ระบุอยู่ในขั้นตอนกฤษฎีกาต้องพิจารณาให้แล้วเสร็จในส.ค.นี้ ก่อนส่งต่อครม. และสนช. ซึ่งมีกรอบเวลาถึง 30 พ.ย.นี้เท่านั้น ตามที่นายกฯขีดเส้นต้องคลอดกระทรวงใหม่ ไม่ห่วงเรื่องเวลา ห่วงแต่ปัญหาหน่วยงานไม่ลงตัว ชี้เรื่องใหญ่ที่รออยู่คือปฏิรูปอุดมศึกษา
นพ.อุดม คชินทร รมช.ศึกษาธิการ กล่าวถึงความคืบหน้าในการจัดตั้งกระทรวงอุดมศึกษา วิจัยและนวัตกรรม ว่า ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนของคณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณา ซึ่งทราบว่า กฤษฎีกาได้ตั้งคณะกรรมการพิเศษขึ้นมา โดยมี ศ.ดร.บวรศักดิ์ อุวรรณโณ ประธานคณะกรรมการปฏิรูปด้านกฎหมาย เป็นประธาน เนื่องจากมีเวลาจำกัด ซึ่งคณะกรรมการกฤษฎีกาจะต้องพิจารณาให้แล้วเสร็จภายในสิ้นเดือนส.ค.นี้ จากนั้นจะส่งกลับไปให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณา และต้นเดือนก.ย. จะต้องส่งไปให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.)พิจารณา
ทั้งนี้ สนช.มีเวลาทำงานถึงวันที่ 30พ.ย.นี้เท่านั้น และพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ให้นโยบายไว้ชัดเจนว่า กระทรวงใหม่จะต้องเกิดขึ้นภายในวันที่ 30 พ.ย.นี้ ดังนั้น หากเรื่องนี้ผ่าน สนช. ก็สามารถตั้งกระทรวงนี้ได้ทันที ส่วนข้อกังวลว่าจะมีเวลาเพียงพอหรือไม่ ตนคิดว่าหากการเลือกตั้งเกิดขึ้นในเดือนก.พ.ปี 62ก็จะมีเวลา3เดือนในการจัดโครงสร้างและจัดสรรคน น่าจะมีเวลาเพียงพอที่จะมีกระทรวงใหม่ได้ก่อนมีการเลือกตั้ง
“ที่ยังมีปัญหาตอนนี้ คือบางหน่วยงานยังไม่ลงตัว ซึ่งในส่วนของอุดมศึกษาและกระทรวงวิทยาศาสตร์ ไม่มีปัญหา แต่ สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) และสํานักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) ซึ่งเป็นหน่วยงานอิสระที่ให้ทุนวิจัย อยากอยู่เป็นอิสระเหมือนเดิม ซึ่งผมคิดว่าทางคณะกรรมการกฤษฎีกาคงเชิญหน่วยงานเหล่านี้เข้าไปหารือเพื่อหาแนวทาง และตัดสินว่าอะไรเหมาะสมเพื่อให้กระทรวงใหม่เสร็จทันกำหนด”นพ.อุดม กล่าวและว่า
อย่างไรก็ตาม การทำงานของกระทรวงใหม่นี้จะมี 2พ.ร.บ. กำกับ คือ พ.ร.บ.การอุดมศึกษา และพ.ร.บ.วิจัยและนวัตกรรม ขณะนี้คณะกรรมการกฤษฎีกา ขอให้ตนส่ง พ.ร.บ.การอุดมศึกษา ไปให้ ครม. พิจารณาด้วย เพราะที่ผ่านมาส่งไปเฉพาะ พ.ร.บ.ชุดปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม เท่านั้น ดังนั้น ในวันที่ 7ส.ค.นี้ ตนจะนำ พ.ร.บ.การอุดมศึกษา เสนอให้ ครม. พิจารณาเห็นชอบ ส่วน พ.ร.บ. วิจัยและนวัตกรรม ที่มี พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกฯเป็นผู้รับผิดชอบ ตอนนี้ยังไม่เรียบร้อย เนื่องจากมีความเห็นแตกต่างกันอยู่ ซึ่งดูแล้วเห็นว่า พ.ร.บ.วิจัยและนวัตกรรม ไม่สามารถเข้า ค.ร.ม. พร้อมกับ พ.ร.บ. การอุดมศึกษา ได้ทัน เพราะต้องใช้เวลาในการพูดคุยเพื่อแก้ไขปัญหา แต่อย่างน้อยหาก พ.ร.บ การอุดมศึกษา นำให้ ครม.พิจารณาได้ทันแล้วก็น่าจะไม่มีปัญหา เพราะเรื่องใหญ่ของกระทรวงนี้คือการปฏิรูปอุดมศึกษาที่ครอบคุลมศาสตร์ทั้งหมดและยังครอบคลุมการทำวิจัยและนวัตกรรมด้วย
** อ่านต้นฉบับเต็มได้ที่ หนังสือพิมพ์สยามรัฐ