“ซิโนแวค ไบโอเทค” เผยผลวิจัยความปลอดภัยของ “วัคซีนเชื้อตาย” สำหรับเด็ก พบอาการข้างเคียงไม่พึงประสงค์เพียง 10 ต่อ 100,000 คน โดย 14 ประเทศทั่วโลก อนุมัติให้ใช้กรณีฉุกเฉินในเด็กอายุตั้งแต่ 3 ปี ขึ้นไป เป็นที่เรียบร้อย
กรุงเทพฯ 1 สิงหาคม 2565 – บริษัท ซิโนแวค ไบโอเทค (ซิโนแวค) บริษัทชีวเภสัชผู้พัฒนา วิจัย และผลิตวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 ซิโนแวค หรือชื่ออย่างเป็นทางการว่า “วัคซีนโคโรนาแวค (CoronaVac)” ได้เผยผลการวิจัยล่าสุดในต่างประเทศเกี่ยวกับความปลอดภัยและประสิทธิภาพของวัคซีนเชื้อตาย ในการป้องกันเชื้อไวรัส โควิด-19 จากการศึกษาในกลุ่มตัวอย่างเด็กและเยาวชนผู้รับวัคซีน พบว่าวัคซีนเชื้อตายมีอัตราการเกิดอาการข้างเคียงไม่พึงประสงค์ต่อร่างกายทั้งในระยะสั้นและระยะยาวอยู่ในระดับต่ำ ทั้งยังสามารถเพิ่มระดับแอนติบอดี ในการสร้างภูมิคุ้มกันป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั้งสายพันธุ์ดั้งเดิมและสายพันธุ์โอมิครอนได้ เมื่อได้รับวัคซีนครบสามเข็ม
ทั้งนี้ “ซิโนแวค” เตรียมเดินหน้าศึกษาวิจัยวัคซีนในเด็กเพิ่มเติม หลังได้รับการรับรองด้านประสิทธิภาพ ของวัคซีนเชื้อตายที่มีการอนุมัติให้ใช้ในเด็กที่มีอายุตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป ใน 14 ประเทศทั่วโลก อย่างไรก็ตามจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนที่มีการกลายพันธุ์เป็น BA.4 – BA.5 ได้เพิ่มจำนวนยอดผู้ติดเชื้อสูงขึ้นอย่างรวดเร็วตั้งแต่ช่วงกลางเดือนมิถุนายนเป็นต้นมา โดยองค์การอนามัยโลก หรือ WHO ระบุว่า เชื้อไวรัสสายพันธุ์ดังกล่าวเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้จำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้นในพื้นที่ทวีปยุโรปและสหรัฐ ขณะที่มีการพบไวรัสสายพันธุ์ที่แตกต่างออกไปในพื้นที่ประเทศอื่น ๆ เช่น อินเดีย รวมถึงในประเทศไทย โดยการแพร่ระบาดในระลอกนี้มีกลุ่มเสี่ยงสำคัญคือกลุ่มเด็กนักเรียน เนื่องจากโรงเรียนทั่วประเทศได้กลับมาเปิดเทอมพร้อมเรียนออนไซต์อีกครั้งในช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา
ขณะที่ข้อมูลจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ในไทยได้ออกมาให้ข้อมูลว่า การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในรอบนี้ กลุ่มนักเรียนจะเป็นผู้ขยายและกระจายโรค เช่นเดียวกันกับโรคทางเดินหายใจอื่น เช่น ไข้หวัดใหญ่ ที่มักพบการระบาดสูงมากในช่วงเปิดเทอมหรือฤดูฝนโดยเด็กนักเรียนจะรับเชื้อและติดต่อกันง่ายขึ้นเมื่อมีการเปิดเทอม นอกจากนี้ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญยังมีคำแนะนำถึงการฉีดวัคซีนว่า การติดเชื้อโควิด-19 สามารถติดซ้ำได้ และถึงจะฉีดวัคซีนแล้วก็ยังสามารถติดได้
ซึ่งการฉีดวัคซีนจะช่วยป้องกันความรุนแรงของโรคหลังจากติดเชื้อ แต่ที่น่าเป็นห่วงคือกลุ่มเด็กและเยาวชน เพราะเด็กส่วนใหญ่เพิ่งได้รับวัคซีนเป็นเข็มแรก และยังไม่ได้รับเข็มกระตุ้น รวมถึงยังมีเด็กบางกลุ่มที่ยังไม่เคยได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 แต่อย่างใด อย่างไรก็ตามปัจจุบันประเทศไทยวัคซีนสำหรับเด็กที่ได้รับการรองรับโดย อย.ให้ฉีดในเด็ก ได้แก่ วัคซีนชนิดเชื้อตาย สำหรับเด็กตั้งแต่ อายุ 6 ปีขึ้นไป และวัคซีน mRNA สำหรับเด็กอายุ 5 ปีขึ้นไป โดยสำหรับวัคซีนชนิดเชื้อตาย เป็นเทคโนโลยีวัคซีนที่พัฒนาขึ้นเพื่อใช้ป้องกันโรคต่างๆ ในเด็กมาอย่างยาวนาน อาทิ วัคซีนไวรัสตับอักเสบเอ และวัคซีนไข้หวัดใหญ่ เป็นต้น
