มทร.ธัญบุรี นำคณาจารย์ลงพื้นที่ เสริมความรู้แก่สมาชิกสหกรณ์การเกษตรสบปราบ เพื่อสร้างคลัสเตอร์สมุนไพร นำร่องขับเคลื่อน จ.ลำปาง
รศ.ดร.ประเสริฐ ปิ่นปฐมรัฐ อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) ธัญบุรี เผยว่า สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) มอบหมายให้ มทร.ธัญบุรี สานต่อกิจกรรมคลัสเตอร์สมุนไพร ภายใต้โครงการสนับสนุนเครือข่ายเอสเอ็มอี ในปี 2561เพื่อยกระดับความสามารถของผู้ประกอบการเอสเอ็มอีและเกษตรกรในกลุ่มสมุนไพร โดยพัฒนาเครือข่ายเดิมในปีแรกให้เติบโตและมีความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจให้มากยิ่งขึ้น ตามกระบวนการพัฒนาคลัสเตอร์สู่ปีที่ 2 และพัฒนาคลัสเตอร์สมุนไพรใหม่ อีก 3คลัสเตอร์ คือ ในพื้นที่จังหวัดน่าน ลำปาง และนครพนม
ด้าน น.ส.พรทิพย์ ตันติวงศ์ ผอ.วิทยาลัยการแพทย์แผนไทย มทร.ธัญบุรี กล่าวเพิ่มเติม ว่ากิจกรรมคลัสเตอร์สมุนไพร ในปี 2561 จะเน้นการนำเทคโนโลยี นวัตกรรมและงานวิจัย มาใช้เป็นแนวทางหลักเพื่อการพัฒนาทั้งในส่วนของการปลูก กระบวนการผลิต การแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและการบริหารจัดการธุรกิจ รวมถึงให้คำปรึกษาเชิงลึกและวิเคราะห์ผลิตภัณฑ์ของกิจการให้ตรงกับความต้องการของตลาด สำหรับ จ.ลำปาง มีการเปิดโครงการอบรมเติมความรู้และให้คำปรึกษาเชิงลึก ณ สหกรณ์การเกษตรสบปราบ อ.สบปราบ โดยคณาจารย์จากวิทยาลัยการแพทย์แผนไทย และคณะเทคโนโลยีการเกษตร มทร.ธัญบุรี
นายสมาน สุภัควาณิชย์ ผอ.กลุ่มส่งเสริมและพัฒนาการบริหารการจัดการสำนักงานสหกรณ์ จ.ลำปาง กล่าวถึงกิจกรรมคลัสเตอร์สมุนไพรครั้งนี้ว่าเป็นประโยชน์อย่างมาก เนื่องจากพื้นที่โดยเฉพาะ อ.สบปราบ มีพืชสมุนไพรอยู่มากมาย เกษตรกรส่วนใหญ่ก็มีองค์ความรู้พื้นฐานเดิมอยู่ การที่คณาจารย์ มทร.ธัญบุรี มาจัดโครงการให้ นับว่าเป็นการช่วยยกระดับการปลูกพืชสมุนไพรของจังหวัดให้มีคุณภาพ มีเส้นทางในการดำเนินธุรกิจต่อไป รวมถึงมีการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมเข้ามาเสริมเพื่อช่วยให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพ เพียงพอต่อความต้องการของตลาดและเป็นที่นิยม ซึ่งจะช่วยให้เกษตรกรผู้ปลูกมีรายได้เพิ่มขึ้น มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี รวมถึงขยายผลต่อไปในอำเภออื่นๆ ใน จ.ลำปาง
ขณะที่นางกรรณิกา เรืองสวัสดิ์ ผอ.กรมส่งเสริมสหกรณ์การเกษตรสบปราบ กล่าวว่าการพัฒนาและสร้างองค์ความรู้อย่างเป็นระบบดังเช่นโครงการที่จัดนี้ จะทำให้สมาชิกสหกรณ์ฯ เกิดความรู้ในมุมมองใหม่ในด้านสมุนไพร ส่งเสริมให้เกิดการใช้ในระดับครัวเรือน ขยายผลสู่การแปรรูปเพื่อจัดจำหน่ายในท้องถิ่น จังหวัดและประเทศต่อไป หวังว่าเครือข่ายสมุนไพรที่จะเกิดขึ้นนี้ ช่วยยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกพืชสมุนไพรและยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้บริโภค สหกรณ์การเกษตรสบปราบ จะเป็นแกนนำในการรับโครงการเพื่อขับเคลื่อนใน จ.ลำปางต่อไป
ด้านเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการฯ นายวิสิทธิ์ สิทธิ ผู้ปลูกสมุนไพรและจำหน่ายลูกประคบสมุนไพร เผยว่าเป็นโอกาสดีที่หลายหน่วยงานร่วมมือกัน เพื่อสร้างให้เกิดเครือข่ายสมุนไพร โดยเฉพาะผู้เชี่ยวชาญจาก มทร.ธัญบุรี ตนอยากเห็นเกษตรกรอยู่ดีกินดี ปลูกสมุนไพรแล้วมีตลาดรองรับ ส่วนผู้แปรรูปสมุนไพรนั้นมีองค์ความรู้ใหม่ ๆ เพื่อมาพัฒนาผลิตภัณฑ์สมุนไพร ขณะที่ผู้บริโภคคนไทยก็สามารถซื้อหามาใช้ในราคาที่น่าพอใจ อยากให้สมุนไพรไทย มีคุณภาพควบคู่กับการวิจัยและพัฒนา เพื่อจะได้รับความเชื่อมั่นในเรื่องความปลอดภัยให้มากยิ่งขึ้น
** อ่านต้นฉบับเต็มได้ที่ หนังสือพิมพ์สยามรัฐ