สนองพระดำริ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ องค์ประธานมูลนิธิร่วมจิตต์น้อมเกล้า ฯ ช่วยเด็กและเยาวชนที่ขาดโอกาสทางการศึกษา โดยกระทรวงมหาดไทย และสมาคมแม่บ้านมหาดไทย ร่วมกับ ผวจ.และประธานแม่บ้านมหาดไทยทุกจังหวัดลุยช่วยให้ได้รับการศึกษาเป็นคนดีของชาติ
เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน เวลา 13.30 น. ที่ห้องประชุมราชบพิธ อาคารดำรงราชานุสรณ์ กระทรวงมหาดไทย นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ในฐานะที่ปรึกษาคณะกรรมการฝ่ายรณรงค์หาทุน มูลนิธิร่วมจิตต์น้อมเกล้าฯ เพื่อเยาวชน ในพระบรมราชินูปถัมภ์ พร้อมด้วย ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย ในฐานะรองประธานกรรมการอำนวยการ ประธานคณะกรรมการฝ่ายรณรงค์หาทุนการศึกษา และประธานคณะกรรมการอุปการะเยาวชนส่วนภูมิภาค มูลนิธิร่วมจิตต์น้อมเกล้าฯ เพื่อเยาวชน ในพระบรมราชินูปถัมภ์ เป็นประธานการประชุมประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดในฐานะประธานคณะกรรมการอุปการะเยาวชนประจำจังหวัด โดยมี ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. พรทิพย์ พุกผาสุก เลขาธิการมูลนิธิฯ นางทิพวิภา สุวรรณรัฐ ประธานคณะกรรมการฝ่ายทุนการศึกษา มูลนิธิ ฯ นางสาวกรรณภรณ์ วงศ์ปิยะกุล ผู้ช่วยเลขาธิการมูลนิธิฯ นางกุลทรัพย์ ชื่นโกสุม นางจิณณารัชช์ สัมพันธรัตน์ นางกุสุมาล พงษ์สิทธิถาวร นางจิรวรรณ เพ็ญพาส ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. ศศิธร จันทมฤก อุปนายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัด ทุกจังหวัด และคณะกรรมการมูลนิธิฯ ร่วมประชุม ณ ที่ตั้ง และร่วมประชุมผ่านระบบการประชุมออนไลน์ (Zoom Meeting)
ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย กล่าวว่า พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ องค์ประธานมูลนิธิฯ ทรงมีความห่วงใยเด็กและเยาวชนที่อาศัยอยู่ในถิ่นทุรกันดาร และขาดโอกาสในการศึกษาเล่าเรียน ให้ได้รับทุนการศึกษาเพื่อใช้ในการพัฒนาด้านการศึกษา และพัฒนาตนเอง ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี และกลับมาทำคุณประโยชน์ให้กับประเทศชาติ ให้กับสังคมไทย ซึ่งวันนี้เป็นการประชุมประธานคณะกรรมการอุปการะเยาวชนประจำจังหวัดของมูลนิธิร่วมจิตต์น้อมเกล้า ฯ เพื่อเยาวชน ในพระบรมราชินูปถัมภ์ ประจำปี 2565 โดยประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดทุกจังหวัดเป็นผู้ทำหน้าที่ดังกล่าว เพื่อร่วมกันสนองพระดำริฯ ส่งความปรารถนาดี สร้างโอกาสทางการศึกษา สร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับเด็กและเยาวชน ซึ่งในด้านการบริหารจัดการทุนการศึกษา มูลนิธิฯ ได้รับการสนับสนุนจากศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย จัดทำระบบสารสนเทศเพื่อการบริหารจัดการติดตามทุนการศึกษาประจำจังหวัดของมูลนิธิฯ พร้อมทั้งมอบหมายเจ้าหน้าที่ปรับปรุงระบบให้มีข้อมูลที่ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน นอกจากนี้ ได้รับทราบว่า ท่านผู้ว่าราชการจังหวัด และท่านประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัด ได้มีการลงพื้นที่เพื่อตรวจเยี่ยม ติดตาม การเรียน การใช้ชีวิต ของเด็กและเยาวชนที่ได้รับทุนการศึกษา รวมถึงครอบครัวของเด็กและเยาวชนมาโดยตลอด จึงขอขอบคุณและขอให้ได้ลงพื้นที่เช่นนี้อย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยกันดูแลสารทุกข์สุขดิบและช่วยเหลือในด้านอื่น ๆ หากตัวเด็กและเยาวชนรวมถึงครอบครัวต้องประสบกับปัญหาที่อาจส่งผลกระทบต่อการเรียนหนังสือของผู้ที่ได้รับทุนของมูลนิธิฯ
นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า พวกเราคนไทยโชคดีที่ชีวิตนี้ได้เกิดมาอยู่ใต้ร่มพระบารมี ใต้ร่มพระบรมโพธิสมภารอันเป็นร่มฉัตรปกเกล้าปกกระหม่อมของสมเด็จพระบูรพกษัตริยาธิราชเจ้า และพระบรมวงศานุวงศ์แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ทุกพระองค์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งนับตั้งแต่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่ทรงห่วงใยลูกหลานของพวกเราคนไทยทุกคน โดยทรงมีพระราชประสงค์ให้เด็กและเยาวชนได้รับการศึกษาที่ดี และทรงทุ่มเทพระราชทรัพย์ในด้านการศึกษาเป็นจำนวนมากจนนับค่าไม่ได้ ทั้งผู้ที่มีโอกาสทางการศึกษา และผู้ที่ด้อยโอกาส ซึ่งหากนักเรียน นิสิต นักศึกษาคนใดเรียนเก่งและสอบได้เป็นลำดับที่ 1 ของคณะวิชา ก็จะได้รับพระราชทานทุนภูมิพลจนจบระดับชั้นสูงสุด ส่วนหากคนใดที่ครอบครัวลำบากยากแค้นอาศัยอยู่ในถิ่นทุรกันดารห่างไกล เกินความสามารถของคุณพ่อคุณแม่ในการส่งเสียเลี้ยงดู ก็ทรงพระมหากรุณาโปรดเกล้าฯ ให้มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ดำเนินการด้านการจัดการศึกษาให้กับเด็กและเยาวชนกลุ่มดังกล่าว และมีการจัดตั้งโรงเรียนราชประชานุเคราะห์เป็นโรงเรียนประจำในพื้นที่จังหวัดต่าง ๆ
ซึ่งต่อมากระทรวงศึกษาธิการได้รับโอนภารกิจเพื่อสนองพระราชดำริฯ รวมไปถึง “มูลนิธิร่วมจิตต์น้อมเกล้า ฯ เพื่อเยาวชน ในพระบรมราชินูปถัมภ์” ที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงรับไว้ในพระบรมราชินูปถัมภ์ และพระมหากรุณาธิคุณเหล่านี้ ได้รับการสืบสาน รักษา และต่อยอด โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รวมทั้งได้รับพระมหากรุณาจากพระบรมราชวงศ์ อันได้แก่ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ทรงเป็นประธานก่อตั้งมูลนิธิฯ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเป็นประธานที่ปรึกษามูลนิธิฯ และในปัจจุบัน พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ ทรงเป็นองค์ประธานมูลนิธิฯ ด้วยเพราะพระบรมราชวงศ์ทุกพระองค์ทรงมีสายพระเนตรที่ยาวไกล มีน้ำพระราชหฤทัยที่เปี่ยมล้นด้วยพระเมตตาอันลึกซึ้งว่า “การศึกษาเป็นรากฐานของชีวิตที่จะทำให้เด็กเติบใหญ่เป็นผู้ใหญ่ที่สามารถดูแลตนเอง ครอบครัว สังคม ประเทศชาติของเราได้” ดังนั้น พวกเราทุกคนจึงโชคดีที่มีโอกาสได้ดำรงตำแหน่งนายกเหล่าชาดจังหวัดและประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัด ทำหน้าที่ ประธานคณะกรรมการอุปการะเยาวชนประจำจังหวัดของมูลนิธิฯ เพราะหน้าที่นี้เป็นหน้าที่สำคัญที่จะได้สนองพระมหากรุณาธิคุณ ทำให้เด็กและเยาวชนไทยที่ขาดโอกาส ได้รับทุนการศึกษาเพื่อได้เรียนหนังสืออย่างมีคุณภาพ มีมาตรฐาน และได้รับการพัฒนาคุณภาพชีวิตให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี อันจะส่งผลให้เติบโตมาเป็นพลเมืองที่ดีของประเทศชาติ เป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศชาติให้มีความมั่นคง ความรุ่งเรือง สถาวรตลอดไป
“ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดในฐานะผู้ช่วยดูแลเด็กและเยาวชนในพื้นที่ ต้องลงพื้นที่ไปเยี่ยม ไปพบปะ ไปช่วยเหลือ เป็นกำลังใจ และขณะเดียวกัน เด็ก ๆ ที่ได้รับทุนการศึกษาอาจจะกำลังประสบความเดือดร้อนเรื่องอื่น ๆ ประธานแม่บ้านมหาดไทยจะได้ระดมสรรพกำลังช่วยดูแลทั้งเรื่องที่อยู่อาศัย สุขภาพพลานามัย โดยการตรวจเยี่ยมไม่จำเป็นต้องเป็นคณะใหญ่ อาจจะมอบหมายทีมงานในพื้นที่ เช่น นายอำเภอ สมาชิกเหล่ากาชาด แวะเวียนไปเยี่ยมบ่อย ๆ ด้วยความรัก ความห่วงใย ความตั้งใจ ในการสนองพระดำริเพื่อดูแลเด็กที่พวกเราทุกคนอยากให้เขามีโอกาสที่ดีของชีวิต และรายงานผลการตรวจเยี่ยมเยาวชนให้มูลนิธิทราบทุกครั้ง นอกจากนี้ ต้องประสานครูให้ช่วยดูแลเด็กขณะใช้ชีวิตในโรงเรียน ทั้งสุขภาพกาย สุขภาพใจ ประคับประคองด้วยความรัก ความอบอุ่น และที่สำคัญ คือ การติดต่อสื่อสารกับครูเรื่องผลการศึกษา ความประพฤติ รวมทั้งช่วยกันเผยแพร่วัตถุประสงค์และผลการดำเนินงานของมูลนิธิฯ เพื่อทำให้สาธารณชนได้ซาบซึ้ง เพื่อที่เข้ามามีส่วนร่วมกับมูลนิธิในการทำกิจกรรมดูแลเด็กในโอกาสต่อไป” นายสุทธิพงษ์ฯ กล่าวเน้นย้ำ
ด้าน นางทิพวิภา สุวรรณรัฐ ประธานคณะกรรมการฝ่ายทุนการศึกษา มูลนิธิร่วมจิตต์น้อมเกล้า ฯ เพื่อเยาวชน ในพระบรมราชินูปถัมภ์ กล่าวว่า มูลนิธิฯ ขอขอบคุณกระทรวงมหาดไทยและสมาคมแม่บ้านมหาดไทยที่ได้ให้การสนับสนุนมูลนิธิตั้งแต่เริ่มก่อตั้งต่อเนื่องตลอดมากว่า 40 ปี ครอบคลุมทั้งด้านการจัดทำและพัฒนาระบบติดตามทุนการศึกษา การติดตามและประสานงานเอกสาร การส่งเงินทุนการศึกษา