ขอโทษและรับผิดผู้เดียว ยันไม่ห้ามแต่ขอให้ระมัดระวังการแสดงความคิดเห็น
นายการุณ สกุลประดิษฐ์ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) กล่าวถึงกรณีลงนามในหนังสือสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ที่ ศธ.04006/3397 เมื่อวันที่ 26 พ.ค.ที่ผ่านมา ถึง ผอ.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) เพื่อแจ้งถึงเรื่องการบูรณาการการขับเคลื่อนการบริหารจัดการการศึกษา โดยอ้างถึงคำสั่ง หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 19/2560 เรื่อง การขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการในภูมิภาค ซึ่งในท้ายของหนังสือดังกล่าวปรากฎข้อความว่า “ห้ามมิให้ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาและบุคลากรในสังกัด วิพากษ์และแสดงความคิดเห็นใดๆ เกี่ยวกับการดำเนินการปฏิรูปการศึกษาในภูมิภาค” ปรากฎมีการส่งต่อหนังสือฉบับดังกล่าว และมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในกลุ่มผู้บริหาร สพท.และบุคลากรในเขตพื้นที่ฯ ในวงกว้างนั้น ว่า ตนขอรับผิดในเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ได้โทษใคร แต่โทษตนเองที่ไม่ได้อ่านเนื้อหาข้อความโดยละเอียดจนกระทั่งเกิดความผิดพลาดในการสื่อสารออกไป
เลขาธิการ กพฐ.กล่าวต่อไปว่า ทันทีที่พบข้อผิดพลาด ในวันที่ 27 พ.ค.60 ก็ได้ออกหนังสือฉบับใหม่ ประทับด่วนที่สุด ที่ ศธ.04009/1027 ถึง ผอ.สพท.อีกครั้ง โดยเนื้อหาหลักเหมือนเดิมแต่แก้ไขข้อความว่า
“ขอความร่วมมือ ผอ.สพท. และบุคลากรในสังกัด ได้พิจารณา และพึงระมัดระวังในการแสดงความคิดเห็นในการดำเนินการปฏิรูปการศึกษาในภูมิภาค”
อย่างไรก็ตาม ขอโทษไปยัง ผอ.สพท. และบุคลากรทุกคนฯ ซึ่งเจตนาในการออกหนังสือดังกล่าวเพื่อเน้นย้ำเรื่องของขับเคลื่อนงานในพื้นที่ร่วมกับคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด (กศจ.)ซึ่งมีทั้งงานนโยบายและงานในระดับพื้นที่ ให้การปฏิรูปการศึกษาไปสู่เป้าหมายเดียวกันคือเพื่อเด็กนักเรียน
“ผมขอโทษ ผอ.สพท.และบุคลากรทุกคน และขอผมขอยอมรับผิดแต่เพียงผู้เดียว ไม่ได้โทษใคร เพราะไม่ได้อ่านเนื้อหาหนังสือโดยละเอียด แต่เมื่อได้ทราบว่าเกิดความผิดพลาดก็ได้ออกหนังสือฉบับที่ 2 แก้ไขตามไปทันที ซึ่งยืนยันว่าเจตนาในการออกหนังสือดังกล่าว ในฐานะที่ผมกำกับดูแล สพฐ.เพื่อกำชับเรื่องการทำงาน และให้ระวังการวิจารณ์ ให้ฟังข้อเท็จจริงต่างๆ ซึ่งส่วนใหญ่ทุกคนก็รู้อยู่แล้ว ตัวผมเองก็ยินดีรับฟังทุกความเห็น และน้อมรับ ขอบคุณที่บอกมา สำหรับเรื่องที่เกิดขึ้น นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการ ก็ได้สอบถามข้อเท็จจริงและให้คำแนะนำว่าต่อไปในการดำเนินการอะไรต่อไป ขอให้ทำด้วยความระมัดระวัง”
เลขาธิการ กพฐ. กล่าวและว่า อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าการทำงานในระดับพื้นที่ของ สพท. กศจ. ศึกษาธิการภาค และศึกษาธิการจังหวัด ไม่มีปัญหาแน่นอนเพราะทุกคนมีความตั้งใจทำงาน
ส่วนที่มีกระแสข่าวว่ามีการวิ่งเต้นให้คนของตนเองมาสอบเป็น ผอ.สพท.แทน ผอ.สพท.ที่ไปเป็นศึกษาธิการจังหวัด นั้น
นายการุณ กล่าวว่า ตนยังไม่ได้ยินข่าวนี้ แต่เชื่อว่าหากมีจริง รมว.ศึกษาธิการ ไม่ปล่อยไว้แน่ เพราะขณะนี้ ศธ.กำลังปฏิรูปให้มีคนเก่ง คนดีมาเป็นผู้บริหาร ก็ต้องคัดเลือกคนที่มีคุณสมบัติอย่างเหมาะสมมาบริหารงาน ส่วนการสอบคัดเลือกผอ.สพท.นั้น จะต้องรอให้กระบวนการต่างๆเสร็จสิ้นก่อน จึงจะดำเนินการสอบคัดเลือกซึ่งก็ต้องดำเนินการด้วยความระมัดระวัง
** อ่านต้นฉบับเต็มได้ที่ หนังสือพิมพ์สยามรัฐ