เขียนวันที่
วันอังคาร ที่ 17 มกราคม 2566 เวลา 22:04 น.
อว.จี้ทุกมหาวิทยาลัยเร่งตรวจสอบ อ.ในสังกัด ขีดเส้นรายงานผล 15 ก.พ.นี้ ด้าน ‘เอนก’ ยันไม่เกี่ยวข้องอดีต อาจารย์ ม.เอกชนเอี่ยวปมซื้อผลงานวิจัย
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 17 ม.ค. 2566 ศ.(พิเศษ) ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) กล่าวถึงกรณีที่มีข่าวว่ามี “อดีตทีมงาน รมต.เอนก” เข้าไปเกี่ยวข้องกับการซื้อขายงานวิจัยและบทความวิชาการ ตนขอชี้แจงว่าบุคคลที่ถูกกล่าวอ้างนั้นไม่เคยเป็นทีมงานของตนแต่อย่างใด เป็นอาจารย์คณะรัฐศาสตร์ ม.รังสิต ในสมัยที่ตนเป็นอธิการบดีวิทยาลัยรัฐกิจ ซึ่งเวลานั้นตนและผู้บริหารก็สงสัยในพฤติกรรมของบุคคลดังกล่าวที่ส่อถึงความไม่ตรงไปตรงมาทางวิชาการ และได้เฝ้าระวังมาตลอด และ ม.รังสิต ขณะนั้นก็ได้ดำเนินการสอบสวนบุคคลดังกล่าวด้วย
“ขอยืนยันว่าที่ผ่านมาตนให้ความสำคัญกับการจัดการการผิดจริยธรรมและเอาเรื่องพวกทุจริตทางวิชาการนี้มาตั้งแต่เป็นผู้บริหารที่ ม.รังสิต และเมื่อเป็น รมว.อว. ก็จัดการกับเรื่องนี้อย่างชัดเจน ต่อเนื่อง และในครั้งนี้ก็เช่นกันที่ได้มอบหมายให้ ศ.ดร.นพ.สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ปลัดกระทรวง อว. และคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) ดำเนินการจัดการตรวจสอบ ติดตามและลงโทษผู้กระทำผิดอย่างรวดเร็ว รวมถึงหาแนวทางป้องกันในอนาคต” ศ.(พิเศษ) ดร.เอนก กล่าว
ขณะเดียวกัน ทางด้าน กกอ. ได้มีการจัดประชุมที่สำนักงานปลัดกระทรวง อว. (สป.อว.) เพื่อพิจารณามาตรการต่างๆ ในประเด็นที่เป็นข่าวเรื่องซื้อผลงานวิจัย โดยหลังการประชุม ศ.ดร.ศุภชัย ปทุมนากุล รองปลัดกระทรวง อว. ในฐานะเลขานุการ กกอ. เปิดเผยว่า กกอ. มีมติสำคัญ 4 เรื่องด้วยกัน คือ
-
ให้ สปอว.แจ้งให้ มหาวิทยาลัยทุกแห่ง ทำการตรวจสอบบุคลากรในสังกัด หากพบว่ามีข้อสังเกตที่จะนำไปสู่ความผิดจริยธรรมดังกล่าว ให้ทำการตรวจสอบอย่างยุติธรรมและรวดเร็ว และขอให้รายงานการดำเนินการแก่ สป.อว. ในครั้งแรก ภายในวันที่ 15 ก.พ. นี้
-
หากเป็นที่แน่ชัดว่า บุคลากรในสังกัดทำผิดจริยธรรมดังกล่าว ให้ดำเนินการลงโทษตามระเบียบของมหาวิทยาลัยอย่างเข้มงวด และแจ้งให้ สป.อว. ทราบ เพื่อให้ สป.อว. ดำเนินการตามมาตรา 70 และ 77 แห่ง พ.ร.บ. อุดมศึกษา พ.ศ.2562 ที่ระบุว่า “ห้ามมิให้ผู้ใด จ้าง วาน ใช้ให้ผู้อื่นทำผลงานทางวิชาการเพื่อไปใช้ในการเสนอเป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาในหลักสูตรการศึกษาระดับอุดมศึกษาหรือเพื่อใช้ในการทำผลงาน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการขอตำแหน่งทางวิชาการ หรือเสนอขอปรับปรุงการกำหนดตำแหน่ง การเลื่อนตำแหน่ง การเลื่อนวิทยฐานะหรือการให้ได้รับเงินเดือนหรือเงินอื่นในระดับที่สูงขึ้น ทั้งนี้ ไม่ว่าจะมีประโยชน์ตอบแทนหรือไม่ก็ตาม ห้ามมิให้ผู้ใดรับจ้างหรือรับดำเนินการตามวรรคหนึ่ง เพื่อให้ผู้อื่นนำผลงานนั้นไปใช้ประโยชน์ในการดำเนินการตามวรรคหนึ่ง เว้นแต่เป็นการช่วยเหลือโดยสุจริตตามสมควร โดยหากผู้ใดฝ่าฝืนจะต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ” รองปลัดกระทรวง อว.กล่าวและว่า
-
กกอ. ได้มอบหมายให้คณะอนุ กรรมการเกี่ยวกับการส่งเสริมและพัฒนาการวิจัยและนวัตกรรม ที่มี ศ.วิชัย ริ้วตระกูล เป็นประธาน ดำเนินการติดตาม ตรวจสอบ และสนับสนุนการดำเนินการของมหาวิทยาลัย ในการสอบสวนผู้กระทำผิด รวมถึงหาแนวทางและวิธีป้องกันการกระทำผิดจริยธรรมดังกล่าว
-
ให้ สปอว.หารือกับองค์กร หน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น ที่ประชุมอธิการบดี (ทปอ.) ทุกแห่ง สภาคณบดีในสาขาวิชาต่างๆ เพื่อวางกลไกในการตรวจสอบการกระทำผิด การป้องปราม และการแจ้งเบาะแสที่อาจจะมีการกระทำผิดเพื่อให้มีการแก้ปัญหาอย่างทันท่วงที
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- มช.ตั้งกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงนักวิชาการ ปมซื้องานวิจัยใส่ชื่อตัวเอง
- ไม่ใช่แค่ มช.! ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์สั่งสอบปมซื้องานวิจัย อ.เจ้าตัวยันบริสุทธิ์
- ไม่มีซื้อขาย! เปิดตัว อ.ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ไขข้อสงสัยแต่ละปีมีผลงานพิมพ์ได้หลายเรื่อง
- ดร.ทัศนา บุญทอง :แจง’ปมตีพิมพ์งานวิจัย’อาจารย์พยาบาลฯ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์
- ส่องฐานข้อมูลวิจัย ตปท.! ดูผลงาน 2 อาจารย์ไทย ก่อนเคลียร์ปมร้อนไม่เคยจ่ายเงิน ‘ซื้อ’
- ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง ปม อ.พยาบาลซื้อ-แปะชื่องานวิจัย
- ‘มข.-ราชภัฎ-ราชมงคล’แถลงจุดยืน ตั้ง กก.สอบงานวิจัยทั้งหมด หลังกระแสมี อ.ซื้อ-แปะชื่อ
- พบอีก 2 ราย อ.ราชภัฏพิบูลฯเข้าข่ายซื้องานวิจัย อธิการบดีเผยมาทำงานปกติ-ตั้ง กก.สอบแล้ว