ด่วน!สพฐ.เรียกผู้บริหาร200โรงเรียนดัง ถกรับนักเรียนปี2561รับฟังปัญหาม.3ขึ้นม.4โรงเรียนเดิม พ่อแม่ยังหวังทางผ่อนผันเกณฑ์40คนต่อห้อง
จากกรณีที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.) ได้ประกาศแนวทางการรับนักเรียน ปีการศึกษา 2561ของโรงเรียนในสังกัด โดยมีการกำหนดจำนวนนักเรียนต่อห้องและไม่เปิดโอกาสให้ขอขยายห้องเรียนเพิ่ม โดยระดับก่อนประถมศึกษา 30 คนต่อห้อง ประถมศึกษา 40 คนต่อห้อง และมัธยมศึกษา 40 คนต่อห้อง จนทำให้เกิดความกังวลแก่ผู้ปกครองและนักเรียนโดยเฉพาะช่วงรอยต่อที่จะเลื่อนชั้นในโรงเรียนเดิมอย่าง ม.3 ขึ้น ม.4 ที่ต้องลดจำนวนนักเรียนต่อห้องลง และมีการเรียกร้องให้ผ่อนผันแนวปฏิบัตินี้ออกไปก่อน เพื่อผ่อนคลายปัญหานักเรียนต้องถูกคัดออกเพื่อไปหาที่เรียนใหม่นั้น
นายณรงค์ แผ้วพลสง รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(กพฐ.) กล่าวว่า สพฐ.รับทราบถึงข้อห่วงใยและความกังวลดังกล่าวแล้ว ดร.บุญรักษ์ ยอดเพชร เลขาธิการ กพฐ.จึงได้กำหนดให้จัดการประชุมหารือร่วมกับ ผอ.โรงเรียนแข่งขันสูงทั้ง 200 กว่าทั่วประเทศในวันที่ 19 ก.พ.2561 นี้ ที่โรงแรมรอยัลริเวอร์ เพื่อรับฟังปัญหาและหาทางออกร่วมกัน
“ความจริงการกำหนดจำนวนนักเรียนห้องละ 30-40 คนนั้น มีมานานแล้ว เพียงแต่ที่ผ่านมาเราจะปฏิบัติกันแบบยืดหยุ่น หากโรงเรียนมีความจำเป็นต้องรับนักเรียนเกินกว่านั้น ก็ต้องเสนอแผนการรับนักเรียนให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา(สพป.)หรือสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา(สพม.) พิจารณาตามเกณฑ์ที่คณะกรรมการเขตพื้นที่การศึกษากำหนด ซึ่งทุกปีก็จะมีการทำแผนขอขยายห้องเรียนโดยเฉพาะโรงเรียนแข่งขันสูง แต่สำหรับปีการศึกษา 2561 เมื่อเราต้องการเน้นเรื่องคุณภาพ การลดจำนวนนักเรียนต่อห้องลงเป็นปัจจัยสำคัญ สพฐ.จึงได้กำชับโรงเรียนให้ปฏิบัติอย่างเคร่งครัด จึงทำให้เกิดผลกระทบบ้าง”
รองเลขาธิการ กพฐ.กล่าวและว่า เมื่อเกิดความไม่สบายใจขึ้น ก็ต้องมีการพูดคุยและหาทางออกร่วมกันด้วยเหตุผลและความรอบคอบ ซึ่งหากมีเหตุผลที่ดี สพฐ.ก็ยินดีนำเสนอบอร์ด กพฐ.เพื่อพิจารณาต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้หลายโรงเรียนได้ประกาศรายชื่อนักเรียน ม.3 ที่ผ่านการคัดเลือกให้เรียน ม.4 ในโรงเรียนเดิมกันแล้วซึ่งเมื่อ สพฐ.มีหนังสือกำชับให้โรงเรียนปฏิบัติตามแนวทางการรับนักเรียนอย่างเคร่งครัด ทำให้โรงเรียนต่าง ๆ ต้องปฏิบัติตามอย่างเข้มงวดจึงทำให้ปีนี้มีนักเรียน ม.3 ที่ไม่ได้เรียนต่อ ม.4 ในโรงเรียนเดิมค่อนข้างมาก ทั้งนี้ ผู้ปกครองส่วนหนึ่งยังมีความหวังว่าที่การประชุมระหว่าง สพฐ.กับผู้บริหารโรงเรียนแข่งขันสูงจะหาทางออกให้ได้
** อ่านต้นฉบับเต็มได้ที่ หนังสือพิมพ์สยามรัฐ