มุ่งลดข้อขัดแย้ง สร้างความสมานฉันท์ในโรงเรียน ชี้เห็นปัญหาความขัดแย้งในหมู่เยาวชนแนวโน้มรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ เพื่อให้อยู่ร่วมกันอย่างปกติสุขในสังคม
ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดสุโขทัย จัดพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ระหว่าง ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดสุโขทัย กับ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต38 (สุโขทัย-ตาก) โดยมีนายชัยวัฒน์ เตชะภาสรนันทน์ ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดสุโขทัย และนายอำนวย อภิชาติตรากูล ผู้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 38 (สุโขทัย-ตาก) ลงนาม เพื่อร่วมกันอบรมนักเรียน เป็นนักไกล่เกลี่ยรุ่นเยาว์ ลดข้อขัดแย้ง สร้างความปรองดอง สมานฉันท์และรู้รักสามัคคีในโรงเรียน เมื่อเร็วๆ นี้
ทั้งนี้ เนื่องจากปัญหาความขัดแย้งในหมู่นักเรียน นักศึกษา ไม่ว่าจะเป็นทะเลาะวิวาท ลักเล็กขโมยน้อย ทำลายข้าวของ หรือกระทั่งปัญหากระทบกระทั่งกันเพียงเล็กน้อย นับวันจะรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ การจัดการความขัดแย้งในสถานศึกษาโดยสันติวิธี ด้วยการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท น่าจะเพิ่มวิธีการที่เหมาะสมกับการขัดแย้งที่เกิดขึ้นในสถานศึกษา
ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดสุโขทัย จึงมีแนวนโยบายสนับสนุน ให้มีการจัดตั้งศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทในสถานศึกษาขึ้น โดยศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดสุโขทัย มีบทบาทเผยแพร่ความรู้และเทคนิคในการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทให้นักเรียน นักศึกษา ที่ทำหน้าที่เป็นผู้ไกล่เกลี่ยอย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง ซึ่งการจัดโครงการอบรมนักไกล่เกลี่ยรุ่นเยาว์ เพื่อพัฒนาความรู้และทักษะ บทบาทหน้าที่ของผู้ไกล่เกลี่ยให้นักเรียนที่ได้รับคัดเลือก เป็นผู้ไกล่เกลี่ยประจำโรงเรียน เป็นประโยชน์ต่อครูและนักเรียนผู้ทำหน้าที่ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทประจำโรงเรียน สามารถแก้ปัญหาข้อขัดแย้งของนักเรียนโดยสันติวิธี ด้วยวิธีไกล่เกลี่ย ทั้งอย่างรักษาความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างนักเรียน ครู อาจารย์ และผู้ปกครองได้เป็นอย่างดี
นายชัยวัฒน์ เตชะภาสรนันท์ ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดสุโขทัย กล่าวว่า การไกล่เกลี่ยข้อพิพาท ไม่มีฝ่ายใดแพ้ ฝ่ายใดชนะ มีแต่ชนะทั้งสองฝ่ายต่าง ได้รับประโยชน์ตรงตามความปรารถนาของตน ทำให้เกิดความปรองดองสมานฉันท์ และรู้รักสามัคคี ส่งผลให้นักเรียนในโรงเรียนรวมถึงครูและผู้ปกครองอยู่ร่วมกันอย่างปกติสุข
** อ่านต้นฉบับเต็มได้ที่ หนังสือพิมพ์สยามรัฐ