สุดารัตน์ ชวน ปชช.ร่วมผลักดันนโยบายบำนาญ เดือนละ 3 พันบาท รับสังคมสูงวัยเต็มขั้น
เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) ระบุถึงกรณีที่รัฐสภาผ่านความเห็นชอบรายงานการศึกษา เรื่องแนวทางการเสนอกฎหมายบำนาญพื้นฐานแห่งชาติ เรียบร้อยแล้ว โดยหลังจากนี้จะต้องส่งต่อไปยังรัฐบาลเพื่อให้ดำเนินการตามรายงานและข้อสังเกตต่อไป ทั้งนี้ รายงานดังกล่าวมีเนื้อหาสาระเป็นไปในทิศทางเดียวกับนโยบาย “บำนาญประชาชนเดือนละ 3,000 บาท” ที่พรรคไทยสร้างไทยนำเสนอและประกาศเป็นนโยบายมาเกือบหนึ่งปีแล้ว ว่า ดิฉันได้ติดตามการพิจารณารายงานของสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเป็นการศึกษา เรื่องแนวทางการเสนอกฎหมายบำนาญพื้นฐานแห่งชาติ โดยเห็นว่าร่างรายงานดังกล่าวมีเนื้อหาสาระเป็นไปในทิศทางเดียวกับนโยบาย “บำนาญประชาชนเดือนละ 3,000 บาท” ที่พรรคไทยสร้างไทยได้นำเสนอ และประกาศเป็นนโยบายมาเกือบหนึ่งปีแล้ว
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- สภาหนุน “บำนาญแห่งชาติ” ส่งต่อรัฐบาล หวังเป็นสวัสดิการ-ลดเหลื่อมล้ำ
คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวว่า หลักการและแนวคิดดังกล่าวมีเหตุผลและความจำเป็น เพราะประเทศไทย เป็นประเทศกำลังพัฒนาประเทศแรกของโลกที่ก้าวเข้าสู่สังคมสูงอายุแบบสมบูรณ์ (Aged Society) อย่างเต็มขั้นในปี 2565 และคาดว่าประเทศไทยจะขยับขึ้นเป็นสังคมสูงอายุแบบสุดยอด (Hyper Aged Society) หรือมีสัดส่วนประชากรผู้สูงอายุประมาณ 20% ในปี 2574 ดังนั้น ดิฉันและพรรคไทยสร้างไทยจึงเสนอนโยบายบำนาญประชาชนดังกล่าว เพื่อเป็นเครื่องมือเตรียมการรองรับสังคมสูงวัยของไทย โดยเราต้องดูแลผู้สูงวัยให้แข็งแรง ซึ่งจะปล่อยให้ประเทศไทยมีแต่คนแก่ที่อ่อนแอและยากจนอย่างในปัจจุบันไม่ได้ เพราะจะส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิต และค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลผู้สูงวัยทั้งของรัฐและครอบครัว ตลอดจนจะส่งผลกระทบต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศอย่างยิ่ง เพราะคนทำงานหารายได้จะลดลง
คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวต่อว่า พรรคไทยสร้างไทยจึงออกแบบนโยบายบำนาญประชาชน เพื่อแก้ปัญหาสังคมผู้สูงวัย โดยนโยบายนี้จะสามารถแก้ไขปัญหาและสร้างประโยชน์ได้ถึง 4 อย่าง คือ 1.ผู้สูงอายุมีเงินเพียงพอต่อการยังชีพ อยู่ได้อย่างมีศักดิ์ศรี 2.ผู้รับบำนาญประชาชนต้องมีหน้าที่ในการสร้างสุขภาพให้แข็งแรง โดยรัฐจะจัดให้มีโปรแกรมในการสร้างสุขภาพผ่านศูนย์สุขภาพชุมชน โดยมีการตั้งเป้าหมายเพื่อลดโรคไขมัน ความดัน เบาหวาน และมีโปรแกรมการฝึกสมอง กล้ามเนื้อ และจิตให้ผู้สูงอายุ 3.ลดภาระลูกหลานในการเลี้ยงดูผู้สูงอายุ จะได้สร้างตัวได้ หมดกังวลในการดูแลพ่อแม่ 4.เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากที่จะทำให้เศรษฐกิจของประเทศฟื้นตัวได้
“เพราะเป็นการใส่เม็ดเงินเพื่อเพิ่มกำลังซื้อ จะเกิดกำลังซื้อมหาศาลให้กับเศรษฐกิจฐานรากขับเคลื่อนได้ ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจโดยรวมของประเทศขยายตัวดีขึ้นตามมา เมื่อเศรษฐกิจดีขึ้นรัฐบาลก็สามารถเก็บภาษีได้มากขึ้น จึงขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนทุกคนมาร่วมกันเป็นเครือข่ายบำนาญประชาชนของพรรคไทยสร้างไทย เพื่อร่วมกันสนับสนุนระบบสวัสดิการนี้ให้เกิดขึ้นในสังคมไทย”
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก
Line @Matichon ได้ที่นี่