13 ต.ค.64 – นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ อดีตรมว.การอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์ วิจัยและพัฒนา และอดีตรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์ภายหลังมีกระแสข่าวกลุ่มสี่กุมารเตรียมจับมือกลุ่มการเมืองว่า เรื่องนี้ก็ไม่ทราบและไม่ได้ติดตามมาตั้งแต่ต้น แต่สำหรับตนแล้วได้บอกกับคนอื่นๆในทีมสี่กุมารแล้วว่า ครั้งนี้ตนขอเว้นวรรคทางการเมือง เพราะยังมีหลายเรื่องที่ทำให้กับบ้านเมืองได้และกำลังทำอยู่ แต่อย่างไรก็ขอให้กำลังใจกับทุกคนที่จะเดินหน้าทำงานการเมืองกันต่อไป
เมื่อถามว่าที่แสดงเจตนารมณ์ต้องการเว้นวรรคทางการเมือง เป็นเพราะการเมืองที่กลุ่มสี่กุมารเจอมาหรือไม่ นายสุวิทย์ กล่าวว่า อย่างที่บอกอะไรก็ตามเมื่อเรามาเราก็ต้องไป คงไม่ได้ยึดติด และด้วยสูตรโครงสร้างเวลานั้น ทำให้เราไม่สามารถเข้าไปมีปฏิสัมพันธ์กับส.ส.ในสภาได้ ซึ่งเป็นจุดตายอยู่แล้ว และเรื่องของเกมการเมืองเราก็รู้อยู่แล้วว่าก็ต้องเป็นแบบนี้
นายสุวิทย์ กล่าวว่า หลังจากตนลงจากตำแหน่งก็ได้มาขับเคลื่อนใน 2 เรื่อง คือ การสร้างพื้นที่ปลอดภัยให้เยาวชนโดยการปั้นผู้นำเยาวชนให้เป็นคนกำหนดอนาคตประเทศ (Future Changer) หาพื้นที่ปลอดภัยให้เด็กและเยาวชนได้แสดงออก ในนามโครงการ Youth in Charge Leadership Academy ร่วมกับภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม และภาคการศึกษา และเรื่องที่ 2เศรษฐกิจชีวภาพ-เศรษฐกิจหมุนเวียน-เศรษฐกิจสีเขียว หรือ BCG (Bio Circular Green Economy) ที่จะเป็นหัวรถจักรในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยหลังโรคโควิด-19 สร้างโอกาสของประเทศไทยในเรื่องของความปลอดภัย ความมั่นคงทางด้านอาหาร สุขภาพ และการมีงานทำ BCG เป็นการตอบโจทย์และถ้าทำดีๆมันไม่ใช่ไม่มีความหวัง สำหรับตนตรงนี้ถือเป็นการทำงานให้กับบ้านเมืองได้อีกทางหนึ่ง
ทั้งนี้ สมาชิกกลุ่มสี่กุมาร ได้แก่ นายอุตตม สาวนายน อดีต รมว.คลัง และอดีตหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ อดีต รมว.พลังงาน และอดีตเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ อดีตรมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และอดีตรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล อดีตรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง และอดีตกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