ด้าน นาย หลิว เพ่ยเฉิง ผู้อำนวยการอาวุโส ซิโนแวค กล่าวว่า “ที่ผ่านมา ซิโนแวค ไบโอเทค ได้ทำการศึกษาวิจัยวัคซีนเชื้อตายอย่างต่อเนื่อง ในด้านของความปลอดภัยและประสิทธิภาพในการสร้างภูมิคุ้มกันป้องกันโควิด-19 ในกลุ่มเด็ก ทั้งในฮ่องกงและต่างประเทศ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้ปกครอง ล่าสุดนอกจากวัคซีนป้องกันโควิด-19 ชนิดเชื้อตาย จะได้รับการรับรองให้สามารถฉีดวัคซีนให้กับกลุ่มผู้ใหญ่ใน 60 ประเทศทั่วโลกแล้วยังได้รับรองให้นำมาใช้กับกลุ่มเด็กอายุตั้งแต่ 3 ปี ขึ้นไปใน 14 ประเทศ อีกด้วย โดยในปัจจุบัน วัคซีนเชื้อตายของซิโนแวคได้ถูกแจกจ่ายไปยังกลุ่มเด็กทั่วโลกไปแล้วมากกว่า 260 ล้านโดส”
นอกจากนี้ ซิโนแวค ยังได้เผยข้อมูลงานวิจัยเกี่ยวกับอัตราการเกิดผลข้างเคียงหลังฉีดวัคซีนในเด็กที่น่าสนใจจากประเทศชิลี โดยอ้างอิงข้อมูลของสถาบันสาธารณสุขชิลี (ISP) จากรายงานประเมินผลการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ในเด็กและเยาวชนอายุตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไปเป็นจำนวนกว่า 6.9 ล้านเข็มทั่วประเทศ ในช่วงระยะเวลาของการสำรวจ พบว่ามีการรายงานอาการข้างเคียงหลังฉีดวัคซีนในเด็กทุกประเภท คิดเป็น 0.01% หรือจำนวน 868 ครั้งของการฉีดวัคซีนในเด็กทั้งหมด ซึ่งรายละเอียดของผลการรายงานสำหรับอาการข้างเคียงไม่พึงประสงค์ ยังพบว่าวัคซีนเชื้อตายมีอัตรารายงานผลต่ำที่สุดอยู่ที่ 10.67 ต่อ 100,000 โดส ตามมาด้วยวัคซีน mRNA 15.35 ต่อ 100,000 โดส
นอกจากเรื่องของความปลอดภัยของวัคซีน ก่อนหน้านี้ประเทศชิลีก็ได้มีการศึกษาประสิทธิภาพของวัคซีนเชื้อตายในเด็ก โดยเก็บข้อมูลจากการใช้งานจริง พบว่าวัคซีนเชื้อตายมีประสิทธิภาพป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 ในเด็กได้ 74.5% พร้อมลดอัตราการเข้ารักษาในโรงพยาบาลได้ 91% และลดอัตราการแอดมิทห้องฉุกเฉินได้ 93.8% ในส่วนของเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอมิครอน พบว่าวัคซีนเชื้อตายสามารถลดอัตราเข้ารักษาในโรงพยาบาลได้ 64.6% และลดอัตราการแอดมิทห้องฉุกเฉิน ในกลุ่มเด็กอายุ 3-5 ปี ได้ 69% ซึ่ง ซิโนแวค ไบโอเทค เองได้ทำการวิจัยที่ให้ผลสอดคล้องกัน โดยพบว่าระดับภูมิคุ้มกันในกลุ่มตัวอย่างเด็กเพิ่มขึ้นเมื่อได้รับวัคซีนเชื้อตายครบ 2 เข็ม และเพิ่มขึ้นกว่า 30 เท่าในเข็มที่ 3 โดยอัตราการเพิ่มขึ้นของแอนติบอดีป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-10 อยู่ที่กว่า 90% นายหลิว กล่าวสรุป
ข้อมูลอ้างอิง
1. Han, Bihua, et al. “Safety, tolerability, and immunogenicity of an inactivated SARS-CoV-2 vaccine (CoronaVac) in healthy children and adolescents: a double-blind, randomised, controlled, phase 1/2 clinical trial. “The Lancet Infectious Diseases 21.12 (2021):
1645-1653. https://www.thelancet.com/journals/laninf/article/PIIS1473-3099%2821%2900319-4/fulltext
2. Wang, Lei, et al. “Safety and Cross-Reactive Immune Response Against the Omicron Variant of a Third Dose of CoronaVac, and Immune Persistence of Primary Immunization in Healthy Children and Adolescents: Interim Results from a Double-Blind, Randomised, Placebo-Controlled Phase 2 Clinical Trial.” https://papers.ssrn.com/sol3/papers.cfm?abstract_id=4099431
