สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี พระราชทานปริญญา บัณฑิตรุ่นที่ 14 มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย จำนวนกว่า 2,462 ราย
วันที่ 14 ก.พ.60 เวลา 09.00 น.ที่หอประชุมสมเด็จย่า มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง (มฟล.) จัดพิธีพระราชทานปริญญาบัตร ประจำปีการศึกษา 2558 โดยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร โปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ในการพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษา ทั้งระดับบัณฑิต มหาบัณฑิต และดุษฎีบัณฑิต จำนวน 2,462 ราย จากสำนักวิชาวิทยาศาสตร์, การจัดการ, เทคโนโลยีสารสนเทศ, อุตสาหกรรมเกษตร, นิติศาสตร์, วิทยาศาสตร์เครื่องสำอาง, วิทยาศาสตร์สุขภาพ, พยาบาลศาสตร์, จีนวิทยา และศิลปศาสตร์
ซึ่งในปีนี้ มีผู้เข้ารับพระราชทานปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ ตามที่สภา มฟล. มีมติอนุมัติ คือ ม.ล.ไกรฤกษ์ เกษมสันต์
รับปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขานิติศาสตร์ ซึ่งเป็นผู้มีความรู้ความเชี่ยวชาญในสาขาวิชานิติศาสตร์ โดยเริ่มรับราชการในตำแหน่งอาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในปี 2514 ก่อนสอบเข้าและดำรงตำแหน่งเป็นผู้ช่วยผู้พิพากษา ผู้พิพากษาประจำกระทรวง และผู้พิพากษาศาลจังหวัด ตามลำดับ รวมถึงผู้พิพากษาในศาลแพ่ง ศาลอาญา และศาลฎีกา นอกจากและดำรงตำแหน่งผู้พิพากษาอาวุโสในศาลฎีกา ตั้งแต่ปี 2550 ถึงปัจจุบัน นอกจากนี้ยังเคยดำรงตำแหน่งผู้บริหารด้านธุรการในตำแหน่งอธิบดีกรมคุมประพฤติ ระหว่างปี 2535-2540 ทั้งยังมีส่วนร่วมในการพัฒนาและส่งเสริมด้านวิชาการของสำนักวิชานิติศาสตร์ มฟล.มาอย่างต่อเนื่อง
ในโอกาสนี้สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานพระราโชวาทความว่า
“สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้ข้าพเจ้ามาปฏิบัติพระราชกรณียกิจแทนพระองค์ ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ประจำปีนี้ ขอแสดงความชื่นชมต่อผู้ทรงคุณวุฒิและบัณฑิตทุกคนที่ได้รับเกียรติและความสำเร็จ
คนเราแต่ละคน ย่อมมีภาระหน้าที่แตกต่างกันไป ตามสถานะ ความฉลาดสามารถและโอกาสที่ได้รับ ผู้ที่มีโอกาสดี ได้ศึกษาเล่าเรียนจนมีความรู้ความสามารถและคุณสมบัติสูงขึ้นก็ควรต้องมีภาระหน้าที่ที่จะประกอบกิจการงานให้บังเกิดผลเป็นประโยชน์มากขึ้น พูดถึงประโยชน์แล้ว ก็มีอยู่สองอย่าง ได้แก่ประโยชน์ส่วนตน กับประโยชน์ส่วนรวม การทำงานทุกอย่าง จะมุ่งกระทำเพื่อประโยชน์ส่วนใดส่วนหนึ่งมิได้ หากต้องให้อำนวยประโยชน์ทั้งสองส่วน จึงจะบังเกิดผลเป็นความเจริญมั่นคงที่แท้จริงและยั่งยืน บัณฑิตทั้งหลายนับว่าเป็นผู้มีโชคมีโอกาสดีกว่าผู้อื่นอีกเป็นจำนวนมาก ด้วยได้รับการศึกษาอบรมจนมีความรู้และคุณสมบัติพร้อมที่จะออกไปประกอบอาชีพการงาน จึงขอให้ทุกคนสำนึกตระหนักในภาระหน้าที่ของตน แล้วตั้งใจพยายามปฏิบัติการทุกอย่างให้เป็นประโยชน์สร้างสรรค์อย่างสมบูรณ์พร้อม เพื่อความเจริญก้าวหน้าและความผาสุกมั่นคง ทั้งของแต่ละบุคคลและของสังคมประเทศชาติ
ในพระปรมาภิไธยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ขออวยพรให้บัณฑิตทุกคน และทุกท่านที่มาร่วมในพิธีนี้ ประสบความสุขสวัสดี พร้อมทั้งความเจริญรุ่งเรืองโดยทั่วกัน”
ในการนี้สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ เสด็จฯ ทอดพระเนตรนิทรรศการที่มหาวิทยาลัยจัดเตรียมไว้ในหัวข้อ “ป่าในจังหวัดน่าน” ซึ่งเป็นการศึกษาวิจัยเรื่อง การสูญเสียและการฟื้นฟูป่าไม้ใน จ.น่าน โดย มฟล. เป็นงานวิจัยที่ได้รับเงินอุดหนุนการวิจัยจากมูลนิธิ 100 ปี สมเด็จพระศรีนครินทร์ ประจำปีงบประมาณ 2559
สำหรับนิทรรศการดังกล่าว มีเนื้อหาเกี่ยวกับป่าไม้ใน จ.น่าน โดยประกอบด้วย ที่มาและความสำคัญ ดังนี้ จ.น่าน เป็นแหล่งน้ำที่เป็นต้นกำเนิดของต้นน้ำและมีบทบาทสำคัญต่อความมั่งคงทางนิเวศของลุ่มน้ำในภาคเหนือและภาคกลาง ซึ่งการสูญเสียป่าไม้ในจังหวัดน่าน ถึง 1.73 ล้านไร่ หรือร้อยละ 27 ของพื้นที่ป่าไม้ทั้งหมด จึงเป็นปัญหาทางสิ่งแวดล้อมที่สำคัญและจำเป็นต้องได้รับการแก้ไข
โดยงานวิจัยได้ค้นพบสาเหตุของการสูญเสียป่า ไม่ว่าจะเป็นทางเลือกในการประกอบอาชีพมีจำกัด หรือการส่งเสริมการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และยังได้เสนอแนวทางการฟื้นฟูป่าไม้ไว้หลายแนวทาง เช่น การพัฒนาอาชีพเพื่อเพิ่มแหล่งรายได้นอกภาคเกษตร, พัฒนาการศึกษาและการสาธารณสุขในพื้นที่ห่างไกล เพื่อลดค่าใช้จ่ายและสร้างโอกาส เป็นต้น โดยต้องอาศัยความร่วมมือจากหลายฝ่าย ทั้งภาครัฐและภาคประชาชน โดยเฉพาะมหาวิทยาลัยที่จะมีส่วนในการจัดทำรูปแบบและแนวทางเพื่อการประสานพลังในการฟื้นฟูป่าไม้
** อ่านต้นฉบับเต็มได้ที่ หนังสือพิมพ์สยามรัฐ