สถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.)สุวรรณภูมิ จัดโครงการคลินิกเทคโนโลยี อบรมเชิงปฏิบัติการ “การปลูกพืชในชั้นปลูกโดยใช้แสงเทียม” เพื่อส่งเสริมทักษะด้านวิชาชีพให้กับประชาชนและผู้ที่สนใจทั่วไปได้มีการฝึกปฏิบัติและได้เรียนรู้จากการปฏิบัติจริง เพื่อนำไปใช้ประกอบอาชีพสำหรับตนเองและชุมชนและเสริมสร้างรายได้ให้กับครอบครัวและชุมชน
รศ.นภัทร วัจนเทพินทร์ ผอ.สถาบันวิจัยและพัฒนา มทร.สุวรรณภูมิ กล่าวว่า ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อการเจริญเติบโตของพืช คือ 1. น้ำ ปริมาณคุณภาพ PH 2.อากาศ ออกซิเจน อุณหภูมิ ความชื้น การไหลเวียนอากาศ 3. แสง ชั่วโมงแสง คุณภาพแสง ความเข้มแสง สีของแสง 4.ธาตุอาหาร หลัก NPK รอง ca mg fe cu zn b ph ec ซึ่งแสงที่พืชต้องการมากที่สุด เรียกว่า พาร์สเปกตรัม มีความยาวคลื่นแสง 380-770 นาโนเมตร
ผลดีของแสงต่าง ๆ ต่อการเจริญเติบโตของพืช สีม่วง ไม่แน่นอน แต่อาจมีผลมาจากแสงสีน้ำเงินที่ 400 นาโนเมตรอยู่บ้าง สีน้ำเงิน มีความเข้มแสงต่ำๆ จำเป็นในการเพาะเมล็ดและอนุบาลพืช สนับสนุนการเจริญเติบโตของต้นกล้า ลำต้นแข็งแรง
สีเขียวและสีเหลือง ไม่จำเป็น แต่มีส่วนช่วยสังเคราะห์แสงอยู่บ้าง สีส้ม ดีที่สุดสำหรับการสังเคราะห์แสงสูงสุด สีแดงดีที่สุดสำหรับการสังเคราะห์แสงสูงสุด เพิ่มครอโรฟิลด์ ช่วยเร่งช่อดอก ลำต้น ช่วยให้ผลติดมาก
สรุปได้ว่า แสงสีแดงและสีน้ำเงินดีต่อพืชมากที่สุด พาร์และพีพีเอฟดี พาร์ พลังงานแสงที่ช่วยสังเคราะห์ด้วยแสงของพืช เฉพาะช่วงความยาวคลื่นแสง 400-700 นาโนเมตร พีพีเอฟดี
พลังงานจากแสงต่อเวลาต่อตารางเมตรที่พืชนำไปใช้ในการสังเคราะห์ด้วยแสง หน่วยเป็นโมล แหล่งกำเนิดแสงสำหรับพืช โดยใช้หลอดเมทัล ฮาไลด์ และหลอดโซเดียมความดันสูง ในการประกอบเป็นไฟแอล อี ดี และหลอดฟลูออเรสเซนต์ โดยควรให้แสงประดิษฐ์แอล อี ดี วันละ 12-14 ชั่วโมงจะดีที่สุด
ทั้งนี้ ได้มีการปลูกสตอเบอรี่ในโรงเรือนแสงธรรมชาติร่วมกับหลอดเสริมจาก แอล อี ดี ที่เนเธอร์แลนด์ ซึ่งปรากฎว่าให้ผลผลิตมากขึ้น และทำให้รสชาติดีขึ้น แอล อี ดี สีแดงผสมสีน้ำเงินจะช่วยให้ผลผลิตมากขึ้นและลดเวลาเพาะปลูกให้สั้นลง
การศึกษาการเจริญเติบโตของผักกาดหอมภายใต้แสงจาก แอล อี ดี สีขาว แดง น้ำเงิน และแสงจากหลอดฟลูออเรสเซนต์ การศึกษาการเจริญเติมโตของผักกรีนโอ๊คภายใต้แสงจากหลอดฟลูออเรสเซนต์ ผสมกับแสงจากแอล อี ดี สีขาว แดง น้ำเงิน โดยควบคุมเวลาการเปิดปิดแสง 1. ให้แสงสีแดง 8 ชั่วโมงสลับกับแสงสีน้ำเงิน 8 ชั่วโมง ให้ผลลัพธ์ที่ดี 2. ให้แสงสีแดง 1 ชั่วโมงสลับกับแสงสีน้ำเงิน 1 ชั่วโมง รวม 16 ชั่วโมง ให้ผลลัพธ์ที่ดีเช่นกัน
ปลูกผักกรีนโอ๊คด้วยระบบไฮโดรโปนิกส์ภายใต้แสงแอล อี ดี อายุ 35 วัน แสงสีแดงร้อยละ 70 สีน้ำเงินร้อยละ 30 ให้ผลผลิตดีที่สุด จำนวนรากมากที่สุด ความยาวรากสูงที่สุด ให้น้ำหนักมากที่สุด เมื่อให้แสงสีขาวและแสงสีน้ำเงินหลังการเก็บเกี่ยวจะช่วยยืดอายุ ทำให้การเหลืองของใบให้นานกว่าช่วยให้ผลผลิตมีราคาดี ช่วยให้การขนส่งมีประสิทธิภาพดีขึ้น
ผู้ที่สนใจปลูกพืชในชั้นปลูกโดยใช้แสงเทียม สอบถามเพิ่มเติมได้ที่สถาบันวิจัยและพัฒนา มทร.สุวรรณภูมิ 60 หมู่ 3 ต.หันตรา อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา 13000 โทรศัพท์-โทรสาร 035-709 -097
** อ่านต้นฉบับเต็มได้ที่ หนังสือพิมพ์สยามรัฐ