“หมอธี”ลั่นดำเนินการถึงที่สุด ด้าน ภตช.ยื่นหนังสือถึง “เสมา1” จี้ดำเนินคดีแพ่-อาญากับบริษัทคู่สัญญา หลังพบบางบริษัทได้สัญญาติดตั้งถึง 4 พันจุด ส่งมอบงานไม่ครบ อาจจงใจฮั้ว!
วันที่ 8 มี.ค.60 ดร.กมล รอดคล้าย เลขาธิการสภาการศึกษา(กกศ.) ในฐานะโฆษกกระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) เปิดเผยว่าในการประชุมองค์กรหลัก ศธ.ที่มี นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการ เป็นประธาน ได้เน้นย้ำให้มีการตรวจสอบการจัดตั้งระบบกล้องวงจรปิด ในโครงการ Safe Zone School (CCTV) 12 เขตพื้นที่การศึกษาทั้งเขตประถมศึกษาและมัธยมศึกษาในจังหวัดชายแดนภาคใต้ รวม 1,104 แห่ง ซึ่งดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2557 งบฯ 577 ล้านบาท
โดยได้รับรายงานว่าจากการตรวจสอบของหลายหน่วยงานพบว่า กล้อง CCTV จำนวนหนึ่งไม่สามารถใช้งานได้ จึงขอให้ สพฐ.รายงานให้ที่ประชุมทราบ ทั้งนี้ ดร.ชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ ปลัด ศธ. ชี้แจงว่า สพฐ.อยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูลเสนอให้ที่ประชุมทราบ อย่างไรก็ตาม รมว.ศึกษาธิการ เน้นย้ำให้ดำเนินการเรื่องนี้ให้ถึงที่สุด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แผนดำเนินการเดิมจะมีการติดตั้งกล้อง CCTV ตามขนาดของโรงเรียน (รร.) คือ รร.ขนาดเล็ก 8 ตัว รร.ขนาดกลาง 16 ตัว และรร.ขนาดใหญ่ 28 ตัว แต่หลังจากมีการร้องเรียน เรื่องการกำหนดสเปก และการฮั้วประมูลเอื้อบริษัทใดบริษัทหนึ่ง โครงการจึงถูกชะลอ ทำให้งบฯ ส่วนหนึ่งถูกปรับไปดำเนินการเรื่องอื่นจนเหลืองบฯ เพื่อติดตั้งกล้อง CCTV จำนวน 405 ล้านบาท โดยลดจำนวนกล้องเหลือเฉลี่ยจุดละ6ตัว รวมทั้งสิ้น6,624ตัว ซึ่งปัญหาขณะนี้คือ กล้องทั้งหมดไม่สามารถเชื่อมต่อ ไปยังห้องควบคุมกลางของหน่วยงานความมั่นคง ทหาร ตำรวจ และ ผอ.เขตพื้นที่ฯ พร้อมกันได้ ซึ่งไม่สามารถป้องกันเหตุล่วงหน้าได้ ดังนั้นหากเป็นเพียงการติดตั้งกล้องระบบพื้นฐานเช่นนี้ เมื่อเกิดเหตุแล้วค่อยไปย้อนเทปบันทึกภาพก็ไม่จำเป็นต้องใช้งบฯ มากขนาดนี้
ด้านนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าคณะทำงานตรวจสอบการทุจริตการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ และ เลขาธิการคณะกรรมการเครือข่ายต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่นของชาติ (ภตช.) กล่าวว่า จากการลงตรวจสอบในพื้นที่ ทาง ภตช.ได้ตั้งข้อสังเกต และยื่นหนังสือให้ รมว.ศึกษาธิการ ตรวจสอบการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการเสนอราคาต่อหน่วยงานภาครัฐ พ.ศ.2542 กับบริษัทคู่สัญญาทั้ง 12 เขต และดำเนินคดีทางแพ่งและอาญา กับบริษัทที่ส่งมอบงานไม่ครบหรืออาจจงใจฮั้วประมูล เพราะมีบางบริษัทได้รับการทำสัญญาติดตั้งกล้อง CCTV ถึง 4,794 จุด
** อ่านต้นฉบับเต็มได้ที่ หนังสือพิมพ์สยามรัฐ