“ศบค.”แถลงพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ 11,674 ราย เสียชีวิตอีก 81 ศพ อยู่ระหว่างรักษาตัว112,097 ราย อาการหนัก 3,595 ราย หายป่วยเพิ่ม 5,741 ราย “นพ.ทวีศิลป์”เผยผลการศึกษา 2 โมเดล ชี้หากคุมไม่ได้ตัวเลขติดเชื้ออาจสูงถึงหลัก 2-3 หมื่น ช่วงเดือน ส.ค.-ก.ย.นี้ พร้อมสั่งตั้งด่านรอบพื้นที่สีแดง 13 จังหวัด ตรวจเข้มเช็ค 3 หลักฐานสำคัญเข้า-ออก วอนงดเดินทางออกจากบ้านให้น้อยที่สุด ขณะที่”บิ๊กตู่” เรียก “อนุทิน-หมอปิยะสกล” ถกลับปมจัดหาวัคซีนเพิ่มเติม
เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 19 ก.ค. 64 นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. รายงานสถานการณ์ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศไทย ว่า พบติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ในประเทศ จำนวน 11,674 ราย แยกเป็น ผู้ติดเชื้อในประเทศจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 8,997 ราย จากการค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกในชุมชน 2,677 ราย จากเรือนจำ/ที่ต้องขัง 100 ราย และติดเชื้อจากต่างประเทศ 10 รายรักษาหายเพิ่มขึ้น 5,741 ราย กลับบ้านแล้ว 289,651 ราย อยู่ระหว่างรักษาตัว 112,097 ราย แบ่งเป็นในโรงพยาบาล 71,653 ราย และโรงพยาบาลสนาม 50,462 ราย ในจำนวนนี้มีอาการหนัก (ปอดอักเสบ) 3,595 ราย ต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ 856 รายมีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 81 ศพ ยอดผู้เสียชีวิตสะสม 3,422 ศพ (ตั้งแต่ปี 2563) ยอดผู้ป่วยยืนยันสะสมตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 415,170 รายประเทศไทยเป็นอันดับที่ 55 ของโลก
นอกจากนี้ ยังมีคำสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด – 19) ที่ 10/2564 เรื่อง พื้นที่สถานการณ์ที่กำหนดเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด พื้นที่ควบคุมสูงสุด พื้นที่ควบคุม และพื้นที่เฝ้าระวังสูง ตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ดังนี้ 1.พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 13 จังหวัด 2. พื้นที่ควบคุมสูงสุด 53 จังหวัด 3. พื้นที่ควบคุม 10 จังหวัด และ4. พื้นที่เฝ้าระวังสูง 1 จังหวัด มีผลประกาศใช้ ตั้งแต่วันที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2564 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงคำสั่ง
นายแพทย์ทวีศิลป์ ยังเปิดเผยผลการศึกษา 2 รูปแบบที่คาดการณ์จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ว่า 1.การคาดการณ์ ของมหาวิทยามหิดล หากควบคุมสถานการณ์ไม่ได้ ตัวเลขผู้ติดเชื้อจะพุ่งขึ้นถึงวันละ 31,997 คน หากควบคุมสถานการณ์การติดเชื้อได้ดี ตัวเลขจะอยู่ที่วันละ 9,018-12,605 คน และ2.การคาดการณ์ ของธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำลองรูปแบบการติดเชื้อเป็นเส้นกราฟ ถ้าฉีดวัคซีนได้มากขึ้น จะเห็นกราฟตัวเลขติดเชื้อลดลงช่วงที่ดีที่สุดคือ ช่วงเดือน ส.ค.และ ก.ย.64 แต่ในปัจจุบันเห็นว่าเส้นกราฟไต่ขึ้นไป ในทางตรงข้าม หากควบคุมสถานการณ์ไม่ดี จะเห็นตัวเลขผู้ติดเชื้อสูงสุด ประมาณ 20,000 คน ในช่วงเดือนส.ค.ก.ย.จากนั้นจะลดลงมาในเดือนต.ค. 64หากวัคซีนเข้ามาช่วงไตรมาสที่ 4 สิ่งที่ดีที่สุด ต้องป่วยน้อย
