วันอังคาร ที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2565, 20.37 น.
วันที่ 8 มีนาคม 2565 นายสุภัทร จำปาทอง ปลัด กระทรวงศึกษาธิการ (ปลัด ศธ.) เปิดเผยภายหลังการประชุมผู้บริหาร สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ โดยมี ผู้บริหารสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) และคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา(ก.ค.ศ.) เพื่อหารือถึงความก้าวหน้าการฉีดวัคซีนของนักเรียน นักศึกษา ช่วงอายุ 12-18 ปี และอายุ 5-ไม่เกิน 12 ปี ซึ่งขณะนี้นักเรียน นักศึกษา ที่อายุช่วง 12-18 ปี ฉีดวัคซีนเข็ม ที่ 2 ไปแล้ว 75% อีก 25% ยังไม่ได้ฉีดเข็ม 2 ซึ่งตามแผนการฉีด ในเดือน มี.ค.นี้ ควรจะฉีดครบ 2 เข็มทุกคน เพื่อเตรียมแผนบูสเตอร์โดสเข็ม 3 ต่อไป ดังนั้น ตนจึงขอให้ต้นสังกัดสถานศึกษาและศึกษาธิการจังหวัด แต่ละจังหวัดไปช่วยสำรวจตรวจสอบว่าเด็กที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนเข็ม 2 ปัญหาความล่าช้าเกิดจากอะไรบ้าง และในวันที่ 24-25 มี.ค.นี้ ตนได้นัดประชุมติดตามผงการสำรวจร่วมกับผู้บริหารอีกครั้ง เมื่อได้ผลการสำรวจแล้วตนก็จะไปหารือกับกระทรวงสาธารณสุข เพื่อจัดมหกรรมฉีดวัคซีนเข็ม 2 แบบปูพรหมให้ครบทุกคน
“มี 7-8 จังหวัด รายงานผมมาถึงการฉีดวัคซีนเข็ม 2 ว่าไม่มีการจัดมหกรรมเฉพาะในการฉีด แต่ให้ฉีดตามสมัครใจไม่บังคับ ใครว่างก็ให้มาฉีด จึงทำให้การฉีดเข็ม 2 เกิดการลักลั่น แต่การฉีดเข็ม 1 เป็นการจัดอีเว้นบังคับฉีด จึงทำให้การฉีดเข็มแรกครบเร็วขึ้น ซึ่งการฉีดเข็ม 2 ยังไม่ครบตามแผนการฉีดก็จะทำให้ส่งผลถึงการบูสเตอร์โดสเข็ม 3 ด้วย เพราะระยะห่างของการฉีดแต่ละเข็มก็มีผล ซึ่งตามหลักการของ ศธ.ที่ตกลงไว้กับทางกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ว่าจะต้องบูสเตอร์โดสเข็มที่ 3 หลังจาก 6 เดือนผ่านไปแล้ว เช่น เริ่มฉีดเข็มแรกเดือนตุลาคม เข็ม 2 เดือน ธ.ค.2564-ม.ค.2565 ครบแล้ว ก็ต้องเตรียมบูสเข็ม 3 ให้ในช่วงเปิดเทอมหรือก่อนไปเรียนปกติ ส่วนคนที่ฉีดเข็ม 2 ไปแล้วก็บูสเตอร์โดสเข็ม 3 ไปตามแผน“ ปลัด ศธ. กล่าว
ปลัดศธ. กล่าวว่า ขณะนี้โรงเรียนต่างๆเริ่มปิดเทอมแล้ว และช่วงนี้เด็กจะไปมุ่งกับการสอบเข้าเรียนต่อชั้น ม.1,ม.4 และสอบเข้ามหาวิทยาลัย ดังนั้น การจะให้เด็กมาฉีดช่วงนี้เด็กคงไม่มา คงต้องไประดมฉีดให้ช่วงเปิดเทอมหรือก่อนเข้าไปเรียนปกติ ส่วนการฉีดวัคซีนให้กับเด็กที่อายุ 5-ไม่เกิน 12 ปี ขณะนี้ฉีดเข็มแรกไปแล้วกว่า 4.4 แสนคน จากเด็กประมาณ 3.3 ล้านคน เนื่องจากวัคซีนจัดสรรมาให้สัปดาห์ละ 3 แสนโดส กระจายไปให้จังหวัดละประมาณ 4 พันโดส ซึ่งสัปดาห์แรกเริ่มฉีดในวันที่ 1 ก.พ.ให้กับเด็กที่มี 7 โรคก่อน และวันที่ 7 ก.พ. จึงเริ่มฉีดให้กับเด็กทั่วไปซึ่งขณะนี้ฉีดไปได้แล้วกว่า 4.4 แสนคนก็ถือว่าตัวเลขการฉีดยังไม่มาก
นายสุภัทร กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ที่ประชุมได้หารือถึงการเตรียมตัวให้กับนักเรียนที่จะสอบระบบการคัดเลือกกลางบุคคลเข้าศึกษาในสถาบันอดุมศึกษา หรือ TCAS และการสอบเข้า ม.1, ม.4 รอบปกติ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในช่วงสอบ และที่ผ่านมาตนได้ประสารกับปลัดกระทรวงมหาดไทย และปลัด อว.เพื่อขอให้แต่ละจังหวัดช่วยเพิ่มห้องสอบแยกไว้รองรับเด็กที่อาจตรวจพบเชื่อโควิดและคนที่มีความเสี่ยงสูง จะได้ไม่เสียโอกาสในการสอบเข้าศึกษาต่อ
“เมื่อ 3 สัปดาห์ที่ผ่านมาผมมีตัวเลขเด็กอายุต่ำกว่า 19 ปี ติดเชื้อโควิด 21.9% ส่วนใหญ่เป็นเด็กระดับชั้นมัธยมฯต้น ที่พบว่าติดเชื้อมาจากโรงเรียน ส่วนเด็กประถมฯและมัธยมปลาย พบว่าส่วนใหญ่ติดเชื้อจากที่บ้าน แต่ขณะนี้ผมไม่มีตัวเลขเด็กที่ติดเชื้อโควิดว่าเพิ่มขึ้นหรือลดลง เนื่องจากช่วงนี้โรงเรียนปิดเทอม” ปลัด ศธ. กล่าว