กรณีเรียกรับโดยเฉพาะเงินบริจาค ถือเป็นเงินสินบน มีโทษอาญา-ป.ป.ช. / 5 เม.ย. กศจ.กรุงเทพฯ ชี้ชะตา ผอ.สามเสน
วันที่ 3 เม.ย.2561 นายบุญรักษ์ ยอดเพชร เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยความคืบหน้ากรณีที่ นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการ เตรียมใช้มาตรการปราบปรามและป้องปรามการทุจริต ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ดำเนินการให้นายวิโรฒ สำรวล ผอ.โรงเรียนสามเสนวิทยาลัย ออกจากราชการไว้ก่อน หลังคณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรง สรุปเบื้องต้น ว่ามีมูลผิดวินัยอย่างร้ายแรง ว่าตนได้หารือกับนายการุณ สกุลประดิษฐ์ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) แล้ว ซึ่งทางปลัด ศธ.ได้แจ้งให้ทราบว่า จะมีการนัดประชุมคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด (กศจ.) กรุงเทพฯ ในเร็ว ๆ นี้ ดังนั้น จึงคิดว่าการดำเนินการเรื่องนี้ควรให้เป็นไปตามกระบวนการอาจจะไม่ต้องใช้มาตรการของ คสช. เพราะใช้เวลาไม่ถึง 7 วัน ก็จะสามารถดำเนินการได้ตามขั้นตอนปกติ ซึ่งตนได้รายงานเรื่องนี้ให้ นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการ รับทราบแล้ว
“หากดำเนินการตามมาตรการของ คสช. การลงนามให้ออกจากราชการไว้ก่อน เป็นอำนาจของเลขาธิการกพฐ.ในฐานะหัวหน้าส่วนราชการ โดยจะดำเนินการเมื่อรับทราบข้อมูล แต่จนถึงเวลานี้ผมก็ยังไม่ได้รับข้อมูลในเรื่องดังกล่าว และทราบจากนายการุณ ว่าจะมีการนัดประชุม กศจ. กรุงเทพฯ เร็ว ๆ นี้ ดังนั้นจึงไม่ต้องใช้มาตรการของคสช. เพราะใช้เวลาไม่ถึง 7 วัน ก็จะสามารถดำเนินการได้ตามกระบวนการปกติ ”นายบุญรักษ์ กล่าวและว่า ส่วนนายวิโรฒ จะมีโทษไล่ออกหรือปลดออกจากราชการ นั้น ตนไม่ขอออกความเห็น เพราะจะไปก้าวล่วงอำนาจของกศจ. กรุงเทพฯ
ด้านนายการุณ กล่าวว่า ตนนัดประชุม กศจ.กรุงเทพฯ วันที่ 5 เม.ย.นี้ ซึ่งจะมีการนำผลการสอบสวยวินัยร้ายแรงนายวิโรฒ เข้าพิจารณาในที่ประชุมด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายบุญรักษ์ ได้ลงนามในหนังสือที่ ศธ 04009/ว 1819 เรื่อง มาตรการป้องกันการเรียกรับทรัพย์สินหรือประโยชน์ตอบแทน เพื่อโอกาสในการเข้าเรียนในสถานศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ถึงผู้อำนวยสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) ทั่วประเทศ โดยอ้างถึงมาตรการ ป้องกันการเรียกรับทรัพย์สินหรือประโยชน์ตอบแทน เพื่อโอกาสในการเข้าเรียนในสถานศึกษา “แป๊ะเจี๊ยะ” ของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) โดยให้ผอ.เขตพื้นที่ฯ ผอ.สถานศึกษา และประธานกรรมการบริหารการศึกษาขั้นพื้นฐานประจำเขตตรวจราชการ ร่วมดำเนินการป้องกันการเรียกรับทรัพย์สินฯ ดำเนินการดังต่อไปนี้
1.ให้เขตพื้นที่การศึกษาฯลงพื้นที่สุ่มตรวจการรับนักเรียน ปีการศึกษา 2561 โดยเฉพาะโรงเรียนที่มีอัตราการแข่งขันสูง และเร่งรัดประชาสัมพันธ์ สร้างความรู้ ความเข้าใจให้ผู้ปกครองนักเรียน ประชาชนรวมทั้งข้าราชการในสังกัดรับทราบถึงความผิดและบทลงโทษ กรณีการเรียกรับ หรือยอมจะรับทรัพย์สิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรณีของเงินบริจาค ซึ่งการกระทำดังกล่าวไม่อาจถือได้ว่าเป็นเงินบริจาคแต่ถือเป็นเงิน “สินบน” ในฐานะผู้รับสินบนและให้สินบน ซึ่งมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา และกฎหมาย ป.ป.ช.
2.กรณีมีผู้บริจาคทรัพย์สินให้สถานศึกษาถือปฏิบัติตามระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ว่าด้วยการรับเงินหรือทรัพย์สินที่มีผู้บริจาคให้สถานศึกษา พ.ศ.2552 อย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันปัญหาการเรียกรับแป๊ะเจี๊ยะ
และ 3.ให้ประธานกรรมการบริหารการศึกษาขั้นพื้นฐาน ประจำเขตตรวจราชการสนับสนุน ส่งเสริมประสานความร่วมมือ ควบคุม กำกับติดตาม ประเมินผลเขตพื้นที่ฯ และสถานศึกษาในสังกัดให้ดำเนินการตามมาตรการดังกล่าวอย่างเคร่งครัด
** อ่านต้นฉบับเต็มได้ที่ หนังสือพิมพ์สยามรัฐ