และการจัดกิจกรรมหาทุนให้มูลนิธิฯ โดยมีท่านสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย และ ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย เป็นกำลังหลักในการขับเคลื่อนฯ เช่น โครงการจัดสร้างพระกริ่ง เหรียญ “พระพุทธโสธรรุ่นร่วมจิตต์น้อมเกล้า ฯ 60” โครงการจัดเทศน์การกุศล “77 จังหวัด รวมใจ…เทศน์การกุศลเพื่อเยาวชนไทยปี 2561 การจัดทำเหรียญพระพุทธโสธรหลังปีสิบสองนักษัตร และพญาครุฑรุ่น “ร่วมจิตต์น้อมเกล้าฯ” ปี 2562 และการจัดโครงการสานพลังท้องถิ่นไทย ถวายพ่อของแผ่นดิน เดิน-วิ่ง มินิฮาล์ฟมาราธอนเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก 4 พฤษภาคม 2562 ทำให้มีเงินทุนเพื่อเป็นทุนการศึกษารวมกว่า 89 ล้านบาท นอกจากนี้ ในด้านการให้ทุนการศึกษาแก่เด็กและเยาวชนในทุกจังหวัดทั่วประเทศ โดยนับตั้งแต่ก่อตั้งมูลนิธิ ได้เริ่มให้ทุนการศึกษาตั้งแต่ปีแรกแห่งการก่อตั้งมูลนิธิ คือ ปีการศึกษา 2525 จำนวน 2,525 ทุน เป็นเงินปีละ 5 ล้านบาท โดยให้ทุนทุกระดับในทุกจังหวัดทั่วประเทศ และตั้งแต่ปีการศึกษา 2564 มูลนิธิได้ให้ทุนการศึกษาแก่เด็กและเยาวชนผู้รับทุนปีละประมาณ 3,000 กว่าทุน เป็นเงินปีละประมาณ 10 ล้านบาท ซึ่งเมื่อรวมแล้วได้ให้ทุนการศึกษาแก่เยาวชนไปแล้วทั้งสิ้นกว่า 32,000 ทุน เป็นเงินทั้งสิ้นกว่า 252 ล้านบาท
นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า ขอให้ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดทุกจังหวัดร่วมกับท่านผู้ว่าราชการจังหวัดปลุกระดมให้ทีมงานทุกองคาพยพ ช่วยกันสื่อสารประชาสัมพันธ์สร้างความรับรู้และความร่วมมือของทุกภาคีเครือข่ายในพื้นที่จังหวัด ได้ร่วมกันจัดกิจกรรมเพื่อระดมทุนการศึกษาเพื่อทำให้มูลนิธิฯ มีเงินทุนดูแลลูกหลานของพวกเรา และในขณะเดียวกัน ต้องหมั่นหาโอกาสลงพื้นที่ไปเยี่ยมไปดูแลเด็กและเยาวชน ไปดูแลครอบครัว และประสานติดตามด้านผลการเรียนกับครูที่ปรึกษา อาจารย์ที่ปรึกษาของเด็กและเยาวชนในการอุปการะ เพื่อเราได้มั่นใจได้ว่าเด็กของเรา ลูกหลานของเราทุกคน จะมีโอกาสดีของชีวิต ตามพระดำริของพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ องค์ประธานมูลนิธิฯ และความตั้งใจของพวกเราทุกคน เพราะในระหว่างปีที่ลูกหลานและครอบครัวใช้ชีวิตอาจจะประสบปัญหาความเดือดร้อนด้านอื่น ๆ ที่ไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยตนเอง พวกเราทุกคนจะได้มีโอกาสช่วยดูแลเขาให้ได้มีโอกาสดีในชีวิตและเป็นพลเมืองดีที่เป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศชาติให้มีความมั่นคงอย่างยั่งยืนต่อไป
กองสารนิเทศ สป.มท.
ครั้งที่ /2565
วันที่ 4 มิ.ย. 2565
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก
Line @Matichon ได้ที่นี่