• โรงเรียน ชาวนาคานาอัน เกาหลีใต้ Canaan Farmers’ School (CFS) ที่เคยมีบทบาทในการสร้างชาติเกาหลีใหม่ด้วยหลักคิด และความเชื่อมั่นศรัทธาฯ ที่มีสาระและน่าสนใจมาก
• เวลา มีคุณค่าและความหมายเสมอ และเดินไปอย่างเที่ยงตรง
“เรามีความรู้ เราก็ใช้ความรู้หาเงินได้
เรามีเงิน ก็ใช้เงินไปเรียนรู้ สิ่งที่ไม่รู้ได้
เรามีความรู้ มีเงิน แต่ไม่มีเวลา สิ่งที่มี ก็เปล่าประโยชน์”
@ เป็นคำขวัญที่ใช้กล่าว ในการออกกำลังกายตอนเช้าตรู่ของโรงเรียน ชาวนาคานาอัน เกาหลีใต้ Canaan Farmers’ School (CFS)
มีจุดมุ่งหมายเพื่อสร้างชุมชนต้นแบบของการขจัดความยากจนบนพื้นฐานของการเปลี่ยนแปลงความคิดและเพื่อยกระดับผู้นําที่จะฝึกฝนและดําเนินชีวิตตามความคิดที่เปลี่ยนไปการเคลื่อนไหวของโรงเรียนเกษตรกรคานาอันมีบทบาทสําคัญในการก่อตั้งในปี 1931
โรงเรียนสอนความภาคภูมิใจของชาติให้กับประชาชนเกาหลี กระตุ้นให้พวกเขาทํางานเพื่อขจัดความยากจนผ่านการเกษตร
ต่อมาขบวนการนี้ได้พัฒนาเป็นขบวนการทางสังคมซึ่งครอบคลุมทุกแง่มุมของชีวิตโดยเฉพาะอย่างยิ่งผ่านการฝึกอาชีพภาคปฏิบัติ
นอกจากนี้ ยังได้รับการดัดแปลงให้เป็นแบบอย่างของการศึกษาขบวนการหมู่บ้านใหม่ (Saemaeul Undong) ตอนนี้, สาขาโรงเรียนเกษตรกรคานาอันในต่างประเทศได้รับการจัดตั้งขึ้นทั่วโลก
การศึกษาของโรงเรียนเกษตรกรคานาอัน
มุ่งเน้นไปที่การเปลี่ยนแปลงความคิดทัศนคติและวิถีชีวิตของผู้เข้ารับการฝึกอบรม ในเรื่องนี้การศึกษาดําเนินไปอย่างแข็งแกร่งและต้องการวิถีชีวิตที่มีระเบียบวินัยมากขึ้นของผู้เข้ารับการฝึกอบรม
• ดร.คิมยองกี Kim Yong-ki (1908-1988) ผู้บุกเบิกสร้างและพัฒนาคนเกาหลีให้มีคุณภาพ ผมได้ไปร่วมอบรมกับชาวพลังธรรม สันติอโศกในนามของ พลตรีจำลอง ศรีเมือง ปี 2536 (ค.ศ. 1993)
โดยได้เข้าร่วม “กิจกรรมตามหลักสูตรเข้มข้น” ใน ๕ วัน
ส่วนอีก ๕ วัน ได้ไปดูงานหลายแห่งในเกาหลีใต้ โดยผู้ที่ไปร่วม ต้องออกค่าโดยสารเครื่องบินไป-กลับเอง (ส่วนค่าใช้จ่ายอื่นๆ มีผู้สนับสนุน)
• รางวัลอิลก้า
มูลนิธิ โรงเรียนชาวนาคันนาอัน ได้จัดตั้งรางวัลอิลก้า เพื่อเป็นเกียรติแก่ ดร.คิมยองกี ผู้บุกเบิกและก่อตั้งฯ โดยคัดเลือก บุคคล : ที่เป็นต้นแบบ เสียสละ กล้าหาญ อดทน เพื่อผู้อื่น สังคม ประเทศชาติ…ทั่วโลก…ตามปณิธาน ท่าน ดร.คิมยองกี ผู้ก่อตั้ง