3. Rafael Araos, Alejandro Jara, Eduardo Undurraga et al. Effectiveness of CoronaVac in children 3 to 5 years during the omicron SARS-CoV-2 outbreak, 15 March 2022, PREPRINT (Version 1) available at Research Square https://doi .org/10.21203/
rs.3.rs-1440357/v1
4. Jara, Alejandro, et al. “Effectiveness of an Inactivated SARS-CoV-2 Vaccine in Children and Adolescents: A Large-Scale Observational Study.” (2022) . https://papers.ssrn.com/sol3/papers.cfm?abstract_id=4035405
5. https://papers.ssrn.com/sol3/papers.cfm?abstract_id=4099431
6. Fourth Statistical Report “HAART associated with the administration of SARS-CoV-2 vaccines in Chile”. In the paediatric and adolescent population Period: 01
March 2021 to 26 February 2022. https://vigilancia.ispch.gob.cl/app/esavi (Last Access 25 May 2022)
7. https://ddc.moph.go.th/covid19-dashboard/
เกี่ยวกับซิโนแวค
ซิโนแวค ไบโอเทค เป็นบริษัท ชีวเภสัชภัณฑ์ ตั้งอยู่ในประเทศจีน มุ่งเน้นการวิจัยพัฒนา การผลิต และการค้าวัคซีน ที่ป้องกันโรคติดต่อในมนุษย์ ผลิตภัณฑ์ของซิโนแวค ครอบคลุมวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 เอนเทอโรไวรัส 71 ไวรัสตับอักเสบเอและบี ไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล เชื้อนิวโมคอคคัส 23 สายพันธุ์ ไข้หวัดใหญ่ระบาด H5N1 (ไข้หวัดนก) ไข้หวัดใหญ่ H1N1 (ไข้หวัดหมู) โรคไข้สุกใส โรคคางทูม และโรคโปลิโอ วัคซีนซิโนแวคป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 หรือ CoronaVac® ได้รับการอนุมัติให้ใช้ในกรณีเร่งด่วน หรือทำการตลาดอย่างมีเงื่อนไข ใน ภูมิภาคเอเชีย ลาตินอเมริกา อัฟริกา และ ประเทศในตะวันออกกลาง Healive® วัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบเอซึ่งผลิตโดยบริษัทฯ ได้ผ่านการประเมินเพื่อทดสอบคุณสมบัติโดยองค์การอนามัยโลกในปีพ.ศ. 2560 วัคซีน EV71
ซึ่งเป็นนวัตกรรมของซิโนแวค เพื่อป้องกันโรคมือเท้าปากเปื่อยที่เกิดจาก EV71 ได้ถูกใช้เชิงพาณิชย์ในประเทศจีนในปีพ.ศ. 2559 ในปีพ.ศ. 2552 ซิโนแวคเป็นบริษัทแรกในโลกที่วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ H1N1 ได้รับการรับรอง และได้กระจายให้นำไปใช้กับโครงการฉีดวัคซีนและการสะสมวัคซีนของรัฐบาลจีน บริษัทฯเป็นผู้จำหน่ายวัคซีนป้องกันโรคระบาดไข้หวัดใหญ่ H1N1 แต่เพียงผู้เดียวให้กับโครงการสะสมวัคซีนของรัฐบาลจีน ในปี 2564 วัคซีนโปลิโอเชื้อตายสายพันธุ์ Sabinของบริษัทฯ ได้รับการอนุมัติให้จดทะเบียน นอกจากนี้บริษัทฯ กำลังพัฒนาวัคซีนอีกหลายประเภทรวมถึงวัคซีนรวม ซิโนแวคจำหน่ายวัคซีนในประเทศจีนเป็นส่วนใหญ่ และกำลังศึกษาโอกาสสำหรับการเติบโตในตลาดสากล บริษัทฯกำลังมองหาช่องทางการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในหลายประเทศนอกเหนือจากประเทศจีน สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาเยี่ยมชมเว็บไซต์ www.sinovac.com
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่:
ปรึกษาประชาสัมพันธ์: เจซีแอนด์โค คอมมิวนิเคชั่นส์ JC&CO COMMUNICATIONS
ณภัทร กาญจนะจัย / 081-355-9221 / napatk@jcco.co.th กัณฐิกา ไกยราช / 061-224-6146 / kantikak@jcco.co.th
LINE OFFICIAL: @jccothailand