การสืบสวนทุจริตทุนเสมาฯ คืบหน้า99%พบขรก.เกี่ยวข้องเพิ่ม10ราย
วันที่ 2พ.ค.2561 นายอรรถพล ตรึกตรอง ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ในฐานะประธานคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงกรณีทุจิตกองทุนเสมาพัฒนาชีวิต เปิดเผยภายหลังการหารือร่วมกับนายสุชาติ เดชอิทธิรัตน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย พร้อมคณะ พล.ท.โกศล ประทุมชาติ ที่ปรึกษา รมว.ศึกษาธิการ ว่า ทางธนาคารกรุงไทย ให้ความสำคัญเรื่องนี้มาก หลังจากการพูดคุยกันก็พร้อมให้ความร่วมมือในทุกเรื่อง เรื่องใดที่มีกฎหมายบังคับไว้ ก็จะดำเนินการให้ตามช่องทางกฎหมาย
และขณะนี้ ศธ.เตรียมสรุปผลการสืบสวนฯ แล้ว กรณีที่มีการตั้งกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงผู้ที่เกี่ยวข้อง ก็สามารถขอข้อมูลไปยังธนาคารกรุงไทยได้ แต่เบื้องต้นขอให้นำข้อมูลเหล่านี้ให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ก่อน เพราะข้อมูลของคณะกรรมการสืบสวนฯ มีความคืบหน้าไปกว่า 99% แล้ว ยังขาดข้อมูลของวิทยาลัยพยาบาลอีก 2 แห่ง และอาจจะมีข้อมูลปลีกย่อยของโรงเรียนราชประชานุเคราะห์บางแห่ง แต่สามารถนำสืบจากตรงอื่นได้
นายอรรถพล กล่าวต่อไปว่า ล่าสุดพบว่า ตั้งแต่ปี 2548-2561 พบหลักฐานการโอนเงินรวม 34 ครั้ง เป็นเงินประมาณ 240,173,163 บาท ในจำนวนนี้เป็นเงินที่โอนถูกต้องตรงกับผู้มีสิทธิ์ 134,425,281 บาท คิดเป็น 56% ของจำนวนเงินทั้งหมด แบ่งเป็นโอนให้โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ และโรงเรียนศึกษาสงเคราะห์ สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) รวม 41 แห่ง เป็นเงิน 70,387,423 บาท โอนให้สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) จังหวัด 3 แห่ง เป็นเงิน 7,572,588 บาท และโอนให้วิทยาลัยพยาบาล 26 แห่ง เป็นเงิน 56,465,270 บาท นอกนั้นเป็นการโอนที่ไม่ถูกต้อง และจากการตรวจสอบพบว่า เป็นการโอนอ้อม หรือการหมุนเงิน ซึ่งพบว่า มีตัวเลขความเสียหายล่าสุดอยู่ที่ 77,340,907 บาท โดยมีสถานศึกษาที่แจ้งว่าเงินขาด และทางกองทุนฯ ต้องเยียวยาแบ่งเป็นโรงเรียนสังกัด สพฐ. 7,990,197 บาท กศน.ได้รับเงินครบถ้วน และวิทยาลัยพยาบาล 12,245,000 บาท รวมยอดเงินที่ต้องเยียวยา 19,573,869 บาท
และจากการตรวจสอบบัญชีพบว่า กองทุนฯ มีเงินซึ่งฝากอยู่ในบัญชีเงินฝากประจำ 648,398,957 บาท ฉะนั้นเงินที่ได้จากสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลยังอยู่ครบ และยังมีดอกเบี้ยจากเงินฝากประจำ ซึ่งคณะกรรมการกองทุนฯ จะพิจารณาอนุมัติเงินเยียวยาได้ไม่ยาก โดยตนจะเสนอสรุปผลการสืบสวนฯ ให้ นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการ พิจารณาในวันที่ 7 พ.ค.2561 ซึ่งทางคณะกรรมการสืบสวนฯ มั่นใจว่าสรุปเสนอได้ทันตามกำหนด
นายอรรถพล กล่าวด้วยว่า สำหรับรูปแบบทุจริตที่พบมีรูปแบบเดียว คือการปลอมและสอดแทรกเลขที่บัญชีธนาคาร ที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไป แต่การปลอมเลขที่บัญชีธนาคาร แต่ละครั้งไม่เหมือนกัน เช่น นำเลขที่บัญชีบุคคลภายนอกแทรกเข้าไปเลย นำบัญชีของสถานศึกษามาสลับ เพื่อให้เงินมีการหมุนวน เบิกซ้ำ และเบิกก่อนกำหนดโดยไม่มีเหตุผล ซึ่งทุกครั้งก็มีการโกงเกิดขึ้น ปัญหาที่ทำให้เกิดการทุจริต คือการทำงานแบบรัดวงจรหลายจุดไม่ทำตามระบบ
ทั้งนี้ในการเสนอข้อสรุปจะให้ รมว.ศึกษาธิการ และ ปลัด ศธ. พิจารณาประเด็นที่ถูกมองข้าม 11 ประเด็น และมีประเด็นที่ควรหาคำตอบ เช่น ปี 2547 สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เคยจ่ายเช็ก เลขที่ 0097627 มาให้ ศธ. เพื่อให้กองทุนฯ 31 ล้านบาท ต้องไปตรวจสอบต่อว่าเงินนี้ถูกนำเข้ามาสมทบกับเงินกองทุนหรือไม่ ถ้าไม่นำเข้าแล้วเงินนี้ถูกนำไปใช้เพื่อการใด ซึ่งเงินนี้อาจนำไปใช้ถูกต้องก็ได้ แต่อยากให้ตรวจสอบเพื่อความโปร่งใส เป็นต้น
ผู้สื่อข่าวถามว่า จากการตรวจสอบข้อมูลพบว่ามีผู้ร่วมกระทำผิดกับนางรจนา สินที อดีตข้าราชการระดับ 8 ซึ่งถูกไล่ออกจากราชการแล้วเพิ่มเติมหรือไม่ นายอรรถพล กล่าวว่า มี และจะเสนอให้ รมว.ศึกษาธิการ พิจารณาลงโทษทางวินัย ประมาณ 10 ราย ส่วนจะเป็นข้าราชการระดับใดบ้างนั้นไม่ขอบอกรายละเอียด ทั้งนี้ แต่ละรายจะมีโทษระดับใดนั้น ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของผู้มีอำนาจ
** อ่านต้นฉบับเต็มได้ที่ หนังสือพิมพ์สยามรัฐ