ประเทศไทย ผู้ที่ได้รับ มี ๒ ท่าน คือ
๑.พลตรี จำลอง ศรีเมือง…ได้รับคนแรก ในปี 2534 (ค.ศ. 1991)
๒.สส. ชวน ชูจันทร์ (เข้าอบรม ปี ๒๕๔๓) ได้รับเลือกในปี 2557 ( ค.ศ. 2014 )
• ทางมูลนิธิฯ ยังได้จัดให้ “บุคคลที่สนใจไปอบรมดูงานที่โรงเรียนชาวนาคานาอัน จำนวน ๑๐๐ คน” ทุกปี แต่พลตรีจำลองจะคัดเลือกส่งไปประมาณ ๔๐-๕๐ คน
• โคอิกะ KOICA
สํานักงานความร่วมมือระหว่างประเทศเกาหลี (KOICA) ก่อตั้งขึ้นในฐานะหน่วยงานรัฐบาลเมื่อวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 1991 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพสูงสุดของโครงการช่วยเหลือด้านทุนของเกาหลีสําหรับประเทศกําลังพัฒนาโดยการดําเนินโครงการช่วยเหลือด้านเงินช่วยเหลือและความร่วมมือทางเทคนิคของรัฐบาล KOICA มีเป้าหมายที่จะทําให้โลกดีขึ้นโดยช่วยให้บรรลุเป้าหมายการพัฒนาแห่งสหัสวรรษ (MDGs) และส่งเสริมการพัฒนาที่เท่าเทียมและยั่งยืนในประเทศพันธมิตรของเรา KOICA ยังพยายามที่จะมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในความพยายามระดับโลกเพื่อเพิ่มขีดความสามารถของประเทศและบุคคลในการเอาชนะความยากจนและปรับปรุงคุณภาพชีวิตของพวกเขา
โครงการทุนการศึกษา KOICA
เป็นหนึ่งในโปรแกรมการฝึกอบรมที่มีคุณค่าและสําคัญที่สุดของ KOICA สําหรับประเทศที่มีความร่วมมือกันในฐานะที่เป็นรูปแบบความร่วมมือด้านการพัฒนาที่มีมูลค่าสูงจึงมีจุดมุ่งหมายเพื่อมีส่วนร่วมในความต้องการในการพัฒนาระยะยาวของประเทศพันธมิตรของ KOICA เพื่อส่งเสริมการเติบโตและความมั่นคง
โครงการนี้เริ่มต้นในปี 1997 ในฐานะโครงการทุนการศึกษาขนาดเล็ก เพื่อแบ่งปันประสบการณ์การพัฒนาเศรษฐกิจที่เป็นเอกลักษณ์ของเกาหลีกับประเทศกําลังพัฒนา ขณะนี้ได้รับการปรับปรุงในแง่ของปริมาณความช่วยเหลือ รวมถึงคุณภาพโดยการสร้างขีดความสามารถให้กับประเทศกําลังพัฒนาและสร้างสะพานเชื่อมเพื่อร่วมมือกับพวกเขามีให้สําหรับผู้สมัครที่ต้องการศึกษาต่อในเกาหลี ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐจากประเทศพันธมิตรของ KOICA ที่มีสิทธิ์สมัครโครงการทุนการศึกษา KOICA
