กสศ.ลงพื้นที่ติดตามตรวจสอบกรณีที่มีการเผยแพร่คลิปเสียงในสื่อออนไลน์ ที่ระบุว่าเป็นของผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งหนึ่งกำลังประชุมกับครูเรื่องเงินทุนเสมอภาค ที่กสศ.จัดสรรให้กับนักเรียนและสถานศึกษา โดยมีการหารือที่ทำให้เข้าใจว่าจะมีการให้นักเรียนเซ็นชื่อรับเงิน 800 บาท แต่ให้รับจริง 400 บาท ตามที่ได้เคยเสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุด นางสาวชูสะอาด กันธรส ผู้อำนวยการสำนักบริหารเงินอุดหนุนผู้ขาดแคลนทุนทรัพย์ กสศ. กล่าวว่า กสศ. ไม่ได้นิ่งนอนใจในสิ่งที่เกิดขึ้นเราต้องปกป้องผลประโยชน์ของเด็ก ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีความยากลำบากอย่างมาก และพร้อมรับฟังข้อเท็จจริงจากทุกฝ่าย โดยได้ประสานกับผู้ที่เกี่ยวข้องเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงในกรณีดังกล่าว
ทั้งนี้ เมื่อวันศุกร์ที่ 19 กรกฎาคม กสศ.ลงพื้นที่โรงเรียนบ้านหนองทุ่มโนนหาดวิทยา อ.ชุมพวง จ.นครราชสีมา พบกับนายจักรี บุญเที่ยงผู้อำนวยการโรงเรียน และนางมณิดา ชนะชัย คุณครูชำนาญการพิเศษ ซึ่งยอมรับว่าเป็นเจ้าของเสียงที่อยู่ในคลิป
เบื้องต้นจากคำชี้แจงของทางโรงเรียน การตรวจสอบเอกสารรายงานการเงิน พบข้อเท็จจริงดังนี้ ปีการศึกษา 2561 กสศ.จัดสรรเงินอุดหนุนนักเรียนทุนเสมอภาครายคนจำนวน 800 บาทต่อภาคเรียนหรือ 1,600 บาทต่อปีการศึกษา โรงเรียนบ้านหนองทุ่มโนนหาดวิทยา มีนักเรียนยากจนพิเศษจำนวน 59 คน กสศ.โอนเงินอุดหนุนนักเรียนทุนเสมอภาคครบถ้วน ผ่านบัญชีธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ 3 ครั้ง ยอดทั้งหมด 94,400 บาท ครั้งที่1วันที่ 28 ธันวาคม 2561 จำนวน 68,400 บาท ครั้งที่ 2 วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2562 จำนวน 22,800 บาท โดย 2 ยอดนี้เป็นเงินอุดหนุน สำหรับนักเรียนทุนเสมอภาค จำนวน 57 คน ต่อมาครั้งที่ 3 วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2562 กสศ.โอนเงินเอีก จำนวน3,200 บาท สำหรับนักเรียนที่ได้รับการคัดกรองเพิ่มเติมอีก 2 คน
นางสาวชูสะอาด กล่าวว่า เงินอุดหนุนนักเรียนคนละ1,600 บาท แบ่งเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนที่1 เงินอุดหนุนตรงไปที่นักเรียนสำหรับเป็นค่าครองชีพจำนวนคนละ 800 บาท ซึ่งกรณีโรงเรียนนี้ ผู้ปกครองจะรับเงินสดผ่านโรงเรียน โดยจัดสรรทั้งสิ้น 2 ครั้ง คือ ครั้งที่ 1 วันที่ 17 มกราคม 2562 คนละ 600 บาท ครั้งที่ 2 วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2562 คนละ 200 บาท
