ดร.ชัยยศ อิ่มสุวรรณ์ รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการคุรุสภา เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการคุรุสภา ซึ่งมี พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ เป็นประธานเมื่อเร็ว ๆ นี้ ได้เห็นชอบขั้นตอนการรับรองปริญญา และประกาศนียบัตรทางการศึกษาของคุรุสภา ซึ่งคุรุสภา กำลังดำเนินการเพื่อแก้ไขข้อบังคับคุรุสภา โดยมีสาระสำคัญคือจากเดิมที่เมื่อสภามหาวิทยาลัยอนุมัติหลักสูตรแล้ว จึงส่งมาให้คุรุสภารับรอง ซึ่งปัญหาที่ผ่านมา คือมหาวิทยาลัยไม่กระตือรือร้นที่จะส่งมาให้คุรุสภารับรอง แต่ก็มีการเปิดสอนไปแล้ว
ขณะที่หลักเกณฑ์ใหม่จะต้องส่งมาให้คุรุสภาตรวจสอบก่อนที่สภามหาวิทยาลัย จะอนุมัติหลักสูตร เป็นเวลาอย่างน้อย 60 วัน โดยคุรุสภาจะตรวจสอบว่าหลักสูตรนั้น ๆ สอดคล้องกับมาตรฐานวิชาชีพหรือไม่ มีการฝึกประสบการณ์ ปฏิบัติการสอนหรือไม่ มีอาจารย์เพียงพอตามหลักเกณฑ์หรือไม่ เป็นต้น
“ที่ผ่านมามหาวิทยาลัย มักเปิดสอนหลักสูตรก่อนที่จะส่งมาให้คุรุสภารับรอง ซึ่งคุรุสภาก็ต้องไปไล่ตรวจสอบว่า จัดการเรียนการสอนตรงตามหลักสูตรหรือไม่ ถ้าไม่ตรงก็ต้องไล่แก้ไปเรื่อย ๆ ซึ่งวันนี้ก็คงมีหลายหลักสูตรที่เปิดไปแล้ว แต่ไม่ส่งให้คุรุสภารับรอง ซึ่งคงต้องเร่งดำเนินการให้ถูกต้องก่อนที่นักศึกษาจะเรียนจบ แต่หากเป็นกรณีที่หลักสูตรกำลังจะเปิดใหม่ จะต้องเข้าสู่กระบวนการที่ถูกต้อง หากยังฝืน ไม่ทำให้ถูกต้องคงหนีไม่พ้นต้องใช้อำนาจมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ. 2557 เข้าไปดูแล”
ดร.ชัยยศ กล่าวและว่า เหตุผลที่มหาวิทยาลัยเร่งเปิดหลักสูตรภาคพิเศษโดยไม่เสนอให้สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) รับทราบ และไม่ส่งมาให้คุรุสภารับรองก่อน ก็มักอ้างว่าเป็นสาขาขาดแคลน ซึ่งถือจุดอ่อนของเรื่องนี้ เพราะยังไม่มีการวางแผนการผลิตบัณฑิตครูที่ชัดเจน จะมีก็แต่โครงการผลิตครูเพื่อพัฒนาท้องถิ่น (พ.ศ.2559-2572) ซึ่งเป็นการผลิตแบบระบบปิด และมีการล็อคอัตราในอนาคตไว้ชัดเจน
** อ่านต้นฉบับเต็มได้ที่ หนังสือพิมพ์สยามรัฐ