ผอ.กองการศึกษาองค์การบริหารส่วนตำบลนาสนุ่น อ.ศรีเทพ จ.เพชรบูรณ์ แอบทุจริตเงินศูนย์เด็กเล็ก 7 แห่งจนเงินหาย 2 ล้านเศษ เรื่องแดงเพราะมีการสั่งเครื่องเล่นเด็กรายหัวเป็นยอดเงิน 3 แสนกว่า แต่ ผอ.กองการศึกษาอ้างไม่มีเงินให้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้อำนวยการกองการศึกษาขององค์การบริหารส่วนตำบลนาสนุ่น อำเภอศรีเทพ ทุจริตแอบเบิกเงินศูนย์เด็กเล็กจำนวน 7 แห่งเข้ากระเป๋า จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบมียอดเงินหายจากสมุดบัญชีธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรทั้ง 7 เล่มบัญชี รวมยอดเงินกว่า 2 ล้านบาทเศษ ส่วนผู้ที่ทำการทุจริตเงินของศูนย์เด็กเล็กรายนี้ถูกเปิดเผยชื่อในเวลาต่อมาคือ นางสาวภัทราพร ดวงตานนท์ อายุ 44 ปี ตำแหน่งผู้อำนวยการกองการศึกษาสังกัด อบต.นาสนุ่น ซึ่งเจ้าตัวมีการปลอมเอกสารแอบเบิกเงินของศูนย์เด็กเล็กทั้ง 7 แห่งได้แก่ 1.ศูนย์เด็กเล็กนาสนุ่น 2.ศูนย์เด็กเล็กหนองบัว 3.ศูนย์เด็กเล็กเนินถาวร 4.ศูนย์เด็กเล็กกุดตาแร้ว 5.ศูนย์เด็กเล็กจัดสรร 6.ศูนย์เด็กเล็กนาน้ำโครมและ 7.ศูนย์เด็กเล็กโคกตะขบ โดยเอกสารการเบิกเงินที่ทางธนาคารนำมามอบให้กับทาง อบต.นาสนุ่น พบมีการแอบทำมาตั้งแต่ช่วงเดือนมกราคมถึงเดือนกรกฎาคม ยอดเงินที่หายรวมแล้ว 2ล้าน 3 แสนบาทเศษ ทั้งที่การเบิกเงินออกจากบัญชีธนาคารจะต้องมีลายเซ็นการเบิกทั้งหมด 3 คน คือ มีครูของแต่ละศูนย์จำนวน 2 คน และผอ.กองการศึกษา 1 คนเซ็นร่วมกันถึงจะทำการเบิกเงินได้
เรื่องมาแดงตอนที่ร้านค้านำเครื่องเล่นของศูนย์เด็กเล็กมาส่ง ซึ่งเด็กแต่ละคนที่มาเรียนในศูนย์ฯ จะมีเงินรายหัว 1,700 บาทต่อคนในการซื้ออุปกรณ์เครื่องเล่น รวมเด็กทั้ง 7 ศูนย์เด็กเล็กมีจำนวน 208 คน รวมยอดเงินสินค้าที่ต้องเบิกจ่าย 353,600 บาท โดยทางร้านขอเบิกเงินแต่ทางกองการศึกษากลับตอบว่าไม่มีเงินจ่าย ทั้งที่ศูนย์เด็กเล็กแต่ละแห่งมีเงินสะสมอยู่แล้ว ทาง ผอ.กองคลังและหัวหน้าสำนักปลัดจึงทำการตรวจสอบจนพบมีการปลอมเอกสารเพื่อเบิกถอนเงินออกไปใช้ส่วนตัว โดยมีการทยอยเบิกเงินตั้งแต่หลักพันไปจนถึงยอดหลักหมื่น มีการเริ่มทุจริตมาตั้งแต่ช่วงเดือนมกราคมจนถึงเดือนกรกฎาคม 2564 จนยอดเงินที่ถูกทุจริตรวมทะลุ 2 ล้านกว่าบาท ขณะที่ตัวนายกองค์การบริหารส่วนตำบลนาสนุ่นเผยว่าจากการสนทนาผ่านโทรศัพท์มือถือกับ นางสาวภัทราพร ดวงตานนท์ ผอ.กองการศึกษา ได้ยอมรับกับตนเองว่าเป็นคนลงมือปลอมแปลงเอกสารขึ้นมาเองและเอาเงินไปใช้หมด โดยมีการเบิกทีละหลักพัน หลักหมื่น หลักแสน โดยเรื่องนี้ไม่มีใครร่วมขบวนการ
