชวิทยาของมหาวิทยาลัยฯ กล่าวว่า การค้นพบครั้งนี้ก่อให้เกิดคำถามถึงแนวโน้มผลกระทบจากการตอบสนองทางภูมิคุ้มกันที่เกิดจากวัคซีนต่อการถ่ายโอนแอนติบอดีอิมมูโนโกลบูลินจี (IgG) ของเชื้อไวรัสฯ จากแม่สู่ลูก
“มีความจำเป็นเร่งด่วนในการสร้างข้อมูลทางคลินิกเกี่ยวกับประสิทธิภาพและความปลอดภัยของวัคซีนโรคโควิด-19 ในหญิงตั้งครรภ์ ตลอดจนกำหนดเทคโนโลยีวัคซีนและระยะเวลาการฉีดวัคซีน ซึ่งจะสามารถมอบประโยชน์สูงสุดแก่สตรีมีครรภ์และทารก” พานกล่าวเสริม
ทั้งนี้ การศึกษาดังกล่าวได้รับการเผยแพร่ในวารสารนานาชาติที่มีชื่อว่าอัลตราซาวด์ทางสูติศาสตร์-นรีเวชวิทยา (Ultrasound in Obstetrics and Gynecology)
ที่มาสำนักข่าวซินหัว
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ไทยติดกลุ่ม 11 ประเทศใช้ค่าเงินหนุนการค้า ธปท.ชี้ไม่กระทบ ‘นโยบาย-ธุรกิจ’
- สตรีตั้งครรภ์ ให้นมบุตร ฉีดโควิด-19 วัคซีนได้ไหม ‘หมอยง’ มีคำตอบ
- แห่ส่งกำลังใจให้ หยาดทิพย์ ติดเชื้อโควิด-19 พร้อมแฟนหนุ่ม ขณะตั้งครรภ์ 4 เดือน