ม.นเรศวร เป็นพี่เลี้ยง 9 โรงเรียนสังกัด สพฐ.ในจังหวัดพิษณุโลก และอุทัยธานี ภายใต้โครงการพัฒนาคุณภาพการศึกษาและท้องถิ่น กับโรงเรียนนำร่องในเขตภาคเหนือตอนล่าง บูรณาการเทคนิคการสอนประวัติศาสตร์และวิทยาศาสตร์ในแบบชุมชน
ผศ.ดร.วศิน ปัญญาวุธตระกูล ผอ.สถานอารยธรรมศึกษา โขง-สาละวิน มหาวิทยาลัยนเรศวร (มน.) เล่าถึงที่มาของโครงการนี้ว่า มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้มอบหมายให้สถานอารยธรรมศึกษา โขง-สาละวิน เป็นหน่วยงานหลักในการขับเคลื่อนโครงการ เพื่อยกระดับการเรียนการสอนให้ครูและนักเรียนเกิดการสร้างความรู้จากประสบการณ์ ลงมือปฏิบัติและสามารถคิดสร้างสรรค์เองได้ ประกอบด้วย 2 โครงการคือ โครงการการพัฒนาวิธีวิทยาและเทคนิคสอนประวัติศาสตร์ ในระดับมัธยมศึกษา เป็นพลเมืองและจิตสำนึกสาธารณะ และโครงการพัฒนาวิธีวิทยาและเทคนิคสอนประวัติศาสตร์ ในระดับมัธยมศึกษา แบบบูรณาการกับวิทยาศาสตร์
โครงการนี้มีโรงเรียนนำร่อง 9 แห่ง ประกอบด้วยโรงเรียนใน จ.พิษณุโลก ได้แก่ รร.พิณพลราษฎร์ ตั้งตรงจิตร 12, รร.ท่าทองพิทยาคม, รร.เนินมะปรางศึกษา, รร.ชาติตระการวิทยา, รร.นครไทย เข้าร่วมโครงการการพัฒนาวิธีวิทยาและเทคนิคสอนประวัติศาสตร์ในระดับมัธยมศึกษาเป็นพลเมืองและจิตสำนึกสาธารณะ พร้อมด้วยโรงเรียนจาก จ.อุทัยธานี ได้แก่ รร.อุทัยวิทยาคม, รร.บ้านไร่วิทยา, รร.ทัพทันอนุสรณ์ และ รร.หนองฉางวิทยา เข้าร่วมโครงการการพัฒนาวิธีวิทยาและเทคนิคสอนประวัติศาสตร์ในระดับมัธยมศึกษา แบบบูรณาการกับวิทยาศาสตร์
ผศ.ดร.วศิน กล่าวต่อว่า ตั้งแต่ปลายปี 2559 บุคลากรสถานอารยธรรมศึกษา โขง-สาละวินได้ลงพื้นที่ เพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ชุมชนให้แก่ครูและนักเรียนของโรงเรียนทั้ง 9 แห่ง ได้เรียนรู้วิธีคิด วิธีการสืบค้นข้อมูล รู้จักกระบวนการสืบค้น จัดเก็บ สอบถาม และประกอบแผนที่ชุมชน สำหรับการอบรม 2 วันนี้เป็นการนำข้อมูลที่ได้มาพัฒนาวิเคราะห์ชุมชนแบบมีส่วนร่วม ในรูปแบบต้นไม้ชุมชน ตุ๊กตาธุรกิจครอบครัว สรุปความเชื่อมโยงและสิ่งที่ได้เรียนรู้ในประเด็นประวัติศาสตร์ จิตสำนึกสาธารณะ ตลอดจนการนำประวัติศาสตร์มาบูรณาการกับวิทยาศาสตร์ อันจะก่อเกิดแนวทางการพัฒนาเส้นทางและกิจกรรมท่องเที่ยวเพื่อพัฒนาการเป็นเจ้าบ้านที่ดี สู่การเป็นมัคคุเทศก์ท้องถิ่นต่อไป
“ทั้งนี้ ในปีที่ผ่านมา เราประสบความสำเร็จในการจัดโครงการกับโรงเรียนนำร่องคือ รร.พิณพลราษฎร์ ตั้งตรงจิตร 12 ปีนี้จึงขยาบผลต่อยอดกับโรงเรียนอื่น ๆ และจะขยายเครือข่ายไปยังโรงเรียนต่าง ๆ ในเขตภาคเหนือตอนล่างต่อไป”ผศ.ดร.วศิน กล่าว
—————
** อ่านต้นฉบับเต็มได้ที่ หนังสือพิมพ์สยามรัฐ