สพฐ.ล้างท่อทุจริต ใช้มาตรการปราบโกงของ คสช. กับบิ๊ก สพท.-ผอ.โรงเรียน ระหว่างการสอบสวนวินัยร้ายแรง
เมื่อวันที่ 17 เม.ย.2561 นายบุญรักษ์ ยอดเพชร เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยว่า ตนได้รายงานให้ นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการ ทราบเรื่องการดำเนินการตามมาตรการป้องกันและปราบทุจริตในระบบราชการ ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ว่าในส่วนของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) มีผู้เกี่ยวข้องที่ต้องถูกดำเนินการตามมาตรการดังกล่าว ทั้งสิ้น 31 ราย แบ่งเป็น ผอ.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา(สพท.) 5 ราย โดยให้ออกจากราชการไว้ก่อน 1 ราย ให้ออกจากพื้นที่ 3 ราย ให้มาประจำส่วนราชการ 1 ราย, ตำแหน่งรอง ผอ.สพท. 5 ราย ให้ออกจากราชการไว้ก่อน 2 ราย และให้ออกจากพื้นที่ 3 ราย, ตำแหน่ง ผอ.สถานศึกษา 14 ราย ให้ออกจากราชการไว้ก่อนทั้งหมด ตำแหน่งครู 1 ราย ให้ออกจากราชการไว้ก่อน และตำแหน่งบุคลากรทางการศึกษา 5 ราย ให้ออกจากราชการไว้ก่อน 1 ราย และให้ออกจากพื้นที่ 4 ราย
ทั้งนี้ ในส่วนที่เป็นอำนาจของเลขาธิการ กพฐ. ในการลงนามในคำสั่ง คือ ตำแหน่ง ผอ.สพท., รอง ผอ.สพท.นั้น ตนได้ลงนามแล้วเรียบร้อย ส่วนที่เหลือจะส่งให้นายการุณ สกุลประดิษฐ์ ปลัด ศธ. แจ้งให้ศึกษาธิการจังหวัด (ศธจ.) ในฐานะหัวหน้าส่วนราชการลงนามต่อไป
“การใช้มาตรการของ คสช.ครั้งนี้ ถือเป็นการล้างท่อ กรณีให้ออกจากราชการไว้ก่อน คือ มีคำสั่งศาลว่ากระทำความผิดจริง หรือคณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรง สรุปโทษเพื่อเสนอคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) เห็นชอบให้ลงโทษแล้ว ส่วนการให้ย้ายออกจากพื้นที่ คือ ผ่านการสืบสวนแล้ว มีข้อมูลชัดเจนว่า มีแนวโน้มที่จะกระทำผิดจริง จึงให้ย้ายออกจากพื้นที่ไว้ก่อน และอยู่ระหว่างสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรงแต่ยังไม่สรุปผล ยืนยันว่า ไม่ใช่การกลั่นแกล้ง เพราะมีการตั้งคณะกรรมการดำเนินการตามมาตรการป้องกันและปราบทุจริตในระบบราชการของ คสช. ของ สพฐ. ซึ่งมีเลขาธิการกพฐ. เป็นประธานขึ้นมาพิจารณาโดยเฉพาะ เพื่อป้องกันการถูกฟ้องศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง คนที่ถูกใช้คำสั่งตามมาตรการ คสช.ครั้งนี้ ส่วนใหญ่เป็นเรื่องของการทุจริตประพฤติมิชอบ กับ ทำผิดระเบียบพัสดุและระเบียบการเงินการคลัง จนทำให้ราชการได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรง โดยทั้ง 31 ราย เป็นอำนาจการพิจารณาของ สพฐ. สำหรับส่วนในพื้นที่อยู่ระหว่างรอข้อมูลจาก สพท.และเตรียมจะนัดประชุมกับ ศธจ. เพื่อดำเนินการตามาตรการดังกล่าว” นายบุญรักษ์ กล่าว
** อ่านต้นฉบับเต็มได้ที่ หนังสือพิมพ์สยามรัฐ