ส่วนเรื่องการตรวจสอบทางธนาคารตอนนี้มีหลักฐานทั้งหมดแล้ว ขณะที่การสนทนากับ ผอ.กองการศึกษาทางฝ่ายองค์การบริหารส่วนตำบลได้มีการบันทึกเสียงในการสนทนาเพื่อเอาไว้เป็นหลักฐานในการแจ้งความทั้งหมด ซึ่งเรื่องนี้ทางองค์การบริหารส่วนตำบลนาสนุ่นจะได้ทำการตรวจสอบว่าเรื่องการทุจริตแอบเบิกงานศูนย์เด็กเล็กไปใช้ มีใครที่มีส่วนรู้เห็นหรือมีส่วนเกี่ยวข้องบ้าง ขณะที่ผลทางด้านคดีตัวนายกได้ทำหนังสือมอบอำนาจให้ ผอ.กองคลัง ไปดำเนินการแจ้งความเอาผิดกับ นางสาวภัทราพร เป็นที่เรียบร้อยแล้วที่ สภ.ศรีเทพ
จากการสอบถามนายอภิสิทธิ์ คุ้มสิงสัน นายก อบต.นาสนุ่น กล่าวว่าวันนี้ตอนแรกตั้งใจเดินทางมาประชุมที่ที่ว่าการอำเภอศรีเทพ แต่ด้วยทาง ผอ.กองคลัง ได้โทรไปว่าให้ตนแวะเข้ามาที่สถานีตำรวจศรีเทพเพื่อที่จะมาแจ้งความเกี่ยวกับเรื่องการทุจริตของ ผอ.กองการศึกษา เพราะว่าได้มีการนำเงินที่เอาไว้ใช้จ่ายของศูนย์เด็กเล็กทั้งหมด 7 ศูนย์ออกมาใช้ โดยทั้งนี้เรื่องนี้ทั้งตนเองและ ผอ.กองคลังนั้นไม่ทราบมาก่อนซึ่งยอดคร่าวๆ ประมาณ 2 ล้านกว่าบาท โดยเมื่อเช้านี้ทาง ผอ.กองคลังได้โทรไปคุยและนัดมาอบต.นาสนุ่น แต่ว่าผอ.กองการศึกษานั้นไม่ยอมเดินทางมา ซึ่งตอนที่โทรไปได้ยื่นคำขาดว่าให้เดินทางมาคุยซึ่งให้เวลาถึงเที่ยงวันแต่ก็ไม่ได้รับการยืนยันหรือตอบกลับอะไร ในส่วนของยอดเงินที่หายไปนี้เกิดจากการปลอมลายเซ็นซึ่งทางตนนั้นไม่ทราบเรื่องที่แน่ชัด ซึ่งได้ย้อนกลับไปตรวจสอบแล้วกลับพบว่าไม่มีการเบิกจ่ายเช็คเรื่องอะไร และเหตุที่เรื่องนี้เกิดแดงขึ้นมาเนื่องจากทาง ผอ.กองคลังจะเบิกเงินเพื่อจ่ายค่าวัสดุแต่กลับพบว่าเงินนั้นไม่มีแล้ว
ซึ่ง ผอ.กองการศึกษานั้นได้ยืนยันมาว่าได้ทุจริตเงินดังกล่าวไปจริง แต่ครูท่านอื่นไม่เกี่ยวข้อง ตนสงสัยว่าถ้าการเงินไม่มีคนเซ็นรับครบ 3 คนนั้นจะเบิกเงินจากธนาคารมาได้อย่างไร เพราะปกติการเบิกเงินต้องเบิก 3 คนแต่ทาง ผอ.กองการศึกษานั้นก็ยังยืนยันว่าเรื่องนี้ลงมือทำเองคนอื่นไม่เกี่ยว