เป็นอีกก้าวไกลของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลของเมืองไทย ที่ไม่เพียงปั้นบัณฑิตเพื่อพัฒนาประเทศไทย แต่ยังเดินหน้าพัฒนาเพิ่มมูลค่าของสมุนไพรไทย
ด้วยโครงการวิจัยตอบโจทย์แผนแม่บทแห่งชาติ ว่าด้วยการพัฒนาสมุนไพรไทย ฉบับที่ 1 พ.ศ.2560-2564 และยุทธศาสตร์จังหวัดว่าด้วยเมืองสมุนไพร ของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตสกลนคร
ดร.นำพน พิพัฒน์ไพบูลย์ อาจารย์ประจำสาขาวิศวกรรมเครื่องกล คณะอุตสาหกรรมและเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตสกลนคร กล่าวว่า ปีที่ผ่านมา มทร.อีสาน วข.สกลนคร ได้ตั้งโรงงานต้นแบบเพื่อการกลั่นน้ำมันหอมระเหยเชิงพาณิชย์ โดยสนับสนุนงบฯวิจัยประจำปี 61 จากสำนักงานพัฒนาการวิจัยเกษตร (องค์การมหาชน) หรือ สวก. ในกลุ่มสมุนไพรไทย อาหารเสริมและสปา กรอบการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติที่มีศักยภาพเป็นเครื่องสำอางหรือส่วนประกอบของเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์สปา
ทีมนักวิจัยสาขาวิศวกรรมเครื่องกล คณะอุตสาหกรรมและเทคโนโลยี ได้ร่วมมือร่วมใจกันดำเนินโครงการวิจัยมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ออกแบบเครื่องกลั่น ระบบกลั่น ทดสอบประสิทธิภาพความปลอดภัย และได้มาตรฐาน เรื่อยมาจนปัจจุบันกลายเป็นโรงงานต้นแบบที่สามารถกลั่นน้ำมันหอมระเหยจากสมุนไพรไทยได้หลากหลายชนิด
อาทิ ตะไคร้แกง ตะไคร้หอม ไพล ข่า ขมิ้นชัน ว่านสาวหลง เป็นต้น และเน้นวัตถุดิบที่ปลูกในพื้นที่ ชุมชนจ.สกลนคร และใกล้เคียง เพื่อส่งเสริมให้ชาวบ้านมีรายได้จากการขายพืชสมุนไพร และยังสามารถนำน้ำมันหอมระเหยไปต่อยอดเป็นสินค้าชุมชนและของจ.สกลนครได้อีกช่องทาง
ดร.นำพนกล่าวว่า ปัจจุบันน้ำมันหอมระเหยไทยมีความต้องการในตลาดจำนวนมาก เนื่องจากมีกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์ กอปรกับมีคุณสมบัติทางยาที่โดดเด่นอย่างมาก โดยมีการผลิตยาเพื่อรักษาโรคต่างๆ เนื่องจากน้ำมันหอมระเหยมีสารประกอบที่มีกลไกออกฤทธิ์ที่มีผลต่อระบบต่างๆ ของร่างกาย และสามารถบรรเทาอาการป่วยบางชนิดได้ เช่น มีไข้ วิงเวียน คลื่นไส้อาเจียน ฯลฯ
น้ำมันหอมระเหยจึงถูกนำมาใช้ในการรักษาโดยแพทย์แผนไทยที่มีการปรับปรุงและพัฒนาให้ได้มาตรฐานระดับสากล และกำลังเป็นที่นิยมนำไปใช้งานในด้านพาณิชย์ เช่น นวดสปา นวดแผนไทย ส่วนผสมเครื่องสำอาง สบู่ ยาสระผม ธูปหอม ครีมนวด น้ำมันนวด น้ำหอม ผลิตภัณฑ์ไล่แมลงต่างๆ และผลิตภัณฑ์อโรมา เป็นต้น โดยน้ำมันหอมระเหยบริสุทธิ์ที่ได้จากการกลั่นแยกจะมีกลิ่นหอมและติดทนกว่าน้ำมันหอมระเหยที่ผสมจากสารเคมีเลียนแบบธรรมชาติ
อนาคตของน้ำมันหอมระเหยจึงเป็นเป้าหมายที่ มทร.อีสาน วิทยาเขตสกลนคร จะเดินหน้าขับเคลื่อนและดำเนินกิจการโรงงานต้นแบบเพื่อกลั่นน้ำมันหอมระเหยเชิงพาณิชย์แห่งแรกในภาคอีสาน ซึ่งแต่เดิมหากมีวัตถุดิบ คือ ตะไคร้หอม 100 กิโลกรัม สามารถนำมาผ่านขั้นตอนการผลิตแล้วได้น้ำมันหอมระเหย 180-250 มิลลิลิตร เท่านั้น
แต่โรงงานต้นแบบของ มทร.อีสาน วิทยาเขตสกลนคร มีเครื่องกลั่นน้ำมันหอมระเหยที่มีขนาดใหญ่ความจุถัง 500 ลิตร ถึง 2 เครื่อง จะได้น้ำมันหอมระเหยถึง 500 มิลลิลิตร (ต่อวัน) จากวัตถุดิบ 200 กิโลกรัม และยังมีระบบการกลั่นและระบบสนับสนุนต่างๆ ที่ได้พัฒนาจากทีมนักวิจัยมาเป็นอย่างดี จึงสามารถกลั่นน้ำมันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ได้น้ำมันหอมระเหยบริสุทธิ์ 100% ที่มีคุณภาพดี มีปริมาณเพียงพอต่อการนำไปใช้งานในกิจกรรมต่างๆ โดยเริ่มทำการตลาดผ่านช่องทางการขายออนไลน์
จากการค้นคว้าในห้องวิจัยหรือแล็ปขนาดเล็กๆ นำไปสู่การสนับสนุนงานวิจัยจากสำนักงานพัฒนาการวิจัยเกษตร (องค์การมหาชน) หรือ สวก.
วันนี้ มทร.อีสาน วิทยาเขตสกลนคร ได้ต่อยอดงานวิจัยให้กลายเป็นโรงงานต้นแบบกลั่นแยกน้ำมันหอมระเหยบริสุทธิ์ 100% แห่งแรกในภาคอีสาน และยังเป็นแหล่งเรียนรู้และห้องวิจัยของนักศึกษา อาจารย์ มทร.อีสาน สถานศึกษาในชุมชนและสถานศึกษาในจังหวัดใกล้เคียง รวมทั้งยังเปิดให้บุคคลทั่วไปได้เข้าศึกษาดูงานอีกด้วย ติดต่อได้ที่ 042-772-158
** อ่านต้นฉบับเต็มได้ที่ หนังสือพิมพ์สยามรัฐ