ตามที่ สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ(สทศ.) ได้ดำเนินการจัดการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) ชั้น ม.6 ปีการศึกษา 2559 เมื่อวันที่ 18-19 ก.พ.60 ที่ผ่านมา และกำหนดประกาศผลสอบ ในวันที่ 20 มี.ค.60 ทางเว็บไซต์ สทศ. www.niets.or.th นั้น
รศ.ดร.สัมพันธ์ พันธุ์พฤกษ์ ผอ.สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (สทศ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ สทศ.ได้ประกาศผลสอบ O-NET ม.6 เรียบร้อยแล้ว โดยสรุปจำแนกตามรายสาระการเรียนรู้ในแต่ละรายวิชา ดังนี้
ภาษาไทย ผู้เข้าสอบ 378,161 คน คะแนนเฉลี่ย 52.29 คะแนน, สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ผู้เข้าสอบ 378,924 คน คะแนนเฉลี่ย 35.89 คะแนน, ภาษาอังกฤษ ผู้เข้าสอบ 378,779 คน คะแนนเฉลี่ย 27.76 คะแนน, คณิตศาสตร์ ผู้เข้าสอบ 379,064 คน คะแนนเฉลี่ย 24.88 คะแนน และวิทยาศาสตร์ ผู้เข้าสอบ 378,268 คน คะแนนเฉลี่ย 31.62 คะแนน
“โดยภาพรวมผลสอบ O-NET ม.6 ปีการศึกษา 2559 มีค่าคะแนนเฉลี่ยสูงกว่าผลสอบปีการศึกษา 2558 จำนวน 2 วิชา คือ ภาษาไทย และภาษาอังกฤษ ส่วนวิชาที่เหลือ คือ สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม, คณิตศาสตร์, วิทยาศาสตร์ มีคะแนนเฉลี่ยใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา”
ผอ.สทศ. กล่าวและว่า หากจำแนกตามรายสาระการเรียนรู้พบว่าสาระวิชาที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด ดังนี้ ภาษาไทย คือ สาระการฟัง การดู และการพูด, สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม คือ สาระภูมิศาสตร์, ภาษาอังกฤษ คือ สาระภาษากับความสัมพันธ์กับชุมชนและโลก, คณิตศาสตร์ คือ สาระจำนวนและการดำเนินการ และวิทยาศาสตร์ คือ สาระชีวิตกับสิ่งแวดล้อม
นอกจากนี้ เมื่อจำแนกตามขนาดโรงเรียน ที่ตั้ง และภูมิภาค พบว่า ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคใต้ ภาคตะวันตก โรงเรียนขนาดใหญ่พิเศษ มีคะแนนเฉลี่ยสูงสุดในการสอบทุกวิชา โรงเรียนที่ตั้งในเมืองมีคะแนนสูงกว่าโรงเรียนที่ตั้งนอกเมืองทุกวิชา และโรงเรียนในกรุงเทพ มีคะแนนเฉลี่ยสูงสุด และมีคะแนนสูงกว่าโรงเรียนที่ตั้งในภาคอื่นๆ ทุกวิชา นอกจากนี้ โรงเรียนที่อยู่ในกรุงเทพฯ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคเหนือ มีคะแนนเฉลี่ยสูงกว่าระดับประเทศทุกวิชา
อย่างไรก็ตาม สทศ.ได้จัดทำใบรายงานผลสอบ O-NET ดังนี้ ระดับรายบุคคล ระดับโรงเรียนระดับเขตพื้นที่การศึกษา ระดับศึกษาธิการจังหวัด และระดับศึกษาธิการภาค เพื่อให้นักเรียน โรงเรียน ผู้บริหารสถานศึกษา ครูอาจารย์ ต้นสังกัด และผู้ที่เกี่ยวข้องได้นำผลสอบ O-NET ไปใช้ประโยชน์ในการพัฒนาคุณภาพการเรียนการสอนและยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนให้ดียิ่งขึ้น
** อ่านต้นฉบับเต็มได้ที่ หนังสือพิมพ์สยามรัฐ