ผู้ว่าฯภูเก็ตขยายเวลาปิดสถานที่เสี่ยงโควิด เริ่ม 1-14 ก.ย.นี้
เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า จากสถานการณ์โรคโควิด-19 จ.ภูเก็ต โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อ จ.ภูเก็ต ตามมติที่ประชุม ครั้งที่ 50/2564 จึงลงนามคำสั่ง ณ วันที่ 29 สิงหาคม 2564 คำสั่งที่ 4978/2564 กำหนดมาตรการปิดสถานที่หรือห้ามจัดกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่โรค สาระสำคัญ ดังนี้
มาตรการปิดสถานบริการหรือสถานที่เสี่ยงต่อการแพร่โรค
ปิดสถานบริการ ผับ บาร์ คาราโอเกะ สถานบันเทิง และสถานประกอบการที่มีลักษณะคล้ายสถานบริการ ทุกแห่งในท้องที่ จ.ภูเก็ต
ปิดสนามชนไก่ สนามกัดปลา สนามแข่งนก สนามแข่งไก่ สนามมวย หรือสถานที่จัดให้มีการเล่นการพนัน สถานที่จัดให้มีโต๊ะสนุกเกอร์ บิลเลียด หรือโต๊ะพูล ร้านเกมคอมพิวเตอร์ เกมออนไลน์ สถานศึกษาในระบบและนอกระบบทุกแห่งทุกสังกัดใน จ.ภูเก็ต ซึ่งอยู่ในสังกัดและในกำกับของกระทรวงศึกษาธิการ ในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ในสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน มหาวิทยาลัย และสถาบันกวดวิชา ทุกแห่ง
งดการจัดการเรียนการสอน และงดการจัดกิจกรรมใดๆ ที่ต้องมีการรวมกลุ่มของนักเรียนนักศึกษา ยกเว้น โรงเรียนเอกชนนอกระบบที่มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมในชั้นเรียนไม่เกิน 5 คน
โดยให้สถานศึกษา มหาวิทยาลัย สถาบันการศึกษา จัดการเรียนการสอนด้วยการไม่ต้องเข้าชั้นเรียนตามรูปแบบที่ตันสังกัดกำหนดหรือรูปแบบที่เหมาะสมตามที่กำหนด โดยปรับการเรียนการสอนเป็นระบบออนไลน์
กรณีการจัดการศึกษาแบบนำร่องในการเปิดสถานศึกษารูปแบบใหม่ของการศึกษาเอกชน ตามโครงการเปิดโรงเรียนอย่างปลอดภัย (Phuket Safety Schools Sandbox) ให้สามารถจัดการเรียนการสอนได้ โดยมติเห็นชอบของที่ประชุมคณะกรรมการการศึกษาจังหวัดภูเก็ต และปฏิบัติตามมาตรการ แนวทางปฏิบัติที่กำหนด
การห้ามจัดกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่โรค ห้ามจัดกิจกรรมซึ่งมีการรวมกลุ่มกันของบุคคลซึ่งมีจำนวนรวมกันมากกว่า 100 คน เว้นแต่เป็นกิจกรรมที่ตำเนินการโดยพนักงานเจ้าหน้าที่ หรือเป็นกิจกรรมในพื้นที่ที่กำหนดให้เป็นสถานที่กักกันโรค
ห้ามรวมกลุ่มทำกิจกรรม สังสรรค์ ดื่มสุรา หรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ในพื้นที่สาธารณะ ชายหาด สวนสาธารณะ สนามเด็กเล่น ถนนริมคลอง ถนนรอบอ่างเก็บน้ำ ขุมน้ำสาธารณะ
- ผู้ว่าฯภูเก็ตลงนามคำสั่งปิดสถานที่เสี่ยง ผับ บาร์ สถานศึกษาฯ ตั้งแต่ 17-31 ส.ค.นี้
มาตรการควบคุมแบบบูรณาการ สถานที่เสี่ยงต่อการแพร่โรค
ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลส์ หรือสถานประกอบการอื่นที่มีลักษณะคล้ายกัน ให้เปิดดำเนินการได้ตามเวลาปกติ ยกเว้น ส่วนที่เป็นตู้เกม เครื่องเล่น ร้านเกม สวนสนุก ให้งดบริการ
ร้านจำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่ม ให้บริโภคอาหารหรือเครื่องดื่มในร้านได้ตามปกติ โดยงดการจำหน่าย และงดดื่มสุรา หรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ภายในร้าน
ตลาดสด ตลาดนัด ถนนคนเดิน ให้ดำเนินการตามมาตรการป้องกันและควบคุมโรค ตามที่ทางราชการกำหนด และจำกัดจำนวนผู้เข้าใช้บริการตามขนาดของพื้นที่ 1คน ต่อ 4 ตารางเมตร
ร้านสะดวกซื้อ ให้เปิดดำเนินการได้ตั้งแต่เวลา 04.00-23.00 น. สนามกีพาหรือสถานที่เพื่อการออกกำลังกายกลางแจ้ง สวนสาธารณะ ลาน พื้นที่กิจกรรมสาธารณะโล่งแจ้ง สามารถปิดให้บริการได้ไม่เกินเวลา 21.00 น. และจัดการแข่งขันได้โดยจำกัดจำนวนผู้เข้าชม