โปรแกรมนี้เปิดโอกาสให้ผู้คนจากประเทศกําลังพัฒนาได้ศึกษาต่อระดับสูงกว่าปริญญาตรีเต็มเวลาในเกาหลีและสาขาวิชามีเป้าหมายเพื่อตอบสนองความต้องการด้านการพัฒนาที่ตกลงกันไว้ของประเทศคู่ค้า เช่น การพัฒนาระหว่างประเทศสตรีและการพัฒนานโยบายสาธารณะวิทยาศาสตร์การประมงการเกษตรและการพัฒนาชนบทเป็นต้นซึ่งสอดคล้องกับโครงการช่วยเหลือทวิภาคีของเกาหลี
เพื่อให้ KOICA ดําเนินโครงการได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล KOICA ได้ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยที่ยอดเยี่ยมและมีความเชี่ยวชาญในเกาหลีและพยายามอย่างมากที่จะให้โอกาสในการศึกษาต่อในเกาหลี ด้วยทักษะและความรู้ในด้านการพัฒนา KOICA จะเปิดโอกาสให้ผู้คนจากประเทศกําลังพัฒนามีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศของตนโดยใช้โปรแกรมนี้
• โรงเรียนชาวนาคานาอัน และมูลนิธิ
คานาอัน เป็นดินแดนอันศักดิ์สิทธิ์ ที่พระผู้เป็นเจ้า ได้สัญญาไว้เป็นที่อยู่อาศัยของประชาชนของพระองค์ และถูกกล่าวถึงในพระคัมภีร์ไบเบิลดินแดน “คานาอัน” เป็นสถานที่พระผู้เป็นเจ้า จะทดสอบ “บุคคลที่เชื่อมั่นและศรัทธาในพระองค์เพราะ มิใช่เป็นดินแดนที่อุดมสมบูรณ์ แต่เป็นดินแดนที่เต็มไปด้วยความยากลำบาก ที่ต้องถูกเปลี่ยนแปลงให้อุดมสมบูรณ์ ด้วยน้ำมือของผู้ที่ พระผู้เป็นเจ้ามอบให้ เพื่อทำการทดสอบ ซึ่ง ดร.คิมยองกี ได้ลงมือทำมาแล้ว ด้วยความทุ่มเท เสียสละกำลังกายใจ ทุนฯด้วยความเชื่อมั่นในพระผู้เป็นเจ้า ตัวเอง และชาวนาเกาหลี โดยได้ไป สถานที่และดินแดนที่มีความยากลำบาก ที่พื้นที่และภูมิประเทศ เป็นเนินเขาและแห้งแล้งฯแต่ได้ใช้ความมุมานะ ความเพียรพยายามอย่างหนัก ฟันฝ่าอุปสรรค แปรเปลี่ยน ให้เป็นพื้นที่อุดมสมบูรณ์มาได้
• ฟาร์มคานาอัน : ที่เป็นเอกลักษณ์ของเกาหลี
โดยสรุป ดร.คิมยองกี ได้ไปบุกเบิกดินแดนต่างๆ ในเกาหลีมาแล้ว ดังนี้ คือ
๑.ชุมชนแห่งแรก-Bongan Ideal Village (1931-1945)
๒.ชุมชนแห่งที่สอง-Samgaksan Farm (1946-1949)
๓.ชุมชนแห่งที่สาม-Yongin Eden Village (1952-1954)
๔.ชุมชนแห่งที่สี่-Hwangsan Canaan Farm (since 1954) และเป็นโรงเรียนชาวนาคันนาอัน แห่งแรก Canaan Farmers School
ชื่อ “คานาอัน” นี้สะท้อนถึงความฝันของเขา ในการเปลี่ยนถิ่นทุรกันดารให้กลายเป็นดินที่อุดมสมบูรณ์ที่ไหลด้วยนมและน้ำผึ้งคล้ายกับดินแดนคานาอันที่พระผู้เป็นเจ้า ทรงสัญญาไว้ในพระคัมภีร์ไบเบิลศักดิ์สิทธิ์
