“การุณ” รอคลังไฟเขียวนำดอกเบี้ยกองทุนเยียวยาผู้รับผลกระทบ
นายการุณ สกุลประดิษฐ์ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยผู้เกี่ยวข้องทุจริตกองทุนเสมาพัฒนาชีวิต ซึ่งมีผู้ที่เกี่ยวข้องเป็นข้าราชการ ตั้งแต่ระดับ 8-11 และอยู่ในหลายสังกัด ว่าจากข้อหารือไปยังสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) กรณีผู้มีส่วนเกี่ยวข้องหลายสังกัด หลายคน หลายตำแหน่ง ใครจะเป็นผู้มีอำนาจแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง หรือไม่ร้ายแรง ใครเป็นผู้สั่งยุติเรื่อง กรณีที่มีส่วนเกี่ยวข้องแต่พฤติกรรมไม่ผิดวินัย ซึ่งทาง ก.พ.ได้ตอบมาแล้วว่า ถ้าเกี่ยวข้องกับข้าราชการสังกัดใด ก็ให้ผู้มีอำนาจสั่งบรรจุข้าราชการคนนั้น ๆ เป็นผู้พิจารณา เช่น ข้าราชการระดับ 8-9 สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.) ก็ให้เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(กพฐ.) เป็นผู้มีอำนาจพิจารณาสั่งการ, ระดับ 10-11 ให้ รมว.ศึกษาธิการ เป็นผู้มีอำนาจพิจารณาสั่งการ เป็นต้น ส่วนข้าราชการ ต่างสังกัดระดับ 10-11 เช่น สังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี ก็ให้นายกรัฐมนตรี เป็นผู้มีอำนาจพิจารณาสั่งการ
“ตอนนี้คณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง ได้สรุปและส่งสำนวนทั้งหมดให้ผู้มีอำนาจ สั่งบรรจุพิจารณาแล้ว ซึ่งมีผู้เกี่ยวข้องตั้งแต่ปี 2548จนถึงปัจจุบันตั้งแต่ระดับปลัด ศธ. รองปลัด ศธ. ผอ.กองทุนฯ รองเลขาธิการองค์กรหลักต่างๆ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง และผู้รับโอนเงินที่ปรากฏในสำนวน” นายการุณ กล่าวและว่า การพิจารณาสั่งการลงโทษทางวินัย ขึ้นอยู่กับผู้มีอำนาจพิจารณาสั่งการว่า จะพิจารณาทางวินัยขั้นตอนไหน ซึ่งอาจจะพิจารณาเป็นอย่างอื่นก็ได้ ขึ้นอยู่กับใครมีมูลหรือไม่มีมูล เช่น ประมาทโดยตรง หรือเข้าไปมีส่วนรู้เห็นหรือไม่ เป็นต้น ซึ่งสำนวนทั้งหมดได้ส่งให้ รมว.ศึกษาธิการ พิจารณาแล้ว
ปลัด ศธ. กล่าวต่อไปว่า ส่วนการดำเนินการกับนางรจนา สินที นักวิเคราะห์นโยบายและแผนชำนาญการพิเศษ สำนักส่งเสริมกิจการการศึกษา สำนักงานปลัด ศธ. ทราบว่าสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟองเงิน(ปปง.) ยึดทรัพย์มูลค่าได้ประมาณ 6 ล้านบาท แต่เป็นทรัพย์สินติดจำนองทั้งหมด ทั้งนี้จำนวนเงินกองทุนฯ ที่ถูกโกงไปทั้งสิ้น 77 ล้านบาท ส่วนการเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบ กำลังรอคำตอบจากกระทรวงการคลัง ว่าสามารถนำเงินดอกเบี้ยกองทุนมาจ่ายได้หรือไม่
** อ่านต้นฉบับเต็มได้ที่ หนังสือพิมพ์สยามรัฐ