สถานที่หรือสนามออกกำลังกายในร่ม โรงยิม ฟิตเนส โยคะ แอโรบิก คลาสออกกำลังกายแบดมินตัน สามารถเปิดให้บริการได้ไม่เกินเวลา 21.00 น. โดยจำกัดจำนวนผู้ใช้บริการตามขนาดของพื้นที่
สำหรับสถานที่ในอาคารที่ไม่มีเครื่องปรับอากาศ โล่ง อากาศถ่ายเทได้ดี ให้จำกัดจำนวนผู้ใช้บริการไม่เกินร้อยละ 75 ของพื้นที่ และพื้นที่ที่เป็นห้องปรับอากาศไม่เกินร้อยละ 50 ของพื้นที่ และผู้ให้บริการ ผู้ใช้บริการ ต้องเป็นผู้ที่ใด้รับวัคซีนครบโดส และปฏิบัติตามมาตรการป้องกันควบคุมโรคที่ทางราชการกำหนด รวมถึงมาตรการ D-M-H-T-T-A
การจัดกิจกรรมทางสังคม
ให้งดการจัดงานสังสรรค์ งานเลี้ยง งานรื่นเริง งานวันเกิด งานขึ้นบ้านใหม่ เลี้ยงรับ-ส่ง และเลี้ยงฉลองแสดงความยินดีในโอกาสต่างๆ กรณีการจัดพิธีการตามประเพณีนิยมหากไม่สามารถเลื่อนได้ เช่น งานพิธีการศพ งานอุปสมบท งานมงคลสมรส วันสำคัญทางศาสนาหรืองานบุญ ให้สามารถดำเนินการภายใต้มาตรการป้องกันโรคที่เพียงพอเพื่อลดโอกาสเสี่ยงจากการติดเชื้อ
มาตรการปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้ง
ให้หัวหน้าส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐ เจ้าของกิจการหรือผู้ประกอบการภาคเอกชน พิจารณาขยายการดำเนินมาตรการปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้ง เพื่อลดจำนวนการเดินทางของเจ้าหน้าที่และบุคลากรที่อยู่ในความรับผิดชอบเป็นระยะเวลาตามความจำเป็นเหมาะสม เพื่อป้องกันและลดโอกาสเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคติคเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ทั้งนี้ การปฏิบัติงานดังกล่าวให้เพียงพอต่อการกิจให้บริการประชาชน
ห้ามมีให้ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ของรัฐ พนักงานรัฐวิสาหกิจ ผู้บริหารและพนักงานส่วนท้องถิ่นพนักงานราชการ ลูกจ้างส่วนราชการ เดินทางออกนอกเขตพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ยกเว้น มีเหตุจำเป็นเร่งด่วน และต้องได้รับอนุญาตตามแบบที่กำหนด
การถ่ายทำภาพยนตร์และรายการโทรทัศน์ การถ่ายทำรายการโทรทัศน์ ภาพยนตร์และวีดีทัศน์ ซึ่งเมื่อรวมคนทำงานหน้าฉากและทุกแผนกแล้ว ต้องมีจำนวนไม่เกิน 100 คน และต้องไม่มีผู้ชมเข้าร่วมรายการ การยกเว้นไม่ต้องสวมหน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้า ในบางกรณี หรือบางช่วงเวลาของการถ่ายทำต้องดำเนินการตามแนวปฏิบัติสำหรับการถ่ายทำภาพยนตร์และรายการโทรทัศน์ตามที่ได้รับอนุมัติจาก ศบค.
มาตรการตรวจสอบเข้มงวดกับสถานที่หรือกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคแบบกลุ่มก้อน ให้พนักงานเจ้าหน้าที่เข้มงวดในการตรวจสอบสถานที่หรือกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรค เช่น โรงาน สถานที่พักของแรงงานต่างด้าว หรือสถานที่อื่นๆ ให้เป็นไปตามเงื่อนไข เงื่อนเวลา การจัดระบบและระเบียบรวมทั้งมาตรการป้องกันโรคที่ทางราชการกำหนด
หากผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งฉบับนี้ อาจเป็นความผิดตามมาตรา 51 ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือมาตรา 52 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปีหรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาทหรือทั้งจำทั้งปรับแห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 และอาจได้รับโทษตามมาตรา 18 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ถูกเฉิน พ.ศ.2548 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 1กันยายน ถึงวันที่ 14 กันยายน พ.ศ.2564