จัดเรดโซนคู่เดตโซน ห้างดังย่านปทุมวันจุดอันตราย
วันที่ 4 ส.ค.60 ที่สถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน (สทป.) มีการประชุมกำหนดมาตรการแก้ไขปัญหานักศึกษาทะเลาะวิวาท โดยมี นายจรูญ ชูลาภ นายกสภา สทป. พร้อมด้วย นายเสถียร ธัญญศรีรัตน์ รักษาราชการอธิการบดี สทป. นายถาวร ธีรเวชญาณ คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ สถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออกวิทยาเขตอุเทนถวาย และ พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผู้บัญชาการตำนวจนครบาล(ผบช.น.) ผู้แทนสถานีตำรวจนครบาลปทุมวัน ผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา(สกอ.) และผู้เกี่ยวข้องเข้าร่วม
นายจรูญ กล่าวว่า จากสิ่งที่เกิดขึ้นสังคมส่วนใหญ่รู้สึกไม่สบายใจ และทุกฝ่ายไม่อยากให้ชนวนปัญหาที่เกิดขึ้นขยายตัวไปในจุดอื่นที่ไม่พึงปรารถนา จึงได้เชิญทุกฝ่ายเกี่ยวข้องมาหารือกำหนดมาตรการแก้ปัญหาร่วมกัน ทั้งระยะสั้น ที่ต้องทำโดยเร่งด่วนป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาซ้ำซ้อนและระยะยาว แก้ปัญหายั่งยืนและสร้างความสามัคคีกัน โดยมาตรการระยะสั้น จะมีการกำหนดพื้นที่เสี่ยง หรือพื้นที่สีแดง (เรดโซน) ห้ามนักศึกษาทั้ง 2 สถาบันผ่าน เช่น บริเวณสี่แยกปทุมวัน จากอุเทนถวายฯ เส้นสี่แยกปทุมวัน จนถึงสี่แยกเจริญผล และจากสปท. จากแยกปทุมวัน ไปจนถึงฝั่งอุเทนถวายฯ หากใครเข้าไปถือว่ามีความผิด
ยังมีจุดบริเวณ ห้างสรรพสินค้าย่านปทุมวัน ที่เป็นจุดอันตราย ซึ่งจุดเหล่านี้จะมีอาจารย์และเจ้าหน้าที่ตำรวจไปดูแล รวมถึงจะสั่งการอย่างเด็ดขาด ไม่ให้นักศึกษาทั้ง 2 สถาบัน แต่งเครื่องแบบ หรือสวมเสื้อช็อป ที่เป็นการแสดงสัญลักษณ์ ที่สุ่มเสี่ยงยั่วยุให้เกิดปัญหาเวลาอยู่ข้างนอกสถานศึกษา
นายจรูญ กล่าวต่อไปว่า ส่วนมาตรการระยะยาว เห็นร่วมกันว่าควรส่งเสริมให้ทำกิจกรรมร่วมกัน เพื่อลดความหวาดระแวง สร้างความสามัคคี ระหว่างนักศึกษาทั้ง 2 สถาบันเป็นประจำทุกเดือน จากที่เคยมีการทำกิจกรรมร่วมกันแต่จากนั้นก็ไม่ได้ทำอีก ขณะเดียวกันจะตั้งคณะกรรมการสานสัมพันธ์ ประกอบด้วยผู้เกี่ยวข้องจาก 2 สถาบัน ชุมชน เจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อหาแนวทางทำกิจกรรมร่วมกัน เพื่อให้เกิดความรักสามัคคีในหมู่นักศึกษา
อย่างไรก็ตาม ทั้ง 2 สถาบันจะไปออกประกาศ แจ้งมาตรการ กำหนดพื้นที่เรดโซน และเดตโซน กำหนดบทลงโทษ ที่ชัดเจนและแจ้งให้นักศึกษาได้รับทราบต่อไป
