เขียนวันที่
วันเสาร์ ที่ 14 ตุลาคม 2566 เวลา 21:09 น.
รมว.ยุติธรรม คืนความเป็นธรรมให้ชาวมูโนะ จ่ายเงินเยียวยากรณีโกดังพลุระเบิด 345 ราย กว่า 2.2 ล้าน พร้อมให้ความช่วยเหลือทางกฎหมาย มอบนโยบายบุคลากรชายแดนใต้ต้องนำความยุติธรรมและกฎหมายเข้าหาประชาชน
เมื่อเวลา 13.30 น. วันเสาร์ที่ 14 ต.ค.66 ที่อาคารเอนกประสงค์โรงเรียนบ้านมูโนะ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และหัวหน้าพรรคประชาชาติ พร้อมคณะ ประกอบด้วย นางพงษ์สวาท นีละโยธิน ปลัดกระทรวงยุติธรรม, น.ส.เปรมยุดา ตันติกนกพร ผอ.กองพิทักษ์สิทธิและเสรีภาพ, นายสุรไกร นวลศิริ ผอ.สำนักกองทุนยุติธรรม ได้ร่วมประชุมหารือกับหัวหน้าส่วนราชการของกระทรวงยุติธรรมทั้งส่วนกลางและระดับจังหวัด เกี่ยวกับการขับเคลื่อนงานกระทรวงยุติธรรมในพื้นที่ โดยมีผู้ร่วมประชุมกว่า 60 คน
โอกาสนี้ พ.ต.ท.ทวี ได้มอบนโยบายการทำงานของบุคลากรในสังกัดกระทรวงยุติธรรม สรุปได้ว่า กฎหมายต้องเข้าหาประชาชน ไม่ใช่ให้ประชาชนหาทางเข้าถึงกฎหมาย เพราะประชาชนแต่ละคนมีศักยภาพต่างกัน ทั้งคนมีฐานะและไม่มีฐานะ
ยกตัวอย่างเหตุการณ์ที่อิสราเอล คนสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ประมาณ 1,500 คนเดินทางไปทำงาน ทั้งที่บ้านเรางานเกษตรกรรมเยอะแยะ ทำไมเขาไม่ทำ เพราะที่อิสราเอลคนไทยไปทำงานจะได้ค่าจ้างเดือนละ 53,000 บาท และเคสเหตุการณ์โกดังเก็บดอกไม้ไฟระเบิด ก็เป็นเคสในลักษณะที่คนของทางราชการละเลยในการปฏิบัติหน้าที่ คือ ทุกอย่างถ้าบุคลากรให้ความสนใจ ให้ความสำคัญก็จะไม่มีเรื่องที่เกิดขึ้น
ต่อมา พ.ต.อ.ทวี ได้เป็นประธานในพิธีมอบเงินช่วยเหลือเยียวยาผู้เสียหายในคดีอาญา กรณีโกดังเก็บดอกไม้ไฟ ซึ่งตั้งอยู่ที่บ้านมูโนะ หมู่ 1 ต.มูโนะ ได้เกิดระเบิดเมื่อวันที่ 29 ก.ค.66 ทำให้มีผู้เสียชีวิต 11 คน ได้รับบาดเจ็บ 389 คน และบ้านเรือนได้รับความเสียหาย 649 หลัง
พิธีจัดขึ้นภายใต้กิจกรรม “คุ้มครองคน คุ้มครองสิทธิ เพื่อสร้างวิถีแห่งความเป็นธรรม” มอบเงินเยียวยาจำนวน 345 คน รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 2,241,888 บาท พร้อมทั้งได้กล่าวกับชาวตลาดมูโนะ สรุปใจความได้ว่า ตนดีใจที่ได้เดินทางมามอบเงินเยียวยาในครั้งนี้ แม้จะไม่มากนักแต่เชื่อว่าสามารถบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนได้ หากใครมีปัญหาขัดข้องในเรื่องของความช่วยเหลือด้านต่างๆ โดยเฉพาะด้านกฎหมาย เราก็ได้จัดเจ้าหน้าที่มาให้คำแนะนำปรึกษา และคาดหวังว่าเมื่อเหตุการณ์ร้ายผ่านพ้นไป ตลาดมูโนะเป็นต้องเป็นตลาดที่ทันสมัยและเป็นที่ต้องการของชาวมาเลเซียเดินทางเข้ามาซื้อหาสินค้าเหมือนเช่นในอดีตที่ผ่านมา
ต่อมา พ.ต.อ.ทวี ได้เดินทางไปยังมัสยิดดารุลฮูดา หมู่ 1 ต.กาวะ อ.สุไหงปาดี เพื่อพบปะพี่น้องประชาชน หลังได้รับตำแหน่ง รัฐมนตรียุติธรรม ซึ่งมีประชาชนในพื้นที่ ต.กาวะ และตำบลใกล้เคียง จำนวนกว่า 500 คน รอให้การต้อนรับ
พ.ต.อ.ทวี กล่าวกับพี่น้องประชาชนตอนหนึ่งว่า ตนให้ความสำคัญเรื่องการศึกษา เพราะการศึกษาสามารถสร้างคนไปสู่จุดหมายปลายทางที่วางไว้ และเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนการพัฒนา
หลังเสร็จภารกิจ ก่อนเดินทางกลับ ปรากฏว่ามีตัวแทนของประชาชนทุกสาขาอาชีพในพื้นที่ทั้งชายและหญิง มอบกระเช้าของขวัญเพื่อเป็นกำลังใจให้ พ.ต.อ.ทวี รวมถึงเป็นการรับขวัญเพื่อแสดงออกถึงความจริงใจที่ พ.ต.อ.ทวี ได้ช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่เรื่อยมา แม้ว่าในอดีตจะไม่ได้ดำรงตำแหน่งสำคัญในฝ่ายบริหารหรือรัฐบาลก็ตาม
ก่อนเดินทางกลับ พ.ต.อ.ทวี ได้มอบเงินจำนวนหนึ่งให้กับโต๊ะอิหม่ามมัสยิดดารุลฮูดา เพื่อใช้สมทบทุนในการซ่อมแซมมัสยิดและโรงเรียนตาดีกา เพื่อให้ประชาชนได้ประกอบศาสนกิจได้สะดวก รวมทั้งให้เด็กนักเรียนสามารถเรียนหนังสือที่โรงเรียนตาดีกาได้สะดวกสบายยิ่งขึ้น
การลงพื้นที่นราธิวาสของ พ.ต.อ.ทวี ในครั้งนี้ นับเป็นครั้งแรกตั้งแต่รับตำแหน่งรัฐมนตรียุติธรรม ทำให้มีแฟนคลับไปรอรับที่สนามบินนราธิวาสหลายร้อยคน บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก
ประชาชนกว่า 300 ชีวิตยังพร้อมใจกันกล่าวต้อนรับเป็นภาษามลายู “สือลามัตดาตัง” (ยินดีต้อนรับ) อีกทั้งยัง มีเสียงชื่นชมที่ พ.ต.อ.ทวี ไม่เคยลืมชาวนราธิวาส