</p>
ดร.วีระศักดิ์ วงษ์สมบัติ
ชูแนวคิด “ปลูกด้วยดิน-บนแคร่-ในโรงเรือน”
ผักคุณภาพสูงสู่ลูกค้าไฮเอนด์
จากขุนพลการอาชีวศึกษา นักการเกษตรผู้มีหัวก้าวหน้าและมองการณ์ไกลว่า เมืองไทยเรานี้ละคือครัวของโลก หลังพ้นตำแหน่งทางราชการในกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ดร.วีระศักดิ์ วงษ์สมบัติ มุ่งหน้าสู่โลกเกษตรอย่างเต็มตัว และกลายเป็นต้นแบบของ “ผู้ประกอบการธุรกิจ” ที่ใส่ใจตนเอง ครอบครัวและคนรอบข้าง ในการทำฟาร์มผัก ตามความถนัดและความตั้งใจเพื่อผลิตผักพรีเมียมหรือผักคุณภาพระดับสูง
ด้วยแนวคิด “ปลูกด้วยดิน – บนแคร่ – ในโรงเรือน”
เนื้อที่ประมาณ 120 ไร่ของ “คลีนฟาร์ม” ที่อ.หนองแซง จ.สระบุรี ถูกแบ่งพื้นที่เพื่อสร้างโรงเรือนปลูกผักกว่า 40 ชนิด ทั้งคะน้า กวางตุ้ง จิงจูฉ่าย ถั่วฝักยาว ผักสลัด ผักบุ้งและปวยเล้ง ซึ่งผักทั้งหมดมีความปลอดภัยและมีคุณประโยชน์สูง สดสะอาด ที่สำคัญคือมีรสชาติดี การันตีด้วยรางวัล GAP ดีเด่น และ OTOP5 ดาว
ดร.วีระศักดิ์ เล่าว่าฟาร์มผักคุณภาพสูงนี้ เกิดจากตนเองและภรรยาชอบรับประทานผัก ช่วงหนึ่งเธอป่วย ผมจึงคิดอยากที่จะปลูกผักที่สะอาดปลอดภัยสำหรับครอบครัว จนได้ขยับขยายเริ่มต้นเป็นธุรกิจฟาร์มผักที่มีชื่อเสียงและประสบความสำเร็จ มุ่งผลิตผักให้มีรสชาติดี ทำให้คนที่ไม่ชอบรับประทานผัก เปลี่ยนใจหันมาชอบและรับประทานผักได้
ส่วนแนวคิด “ปลูกด้วยดิน – บนแคร่ – ในโรงเรือน” มาจากความพยายามที่จะแก้ปัญหา เมื่อครั้งรับราชการที่ภาคใต้ รู้สึกว่าคนใต้รับประทานผักเยอะมาก แต่ไม่ได้ปลูกผักหรือปลูกได้น้อยมาก เพราะสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย ฝนตกชุก ทำให้ผักเน่า ฉีกขาด เป็นเชื้อรา รวมถึงฝนยังเป็นตัวชะล้างปุ๋ยอีกด้วย จึงหาวิธีการปลูกผักแบบที่ไม่ต้องการฝน โดยทำเป็นโรงเรือนที่ อ.หนองแซง จ.สระบุรี แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ เพราะดินที่นั่นค่อนข้างเป็นดินเหนียว เลยหาวิธีการใหม่จนนำมาสู่แนวคิด
ปลูกด้วยดิน…ดินที่ผ่านการฆ่าเชื้อโรคด้วยไอน้ำร้อน แล้วนำมาผสมวัสดุปลูกชั้นดี ทำให้ดินอุดมสมบูรณ์ด้วยวิธีการธรรมชาติ และเพิ่มธาตุอาหารให้กับดินโดยใช้ปุ๋ยนมสดและปุ๋ยหมักปลาที่คิดสูตรขึ้นเอง ทำให้ดินมีธาตุอาหารที่ครบถ้วนต่อการเติบโตของผัก