ส่วนที่ 2 เงินอุดหนุนกิจกรรมพัฒนาทักษะอาชีพนักเรียนและค่าอาหารซึ่งกสศ.จัดสรรตรงให้กับโรงเรียนไปบริหารจัดการ อีก 800 บาท ซึ่งเป็นเงินที่ถูกพูดถึงในคลิปเสียง จากการประชุมครูช่วงต้นเดือนมีนาคม 2562 โดยมีการหารือเรื่องการจ่ายเงินอุดหนุนในส่วนที่ 2 ที่ให้โรงเรียนบริหารจัดการ
ทั้งนี้ กสศ.ตรวจสอบพบว่า โรงเรียนได้นำเงินจำนวนดังกล่าวจ่ายให้เด็กเป็นค่าอาหารเช้าทั้ง 59 คน และเมื่อตรวจสอบหลักฐานการเงินพบว่า นักเรียนได้เซ็นรับเงินไปแล้ว คนละ 400 บาท เมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2562 ขณะที่อีก 400 บาท โรงเรียนได้รายงานไว้เช่นกัน ว่า ใช้ไปในกิจกรรมพัฒนาทักษะอาชีพในเรื่องการสอนตัดผมและการทำขนมไทย
“เบื้องต้นกสศ.ยังได้ลงพื้นที่สอบถาม ไปยังผู้ปกครองนักเรียนทุนเสมอภาคของโรงเรียนดังกล่าวก็ได้รับคำยืนยันว่าได้รับเงินอุดหนุนในส่วนที่ 1 จำนวน 800 บาทครบถ้วนจริงตามที่ปรากฎในหลักฐานการเงิน อย่างไรก็ตามในอนาคตกสศ.ได้วางมาตรการเพื่อป้องกันความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น เช่น ความร่วมมือกับธนาคารแห่งประเทศไทย ในการเปิดบัญชีเงินฝากขั้นพื้นฐานให้แก่นักเรียนทุนเสมอภาคเพื่อสามารถโอนตรงให้แก่นักเรียนเป็นรายบุคคล”
นางสาวชูสะอาด กล่าวว่า กรณีดังกล่าวอาจเกิดจากการที่ผู้ที่เกี่ยวข้องบางส่วน ยังไม่เข้าใจหลักเกณฑ์หรือแนวทางการใช้เงินจ่ายอุดหนุนของกสศ.จึงทำให้เกิดความเข้าใจผิดขึ้น ทั้งนี้ เมื่อทราบถึงปัญหาดังกล่าว สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) และเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเขต 7 ได้เข้าไปตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้วเมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม ที่ผ่านมา และได้ลงบันทึกไว้ในสมุดตรวจราชการว่าการดำเนินการของโรงเรียนถูกต้องตามระเบียบและหลักเกณฑ์ที่กสศ.กำหนด
“จากประเด็นที่เกิดขึ้น สะท้อนว่ากลไกการคัดกรองและการตรวจสอบอย่างมีส่วนร่วมที่กสศ.ได้ประสานร่วมกับทาง สพฐ. เขตพื้นที่การศึกษา สถานศึกษา มาโดยตลอดนั้นจะช่วยเป็นจุดคานงัด คอยสอดส่องให้กระบวนการเงินอุดหนุนของกสศ.มีความโปร่งใส มีจุดเฝ้าระวังในในทุกระดับ และมั่นใจอย่างยิ่งว่า บทบาทของเขตพื้นที่การศึกษา ครูในทุกโรงเรียน ผู้บริหารสถานศึกษา ผู้ปกครอง มีบทบาทสำคัญในการช่วยประสานความเข้าใจ ในการใช้ทุนเสมอภาคอย่างตรงตามจุดประสงค์ และเป็นกำลังสำคัญที่จะช่วยกันเป็นหูเป็นตารักษาผลประโยชน์ให้กับนักเรียน ทั้งนี้ หากมีประเด็นที่ต้องตรวจสอบ หรือข้อสงสัยใดสามารถติดต่อได้ที่ศูนย์ข้อมูลนักเรียนทุนเสมอภาค 02 079 5475 ต่อ 1 ในวันและเวลาราชการหรือที่ Facebook : www.facebook.com/cctthailand” นางสาวชูสะอาด กล่าวทิ้งท้าย
** อ่านต้นฉบับเต็มได้ที่ หนังสือพิมพ์สยามรัฐ