ก.ค.ศ.สรุปยกร่างเกณฑ์ใหม่ย้ายผู้บริหารโรงเรียน / เห็นชอบสอบครูผู้ช่วย สพฐ.ปี 61 ยึดเกณฑ์เดิมขึ้นบัญชี 2ปี
วันที่ 30 มี.ค.2561 นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ว่า ที่ประชุมหารือแนวทางการแก้ปัญหาการย้ายผู้บริหารสถานศึกษา ซึ่งไม่สามารถดำเนินการได้ เนื่องจาก ผอ.โรงเรียน แห่งหนึ่งได้ยื่นฟ้องร้องต่อศาลปกครองอุบลราชธานี เมื่อราวปลายปี 2559 โดยศาลปกครอง มีคำสั่งทุเลาการบังคับใช้หลักเกณฑ์และวิธีการย้ายผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ตาม ว 24 ในข้อ 10 และข้อ 11 โดยสำนักงาน ก.ค.ศ.ได้ยื่นอุทธรณ์คำสั่งทุเลาต่อศาลปกครองสูงสุด และทำหนังสือแจ้งเวียนไปยังสำนักงานศึกษาธิการจังหวัด (ศธจ.) ชะลอการพิจารณาย้ายผู้บริหารสถานศึกษา ที่ยื่นคำร้องขอย้ายระหว่างวันที่ 1-15 ส.ค.2560 ไว้เป็นการชั่วคราวจนกว่าศาลปกครองสูงสุด จะมีคำวินิจฉัยอุทธรณ์คำสั่งทุเลา เป็นผลให้ไม่สามมารถเปิด สอบบรรจุ ผอ.โรงเรียน ซึ่งยังว่างอยู่กว่า 3,400 อัตราได้
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาศาลปกครอง มีข้อแนะนำเพื่อให้การดำเนินการย้ายผู้บริหารโรงเรียน สามารถเดินต่อไปได้ให้ ศธ. พิจารณาใช้หลักการทางการบริหาร หรือพิจารณาใช้หลักเกณฑ์การย้ายตาม ว9 ซึ่งที่ประชุมได้หารือกับฝ่ายกฎหมาย และมีการพิจารณาอย่างกว้างขวางเห็นว่า ถ้ารอผลการอุทธรณ์เพียงอย่างเดียว อาจจะนานเกินไป ดังนั้นจะปฏิบัติตามข้อแนะนำของศาลปกครอง ใช้วิธีการทางปกครอง โดยให้สำนักงาน ก.ค.ศ.ยกร่างหลักเกณฑ์การย้ายขึ้นมาใหม่
ดังนั้น ปัญหานี้น่าจะได้รับการแก้ไขไม่เกินเดือน เม.ย.นี้ ส่วนผู้ที่ยื่นขอย้ายตาม ว24 ก็ต้องพักไว้ก่อน เพราะยังติดคำสั่งศาลปกครองไม่สามารถดำเนินการได้ แต่หากหลักเกณฑ์ใหม่ออกมาแล้ว มีคุณสมบัติครบตามหลักเกณฑ์ใหม่ก็สามารถยื่นขอย้ายตามหลักเกณฑ์ใหม่ได้
ด้าน นายพินิจศักดิ์ สุวรรณรังค์ เลขาธิการ ก.ค.ศ. กล่าวว่า ขณะนี้การอุทธรณ์คำสั่งศาลปกครอง อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลปกครองสูงสุด ซึ่งระยะเวลาได้ล่วงเลยมาพอสมควร โดยทางที่ประชุมเห็นว่า เพื่อให้การดำเนินการแก้ไขนี้เป็นไปอย่างรวดเร็ว จึงให้ดำเนินการทางบริหาร โดยให้สำนักงาน ก.ค.ศ.ไปกำหนดหลักเกณฑ์การย้าย ผอ.โรงเรียน เป็นการเฉพาะ โดยหลักเกณฑ์ดังกล่าวจะใช้เฉพาะการย้ายผู้บริหารโรงเรียนครั้งนี้เท่านั้น ซึ่งหลักเกณฑ์ที่จะยกร่างใหม่นี้ จะต้องไม่ไปกระทบกับข้อ10 และ11 ของว24 และคำสั่งศาลที่ให้มีการทุเลา เพื่อให้การพิจารณาย้ายผู้บริหารสถานศึกษาสามารถดำเนินการต่อไปได้
เลขาธิการ ก.ค.ศ.กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ ที่ประชุมยังมีมติเห็นชอบให้กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการสอบแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเข้ารับราชการ เป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครูผู้ช่วย สังกัดสพฐ. ปี พ.ศ. 2561 โดยใช้หลักการเดิมไปก่อน คือให้มีการสอบทั้ง ภาค ก ภาค ข และภาค ค แต่จะต้องให้สอดคล้องกับคำสั่งหัวหน้า คสช. และให้มีการขึ้นบัญชีผู้สอบแข่งขันได้ 2 ปี ทั้งนี้ สำนักงาน ก.ค.ศ. ต้องไปดำเนินการจัดประชุมหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อยกร่างหลักเกณฑ์และวิธีการให้แล้วเสร็จโดยเร็ว และให้นำเสนอ ก.ค.ศ. ในการประชุมครั้งต่อไป ทั้งนี้ สพฐ.กำหนดปฏิทินการสอบครูผู้ช่วยไว้ในช่วงเดือน ก.ค.
อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมยังเห็นชอบให้เสนอคณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐ (คปร.) เพื่อขอยกเว้นเงื่อนไขการจัดสรรอัตราว่างจากผลการเกษียณอายุราชการของข้าราชการครู สังกัด สพฐ. เฉพาะเมื่อสิ้นปีงบประมาณ พ.ศ. 2560 คืนให้กับโรงเรียนประถมศึกษา โรงเรียนประถมศึกษาขยายโอกาสและโรงเรียนมัธยมศึกษาที่มีจำนวนนักเรียนน้อยกว่า250 คน ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ปกติแต่ประสบปัญหาการขาดแคลนอัตรากำลังครู จำนวนรวมทั้งสิ้น 2,965 แห่ง จำนวน 3,621 อัตรา
** อ่านต้นฉบับเต็มได้ที่ หนังสือพิมพ์สยามรัฐ