“การใช้ดินเป็นวัสดุปลูกทำให้ผักแข็งแรง มีความกรอบ คงความสดได้นาน แถมยังมีรสชาติดีอีกด้วย”
บนแคร่…คือ การปลูกผักบนแคร่ เพื่อหนีโรค วัชพืชและแมลงศัตรูพืชที่มาจากพื้นดิน โดยเตรียมต้นกล้าผักให้สมบูรณ์แข็งแรงก่อนย้ายขึ้นปลูกบนแคร่ที่ยกสูงจากพื้นดิน ทำให้ระบายอากาศและความร้อนได้ดี สามารถควบคุมอุณหภูมิของวัสดุปลูกได้ ทั้งยังช่วยทำให้ประหยัดน้ำและประหยัดปุ๋ย โดยออกแบบให้แคร่มีความสูงประมาณ 1เมตร (ระดับเอว) จึงทำให้สะดวกในการทำงานทุกขั้นตอน เช่น การเตรียมดิน เพาะปลูกการเก็บทำลายศัตรูพืชและวัชพืช รวมถึงเก็บเกี่ยวผลผลิต จึงทำให้ผู้ปฏิบัติงานเกิดความสะดวก ไม่ปวดหลัง และไม่ต้องก้ม ๆ เงย ๆ
และในโรงเรือน…ผักที่ปลูกในโรงเรือนปิด หลังคามุงด้วยพลาสติกหนาใส ช่วยป้องกันฝนและความชื้นบางส่วนที่มากเกินไป เพราะหัวใจหลักเราคือ ปลูกผักแบบไม่ต้องการฝน ส่วนด้านข้างเป็นมุ้งตาข่ายป้องกันศัตรูพืชและวัชพืชที่มาจากทางอากาศภายในโรงเรือนติดตั้งระบบพ่นหมอกและระบบน้ำหยดเพื่อปรับอุณหภูมิให้เหมาะสม ดังนั้นการปลูกผักในโรงเรือนของที่นี่ จึงปลูกได้ตลอดทั้งปี
จากความพิถีพิถันและคิดต่างในการผลิตผักพรีเมียมคุณภาพสูง ราคาก็ย่อมสูงตามด้วย “เราไม่ได้ขายผักราคาแพงที่สุดในประเทศ แต่เราขายผักที่มีคุณภาพสูง ราคาจึงสูงตามคุณภาพ” เจาะกลุ่มเป้าหมายระดับไฮเอนด์ ผู้บริโภคส่วนใหญ่จะเป็นหมอ พยาบาล และวัยทำงานที่รักสุขภาพ ส่งให้ตามสถานที่ราชการ สถานที่ออกกำลังกายต่าง ๆ เป็นหลัก ถือเป็นธุรกิจที่ตอบโจทย์เทรนด์โลก “มุ่งอายุยืน เน้นทานผักทานปลา” ในอนาคตอันใกล้ฟาร์มแห่งนี้ จะนำการขนส่งแบบระบบรางมาใช้ในฟาร์ม ถือเป็นก้าวใหม่แห่งวงการเกษตรไทย และเป็นฟาร์มที่กำหนดราคาขายเองได้
ดร.วีระศักดิ์ ยังทิ้งท้ายว่า “เกษตรกรเป็นอาชีพที่ต้องใช้เวลา อดทน และมีใจรัก” หากเราซื่อสัตย์ มีจรรยาบรรณในอาชีพ ผู้บริโภคก็จะเชื่อใจและสนับสนุนเราเป็นอย่างดี อยากให้ทุกคนได้ลองรับประทานผักและน้ำผักปั่นสด ๆ …แล้วจะหลงรักในรสชาติของผักแน่นอน
สำหรับ ดร.วีระศักดิ์ วงษ์สมบัติ ปัจจุบันเป็นผู้ประกอบการธุรกิจคลีนฟาร์ม และยังมีตำแหน่งเป็นนายกสภามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี
———————
** ขอบคุณข้อมูล – อลงกรณ์ รัตตะเวทิน มทร.ธัญบุรี
———————
** อ่านต้นฉบับเต็มได้ที่ หนังสือพิมพ์สยามรัฐ