มทส.ติดอันดับ 2 ของมหา’ลัยไทย 2 ปีซ้อน ในเวทีมหาวิทยาลัยสีเขียวที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมระดับโลก จากผลการจัดอันดับ UI GreenMetric World University Ranking 2015
ศ.ดร.ประสาท สืบค้า อธิการบดี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (มทส.) เปิดเผยว่า UI Green Metric World University Ranking คือการจัดอันดับสถาบันการศึกษาสีเขียวที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมระดับโลกซึ่งจัดทำโดยมหาวิทยาลัยอินโดนีเซีย (University of Indonesia : UI) เริ่มตั้งแต่ปี 2010 เป็นต้นมา เกณฑ์การจัดอันดับของการเป็นมหาวิทยาลัยสีเขียวของ UI ถือเป็นเกณฑ์มาตรฐานหนึ่งที่ได้รับการยอมรับทั่วโลก เป็นเกณฑ์ชี้วัด ที่แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของมหาวิทยาลัยในการบริหารจัดการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและการพัฒนาที่ยั่งยืน
โดยมีเกณฑ์การประเมิน 6 ด้าน คือ ที่ตั้งและโครงสร้างพื้นฐาน การจัดการพลังงานและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การจัดการของเสีย การจัดการน้ำ การขนส่งที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และความสามารถในการให้การศึกษาด้านสิ่งแวดล้อมและการพัฒนาที่ยั่งยืน
โดยครั้งนี้ มทส. ได้เข้าร่วมการจัดอันดับเป็นปีที่ 4 มีมหาวิทยาลัยทั่วโลกจำนวน 516 แห่งได้รับการจัดอันดับ โดย มทส. ได้รับการจัดอันดับที่ 102 ของโลก และเป็นอันดับ 2 ของประเทศไทย ได้คะแนนรวม 5,678 คะแนน รองจากมหาวิทยาลัยมหิดล สำหรับอันดับที่ 3, 4, และ 5 ได้แก่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี และมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ตามลำดับ
“การประกาศผลการจัดอันดับในครั้งนี้ มีมหาวิทยาลัยต่างๆ ทั่วโลกได้ให้ความสำคัญและตื่นตัวในการพัฒนาการเป็นมหาวิทยาลัยสีเขียวมากขึ้นกว่าทุกปี มหาวิทยาลัยที่ได้ประกาศนโยบาย “มหาวิทยาลัยเขียวสะอาด” (Green and Clean University) ภายใต้แนวคิด เขียวคือชีวิต สะอาดคือจิตใจ สะอาดกายสบายใจ มาตั้งแต่ปี 2537 ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา มหาวิทยาลัยได้พัฒนาพลิกฟื้นป่าเสื่อมโทรม 7,000 ไร่ ให้เป็นป่าอุดมสมบูรณ์ และเพิ่มพื้นที่สีเขียวภายในมหาวิทยาลัยให้มีความร่มรื่นน่าอยู่น่าอาศัย หรือเป็น “มหาวิทยาลัยในรีสอร์ท” เกิดผลสัมฤทธิ์ในเชิงประจักษ์โดยมีอาคารที่ได้รับรางวัลระดับประเทศ เช่น สำนักงานส่วนอาคารสถานที่ได้รับรางวัลสำนักงานสีเขียว ระดับดีเยี่ยม (G ทอง) ประจำปี 2558 และอาคารสุรพัฒน์ 1 เทคโนธานี ได้รับรางวัลสำนักงานสีเขียว ระดับดี (G ทองแดง) ประจำปี 2559 จากกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นต้น”ศ.ดร.ประสาท กล่าว
** อ่านต้นฉบับเต็มได้ที่ หนังสือพิมพ์สยามรัฐ