คอลัมน์ “ด้วยสมองและสองมือ”
การแยกอัตลักษณ์ตัวบุคคลในปัจจุบัน ส่วนใหญ่จะใช้ลักษณะทางชีวภาพในการจำแนกเป็นหลัก เช่น ภาพลายพิมพ์นิ้วมือ ภาพถ่ายดวงตา และภาพใบหน้า ซึ่งข้อมูลทางชีวภาพเหล่านี้ไม่สามารถใช้กับระบบกล้องวงจรปิดได้
เนื่องจากมีข้อจำกัดหลายอย่าง เช่น ลายนิ้วมือต้องการการสัมผัสกับอุปกรณ์อ่าน ดวงตาไม่สามารถถูกอ่านในกล้องคุณภาพต่ำและในระยะไกล ใบหน้าไม่สามารถถูกบันทึกได้ในบางมุมกล้อง
ผศ.ดร.วรพันธ์ คู่สกุลนิรันดร์ คณะเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร มหาวิทยาลัยมหิดล จึงได้พัฒนาวิธีการและโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ให้สามารถทำความเข้าใจ ทั้งภาพและวิดีโอโดยอัตโนมัติได้ ด้วยการระบุอัตลักษณ์และจดจำบุคคลโดยใช้รูปแบบการเดินภายใต้การไม่จำากัดเงื่อนไขและสภาพแวดล้อมของการเดิน
โดยในงานวิจัยนี้ได้นำลักษณะทางชีวภาพทางเลือกนั่นคือ “รูปแบบการเดิน” มาใช้ในการระบุตัวบุคคล ซึ่งได้ผ่านการศึกษาแล้วว่าเป็นหนึ่งในข้อมูลเฉพาะของบุคคล
ดร.วรพันธ์ กล่าวว่า ในช่วงแรกที่พัฒนาโปรแกรมดังกล่าว และได้ทดสอบกับข้อมูลในห้องทดลองแล้ว ให้ความแม่นยำที่สูงมาก แต่เมื่อนำมาทดสอบกับข้อมูลในสภาวะจริงที่มีการเปลี่ยนแปลงของเงื่อนไข และสภาพแวดล้อมของการเดิน เช่น ความเร็วของการเดิน ทิศทางของการเดิน และเสื้อผ้าที่สวมใส่ ทำให้ความแม่นยำในการจดจำลดลง
“เราจึงวิจัยต่อยอดในการระบุอัตลักษณ์โดยใช้รูปแบบการเดินภายใต้การไม่จำกัดเงื่อนไขและสภาพแวดล้อมของการเดิน โดยดึงข้อมูลภาพและวิดีโอที่มีความคงที่ในรูปแบบของ spatial-temporal description ซึ่งถือเป็นการใช้เทคนิคการคำนวณขั้นสูงในการประมวลผลภาพ จนสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้จริงในระบบการรักษาความปลอดภัยด้วยกล้องวงจรปิด เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในพื้นที่ที่ต้องการ
เนื่องจากวิธีการที่พัฒนามาใหม่นี้ ถูกคิดค้นบนพื้นฐานของการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขต่างๆ ที่สามารถเกิดขึ้นได้ในสถานการณ์จริง และสามารถนำไปใช้เป็นส่วนหนึ่งในการสร้าง smart city เมืองอัจฉริยะ โดยเพิ่มความฉลาดแบบอัตโนมัติให้กับระบบกล้องวงจรปิด ในการใช้ข้อมูลไบโอแมทริกซ์ในการระบุอัตลักษณ์บุคคล สร้างความแม่นยำในการใช้รูปแบบการเดิน และภาพใบหน้าประกอบกันได้”
ผลงาน “การระบุอัตลักษณ์และจดจำบุคคลโดยใช้รูปแบบการเดินภายใต้การไม่จำกัดเงื่อนไขและสภาพแวดล้อมของการเดิน” เพิ่งได้รับรางวัลผลงานวิจัย ระดับดี สาขาเทคโนโลยีสารสนเทศและนิเทศศาสตร์ ในงาน “วันนักประดิษฐ์” ประจำปี 2562 จากสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.)
** อ่านต้นฉบับเต็มได้ที่ หนังสือพิมพ์สยามรัฐ