แล้วความคิดที่จะจัดตั้งเป็นโรงเรียนสอนชาวนา ก็เกิดขึ้น เมื่อผู้นำหมู่บ้าน ตั้งคำถามว่า “แล้วต่อไป จะไปทำต่อที่ไหน และต้องไปทำอีกกี่แห่ง…ท่านจะช่วยตั้งเป็นโรงเรียนสอนพวกเราชาวนาได้ไหม” ตั้งแต่ปี 1970 เป็นต้นมา มีผู้สนใจเพิ่มหลากหลาย ทั้งชาวนา ทหาร พนักงานห้างร้าน นักเรียนนักศึกษา
๕. ชุมชนแห่งที่ห้า Sillim Canaan Farm (ตั้งแต่ 1973) และโรงเรียนชาวนาคันนาอัน แห่งที่สอง
• ด้วยคุณค่าของความขยันหมั่นเพียร การพึ่งพาตนเองและความร่วมมือ
และความมุ่งมั่นของประธานาธิบดี ปาร์ค ที่จะเร่งชีวิตที่ทันสมัยในชนบทและด้วยต้องการเป็นเจ้าของความอุดมสมบูรณ์และชีวิตที่เจริญรุ่งเรืองของเกษตรกร ขบวนการหมู่บ้านใหม่ช่วยให้ตระหนักถึงประวัติการณ์ที่ไม่เคยมีมาก่อน การเติบโตทางเศรษฐกิจซึ่งเปลี่ยนประเทศที่ยากจนที่สุดในโลกให้เป็นหนึ่งในประเทศเศรษฐกิจอุตสาหกรรมใหม่ ในเวลาเพียงสิบปีทั้งหมดนี้ คือ ผลงานและความสำเร็จร่วมของ ดร.คิมยงกี และโรงเรียนชาวนาคานาอันและเป็นแหล่งกําเนิดของขบวนการหมู่บ้านใหม่ที่ประสบความสําเร็จ
• โรงเรียนคานาอัน ตั้งอยู่ที่เมืองวอนจู ห่างจากสนามบินประมาณ 170 กม. หรือนั่งรถประมาณ 3 ชม. เพราะเส้นทางเป็นภูเขา
• การศึกษาของโรงเรียนเกษตรกรคานาอัน มุ่งเน้นไปที่การเปลี่ยนแปลงความคิดทัศนคติและวิถีชีวิตของผู้เข้ารับการฝึกอบรม การศึกษาดําเนินไปอย่างเข้มข้น และต้องการวิถีชีวิตที่มีระเบียบวินัยมาก ของผู้เข้ารับการฝึกอบรม
• Kim Yong-ki (1908-1988) ชาวเกาหลีใต้ที่เป็นคริสเตียน มีความเข้าใจถึงความจําเป็น (และความสำคัญ)ในแนวความคิดโดยยึดพระคัมภีร์ไบเบิลเกี่ยวกับการเกษตร
ในปี 1962 คิมก่อตั้ง CFS ในกวางจูคยองกี เกาหลีใต้เพื่อฝึกอบรมชาวเกาหลี โดยยึดหลักการในพระคัมภีร์ไบเบิลเกี่ยวกับการดูแลที่ดินและชีวิต
ภารกิจในชีวิตของเขา คือ การถ่ายทอดวิสัยทัศน์สําหรับการเปลี่ยนแปลงทางจิตวิญญาณและเศรษฐกิจของเกาหลี เขาเป็นผู้บุกเบิกในการเปลี่ยนเกษตรกรที่ยากจนและพื้นที่รกร้างให้กลายเป็นชีวิตที่เฟื่องฟู และดินแดนที่อุดมสมบูรณ์
อาจกล่าวได้ว่า คิม : เข้าใจว่าพระเจ้าทรงเป็นชาวนาคนแรก (ปฐมกาล 1 : 8)
ดังนั้นการเกษตร จึงเป็นการเรียนรู้จาก พระเจ้า เขามุ่งมั่นที่จะไม่เพียงแต่เรียกคืนที่ดิน (ให้กับชาวนา) แต่เรียกคืนอาชีพ (ให้กับชาวนาและผู้ทำงาน) และประเทศชาติ (ให้กับประชาชน) เช่นกัน