“โดย ศบค.ได้สั่งฝ่ายความมั่นคงตั้งด่านสกัดการเดินทางเข้า-ออกพื้นที่สีแดงเข้ม 13 จังหวัด ทั้งบริเวณรอบชายขอบและระหว่างเส้นทางภายในพื้นที่ เพื่อให้การเดินทางได้รับความสะดวกน้อยที่สุด โดยเจ้าหน้าที่ประจำด่านจะตรวจสอบ 3 หลักฐานกับผู้ที่เดินทางเข้า-ออก ได้แก่ หลักฐานการอนุญาตเดินทาง ผู้เดินทางต้องแจ้งข้อมูลในแอปพลิเคชั่นไทยชนะ และจะต้องลงทะเบียนในเว็บไซต์ที่กำหนดไว้เพื่อรับ QR Code มาแสดงกับเจ้าหน้าที่ด้วย พร้อมทั้งย้ำการขอร้องให้ผู้ที่อยู่ในพื้นที่สีแดงเข้มเดินทางออกจากบ้านให้น้อยที่สุดให้เหลือเท่าที่จำเป็นเท่านั้น” นายแพทย์ทวีศิลป์ กล่าว
วันเดียวกัน เมื่อเวลา 11.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้เชิญ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข พร้อมด้วย นพ.ปิ
ยะสกล สกลสัตยาทร ประธานคณะกรรมการจัดสรรวัคซีนและที่ปรึกษา ศบค. โดยคาดว่าจะมีการหารือเรื่องการจัดหาวัคซีนเพิ่มเติม
และมีรายงานว่า เมื่อเวลา 14.00 น. นายกฯ ได้เชิญ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา เข้ารายงานความคืบหน้าโครงการสมุย พลัส โมเดล เพื่อหารือถึงความคืบหน้า รวมทั้งปัญหาอุปสรรค หลัง จ.ภูเก็ต ออกคำสั่งปิดกิจกรรมที่มีความเสี่ยงป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ปิดผับ บาร์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายญนน์ โภคทรัพย์ ประธานสมาคมผู้ค้าปลีกไทย และนายนพพร วิฑูรชาติ นายกสมาคมศูนย์การค้าไทย ร่วมกัยแถลงว่า ทั้ง 2 สมาคมพร้อมที่จะขานรับมาตรการของ ศบค. และปฎิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัดเฉพาะในเขตพื้นที่13 จังหวัดโดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 20 ก.ค.2564 เป็นต้นไป ดังนี้ 1. ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า เปิดบริการได้เฉพาะซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านยา พื้นที่ฉีดวัคซีน หรือบริการทางการแพทย์ของรัฐ จนถึง 20.00 น. 2. ซูเปอร์มาร์เก็ต ไฮเปอร์มาร์ท และ แคช แอนด์แครี่ ที่ตั้งนอกศูนย์การค้า เปิดตามปกติ และปิดให้บริการ 20.00 น.
3. ร้านสะดวกซื้อ และตลาดสด เปิดบริการได้ 04.00 น. ถึง 20.00 น. ของทุกวัน 4. กิจการนอกศูนย์การค้า ดังต่อไปนี้ ร้านขายยา ร้านค้าทั่วไป โรงงาน ธุรกิจหลักทรัพย์ ธุรกรรมการเงิน ธนาคาร ตู้เอทีเอ็ม ธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคม ไปรษณีย์และพัสดุภัณฑ์ ร้านจำหน่ายอาหารสัตว์ ร้านขายยาและเวชภัณฑ์ ร้านจำหน่ายเครื่องมือช่างและอุปกรณ์ก่อสร้าง รวมทั้งบริการส่งสินค้าและอาหารตามสั่ง (Delivery Online)ยังคงเปิดดำเนินการได้ตามความจำเป็น ภายใต้มาตรการคุมโควิด-19 อย่างเคร่งครัด และ5.หากมีประกาศของจังหวัดอื่นใด นอกเหนือจากนี้ ให้ปฎิบัติตามประกาศตามจังหวัดนั้นๆ
ทั้งนี้ สมาคมผู้ค้าปลีกไทย และสมาคมศูนย์การค้าไทย ในฐานะตัวแทนของสมาชิกภาคีเครือข่ายผู้ประกอบการค้าปลีกทั่วประเทศ ขอยืนยันว่าผู้ประกอบการค้าปลีกมีความพร้อมที่จะเสริมการบริการด้วยช่องทางออนไลน์เพื่อให้ลูกค้าสามารถซื้อสินค้าผ่านช่องทางนี้ได้อย่างสะดวกและง่ายดายทุกที่ทุกเวลา โดยในส่วนของซูเปอร์มาร์เก็ต และร้านสะดวกซื้อที่ยังคงเปิดให้บริการ เรามีการบริหารการจัดการสต็อกสินค้าอุปโภคบริโภค และสินค้าจำเป็น ที่ใช้ในชีวิตประจำวันสำหรับลูกค้าทุกกลุ่ม เพื่อลดความกังวลเรื่อง สินค้ามีไม่เพียงพอ โดยทางสมาคมผู้ค้าปลีกไทย และสมาคมศูนย์การค้าไทย พร้อมที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมฝ่าฟัน และ เชื่อว่าความร่วมมือกันในครั้งนี้จะทำให้ทุกคนก้าวผ่านวิกฤติโควิดครั้งนี้ไปได้ด้วยกัน