“ก่อนหน้านี้ได้เชิญศิษย์เก่าของ สปท. มาพูดคุยเพื่อหาทางแก้ปัญหา โดยจะมีการตั้งคณะกรรมขึ้นมา 1 ชุด เพื่อชี้แนะทำความเข้าใจกับรุ่นน้อง ให้เห็นอนาคตว่า ถ้าก่อปัญหาทะเลาะวิวาท และถึงขั้นมีผู้เสียชีวิต อนาคตจะไปจบตรงไหน อยากฝากให้อาจารย์ ผู้เกี่ยวข้องรวมถึงสื่อมวลชนให้ข้อมูลที่ถูกต้อง ให้เด็กได้เข้าใจเพื่อให้ทุกฝ่ายใจเย็นลง เพราะเหตุที่เกิดขึ้น มาจากเรื่องเพียงนิดเดียว” นายจรูญ กล่าว
ด้าน พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวว่า จากการหารือเบื้องต้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะกำหนดพื้นที่เสี่ยงหลายจุด โดยเฉพาะพื้นที่สีแดง บริเวณสี่แยกปทุมวัน ซึ่งเป็นเส้นทางการเดินทางของทั้งสองสถาบัน จะจัดเจ้าหน้าที่ตำรวจ ครูอาจารย์ อยู่ประจำจุดในช่วงเช้าและเย็น ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดินทางมาเรียนและกลับบ้านของทั้ง 2 สถาบัน รวมถึงพื้นที่เสี่ยงในตรอก ซอก ซอย ชุมชน ก็จะมีการจัดเจ้าหน้าที่ไปประจำด้วยเช่นกัน รวมทั้งขอความร่วมมือจากชุมชนช่วยเป็นหูเป็นตา หากเกิดเหตุก็ขอให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ทันที
นอกจากนี้ ยังจะจัดเจ้าหน้าที่ตำรวจดูเส้นทางรถไฟฟ้า ไล่ตั้งแต่สถานีหมอชิต สะพานควาย อนุสาวรีย์ บางซื่อ บางนา แบรริ่ง เนื่องเป็นพื้นที่นักศึกษาส่วนใหญ่พักอาศัย ใช้เดินทางมาเรียนเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหา
“การประชุมครั้งนี้ มีการกำหนดบทลงโทษที่ชัดเจน ทั้งทางกฎหมายและทางปกครอง โดยจะประกาศให้ทราบโดยการ ซึ่งทางปกครองจากมีตั้งแต่ภาคทัณฑ์ ตักเตือน ไล่ออก ส่วนทางกฎหมายก็ว่าไปตามความผิด ทางผู้เกี่ยวข้องพยายามจะแก้ปัญหา และสร้างความรู้สึกที่ดีให้กับนักศึกษาทั้ง 2 สถาบัน เพราะกว่า 90% ของนักศึกษา เป็นเด็กดี มีเพียง 5% ที่เกเร ซึ่งเด็กกลุ่มนี้ส่วนใหญ่จะเข้าและออกบ่อย ก่อให้เกิดปัญหา ซึ่งจัดนี้ต้องทำความเข้าใจกับผู้ปกครองและชุมชนของเด็กเหล่านี้เพื่อแก้ปัญหาร่วมกัน อย่างไรก็ตาม ขอฝากไปถึงเยาวชนทุกคน ไม่เฉพาะ 2 สถาบันนี้เท่านั้น ให้คิดถึงอนาคต ทุกฝ่ายพร้อมจะช่วยเหลือ เพราะทุกคนมีค่า และมีความสำคัญ แต่เด็กก็ต้องช่วยเหลือตัวเอง มีสติ สัมปชัญญะ ไม่ทำสิ่งที่ผิด”
พล.ต.ท.ศานิตย์ และว่า ส่วนความคืบหน้าการดำเนินคดี อยู่ระหว่างติดตามผู้กระทำผิดมาลงโทษ คาดว่าจะออกหมายจับได้ 3-4 ราย โดยผู้ที่ให้ผู้พักพิงกับผู้กระทำผิด ขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่เช่นนั้นจะถือว่ามีความผิดด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สปท.จะเปิดเรียนวันที่ 7 ส.ค.60 ตามกำหนดการณ์เดิม ส่วนอุเทนฯ จะเปิดเรียนวันที่ 15 ส.ค.60 เลื่อนจากกำหนดการณ์เดิมไป 1 สัปดาห์
** อ่านต้นฉบับเต็มได้ที่ หนังสือพิมพ์สยามรัฐ