บิ๊ก ศธ.มั่นใจไม่เกินสิ้นเม.ย.นี้สรุปคดีทุจริตกองทุนเสมาฯ ขรก.ที่เกี่ยวข้องกับกองทุนมีโทษวินัยด้วย ด้านคณะกรรมการสืบข้อเท็จจริงฯ เผยพบความผิดปกติตั้งแต่ปี 47-48 “รจนา”โอนเงินเข้าบัญชีตัวเอง และโอนให้ ร.ต.ต.-วัด ยอดเงินเกือบ 3 ล้านบาท
วันที่ 2 เม.ย.2561 นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยถึงความคืบหน้าการตรวจสอบทุจริตกองทุนเสมาพัฒนาชีวิต ซึ่งมีเงินสูญหายไปกว่า 118 ล้านบาท นั้นนายอรรถพล ตรึกตรอง ผู้ตรวจราชการ ศธ. ในฐานะประธานคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง คาดว่าการตรวจสอบเรื่องดังกล่าวจะได้ข้อสรุปเบื้องต้นก่อนสงกรานต์นี้ และคาดว่าจะได้ข้อสรุปที่ชัดเจนไม่เกินสิ้นเดือน เม.ย. ทุกอย่างเป็นไปตามมาตรการปราบปรามและป้องปรามการทุจริต ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ซึ่งกำหนดกรอบเวลาให้สืบสวนให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน
สำหรับเรื่องนี้นอกจากนางรจนา สินที อดีตนักวิเคราะห์นโยบายและแผนชำนาญการพิเศษ สำนักกิจการการศึกษา สำนักงานปลัด ศธ. ซึ่งถูกไล่ออกจากราชการแล้ว มีใครที่เกี่ยวข้องบ้างนั้น ขณะนี้การสืบสวนยังสาวลงไปไม่ถึง และยังไม่พบหลักฐานเชื่อมโยง โดยในส่วนของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องอีกประมาณ 4 ราย หากพบว่า มีมูล ก็จะต้องถูกย้ายออกจากตำแหน่งก่อน ขั้นตอนนี้ต้องรอผลการสืบสวนฯ เพื่อให้ความเป็นธรรม
อย่างไรก็ตาม ข้าราชการที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการดำเนินงานกองทุนฯ นี้ ทั้งการเบิกจ่ายเงิน และกองคลัง แม้ว่าจะไม่เกี่ยวข้องกับการโกง แต่ปล่อยให้มีเรื่องเช่นนี้เกิดขึ้น ถือว่ามีความหละหลวม จะต้องถูกลงโทษทางวินัย ส่วนจะเป็นวินัยอย่างร้ายแรง หรือไม่ร้ายแรง ต้องรอข้อสรุปของคณะกรรมการสืบสวนฯ ต่อไป
ด้านนายอรรถพล ตรึกตรอง ผู้ตรวจราชการ ศธ. ในฐานะประธานคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงการทุจริตกองทุนเสมาพัฒนาชีวิต กล่าวว่า สำหรับความคืบหน้าการสืบสวนฯ กองทุนเสมาฯ นั้น ที่ผ่านมาได้เชิญข้าราชการที่ยังรับราชการอยู่ มาให้ข้อมูลแล้ว โดยวันที่ 5 เม.ย.นี้ จะเชิญผู้เกี่ยวข้อง ซึ่งพ้นจากราชการมาให้ข้อมูล รวมถึงนางรจนา ด้วย ส่วนผู้บริหารระดับสูง, อดีตปลัด ศธ., รองปลัดศธ.ที่เกี่ยวข้องได้ขอให้ชี้แจงมาเป็นลายลักษณ์อักษร ภายในวันที่ 10 เม.ย.นี้ โดยบางคนชี้แจงมาบ้างแล้ว
ทั้งนี้ ทางคณะกรรมการสืบสวนฯ พบประเด็นความผิดปกติเพิ่มเติม ในปี 2547 และความผิดปกติเริ่มชัดในปี 2548 เพราะมีการโอนเงินเข้าบัญชีของนางรจนา รวมถึงมีการโอนให้กับผู้ที่มียศนำหน้า ‘ร.ต.ต.’ และมีการโอนเงินให้วัดเพื่อรับทุน ซึ่งเป็นไปไม่ได้ โดยปี 2548 พบว่ามียอดการทุจริตอย่างไม่เป็นทางการถึง 2,915,000 บาท โดยภาพรวมทางบัญชีที่ถูกโกงตั้งแต่ปี 2548-2561 พบว่ามีการทุจริตรวม 110,343,2 27 บาท
ขณะเดียวกันคณะกรรมการสอบสวนฯ อยู่ระหว่างตรวจสอบพยานวัตถุ ซึ่งปลัด ศธ. ได้ตั้ง ผอ.สำนักงานกิจการศึกษาพิเศษ สำนักงานปลัดศธ. เข้ามาเป็นกรรมการสืบสวนฯเพิ่ม โดยได้เข้าไปขนทรัพย์สินทั้งหมดในห้องทำงานของนางรจนา มาตรวจสอบว่ามีอะไรเชื่อมโยงอย่างไรบ้าง
ผู้สื่อข่าวถามว่า จากการสอบสวนข้าราชการที่เกี่ยวข้องเบื้องต้นพบความเชื่อมโยงไปถึงบุคคลอื่นหรือไม่ นายอรรถพล กล่าวว่า ยังไม่ขอเปิดเผย เพราะจะเสียรูปคดี รวมถึงต้องขอข้อมูลจาก ทางคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน( ปปง.) เพื่อประกอบการวินิจฉัย ส่วนเอกสารทางการเงินที่คณะกรรมการสืบสวนฯ ได้ขอจากทางธนาคารนั้น ยังได้รับไม่ครบ เพราะบัญชีที่ปิดไปแล้ว ทางธนาคารต้องทำเรื่องขอจากสำนักงานใหญ่ ส่วนการโอนเงินโดยระบบ GIRO ซึ่งไม่มีชื่อบัญชีเป็นระบบที่ถูกต้องหรือไม่นั้น ในส่วนของธนาคารได้รับแจ้งว่า ดำเนินการเป็นปกติ แต่ในส่วนทางราชการ การโอนเงินต้องมีหลักฐานการจ่าย ทั้งนี้ คณะกรรมการสืบสวนฯ คงไม่เชิญเจ้าหน้าที่ธนาคารมาให้ข้อมูลเพิ่มเติม เพราะได้ขอให้ธนาคารชี้แจงเป็นลายลักษณ์อักษรมาแล้ว
** อ่านต้นฉบับเต็มได้ที่ หนังสือพิมพ์สยามรัฐ